ตอนที่ 152
ซ่งฝูหลิงรีบวิ่งเข้ามากอดเฉียนหมี่โซ่วไว้
นางไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดตามที่คิดไว้เพราะเฉียนเผ่ยอิงคอยยืนบังอยู่ข้างหลังนาง ปกป้องนางเหมือนแม่ไก่ที่คอยปกป้องลูกน้อย ใช้มือขวางทหารคนนั้นที่ถือมีดสั้นเดินเข้ามา แต่นางกลับล้มลงเอง
“ท่านแม่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ท่านแม่!”
“ท่านป้า ท่านป้า!” เฉียนหมี่โซวนั่งร้องไห้กับพื้น
ในเวลาเดียวกัน ซ่งฝูเซิงไม่ได้สังเกตเหตุการณ์ทางด้านนี้ เขายังคงยืนปกป้องกลุ่มคนของเขา
พวกชายฉกรรจ์ทั้งหลายทนไม่ไหวแล้ว
ตีคนแก่ เตะเด็ก เจาะถุงกระสอบถั่วเมล็ดสนจนขาด ถั่วเมล็ดสนร่วงหล่นบนพื้นเต็มไปหมด รถเข็นก็ถูกค้นจนคว่ำ
พวกเขาไม่เข้าใจ พวกเขาแค่ผ่านทางมา ต้องการประทับตราเอกสาร พวกเขาทำเรื่องอะไรผิดหรือ?
พวกเขาวางอาวุธในมือที่สามารถต่อสู้ปกป้องตนเองได้ เพราะเชื่อมั่นอย่างสุดใจว่าตลอดการเดินทางมีทหารคอยปกป้องคุ้มครองพวกเขา พวกเขาสามารถนอนได้อย่างสบายใจ ใช่ พบกับคนดีมีน้ำใจหลายคน แต่ไม่คาดคิดว่าคนมีอำนาจในมือจะมองประชาชนอย่างพวกเขาเป็นผักปลา
“ลุงสามของข้าเป็นถงเซิง เจ้าอย่าคิดว่าพวกเราไม่รู้ ลุงสามของข้าสามารถไปศาลร้องเรียนพวกเจ้าได้!” เกาเถี่ยโถวตะโกนออกมา
พวกผู้ชายต่างตะโกนเตือนพร้อมกัน “ใช่ ร้องเรียนเขา ทำไมทำอย่างนี้!”
“ใช่ ข้าได้ยินเถ้าแก่ท่านนั้นบอกว่า ทางการสามารถเข้ามาดูแลเรื่องราวของบัณฑิตได้พวกเจ้าอย่าคิดว่าพวกข้าไม่รู้”
“เสี่ยวซาน? เสี่ยวซาน!” เกาถูฮู่เริ่มมีความมั่นใจ แม่เจ้า ยอมที่จะเสียเวลาเดินทางหลายวันก็ต้องให้เสี่ยวซานที่มีอนาคตดีสุดในครอบครัวไปร้องเรียนคนพวกนี้
“โอ้ พวกเจ้ามีบัณฑิตใช่ไหม ไหนล่ะ? หนังสือรับรอง?” หัวหน้าหน่วยจ้องมองซ่งฝูเซิง ท่ามกลางเสียงร้องตกใจของพวกผู้หญิงกับเสียงเด็กๆ ร่ำไห้ เขาพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะและยื่นมือออกมาเพื่อทวง
ตอนนี้ซ่งฝูเซิงก็ไม่กล้าให้พวกเขาดู
คนพวกนี้ค่อนข้างงี่เง่า อยู่ในอำเภอเล็กๆ นี้มีความรู้ค่อนข้างจำกัด
อยู่ในสถานที่เล็กๆ นี้ ทำตัวกร่างจนเคยชิน ทำให้พวกเขาไม่กลัวอะไร ไม่มีใครจะคาดเดาได้ว่าพวกเขาจะทำอะไรต่อไป
ถ้าให้หนังสือรับรองไป เกิดเขาฉีกมันขาด เมื่อถึงเวลานั้นคงพูดลำบาก จะไปหาหนังสือรับรองจากที่ไหนมาแทน ลองสังเกตประชาชนที่อยู่ใกล้ๆ ที่เข้าออกเมือง แต่ละคนที่เดินผ่านไม่พูดไม่จา คงรู้นิสัยของพวกเขาเป็นอย่างดี
“ไม่ใช่ ใต้เท้า ท่านฟังข้าพูดก่อน” ซ่งฝูเซิงใช้มือหยิบเศษเงินออกมาและดึงแขนใต้เท้าท่านนี้พาไปข้างหน้าเพื่อที่จะพูดคุยกัน
คนหนึ่งที่อยู่ดีๆ ก็สร้างความลำบากให้กับผู้อื่น มักจะมีแผนการอะไรบางอย่าง ถ้ามีแผนการก็น่าจะแก้ไขง่ายหน่อย
เขาหันกลับไปถลึงตาใส่พวกชายฉกรรจ์ที่เข้ามาล้อมพวกทหารไว้ ด่าไปก็ส่งสายตาไปให้ “หุบปาก! ร้องเรียนใครกัน ใต้เท้าทำไปเพราะความจำเป็นของหน้าที่ ต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่เพื่อประชาชนในเมืองและเพื่อพวกเรา พวกเจ้าต้อง…”
ในตอนนี้เสียงกรีดร้องของซ่งฝูหลิงดังกลบเสียงของทุกคน “ท่านแม่!” และเป็นการตัดบทคำพูดของซ่งฝูเซิงที่จะพูดต่อ
ซ่งฝูเซิงได้ยินก็หันกลับไปมองด้วยความตกใจ เมื่อหันไปมองรถเข็นแถวหน้าก็พบว่าลูกสาวยกมือภรรยาของเขาขึ้นดู ที่มือมีเลือดไหลออกมา ส่วนภรรยานอนหมดสติไม่รู้เรื่อง ด้านข้างยังมีทหารคนหนึ่งกำลังถือมีดสั้น
สมองของเขาแทบจะระเบิด เขากัดฟันพูด “พวกเจ้าสู้กับพวกมัน ทุกคนลุย!”
“นี่? นี่?!” พวกทหารเหล่านี้เริ่มหวาดหวั่นแล้ว พวกเขามีกันสิบกว่าคนจะสู้กับกลุ่มคนที่มีมากกว่าสองร้อยคนได้อย่างไร
มีคนอยากจะเป่านกหวีด ซื่อจ้วงรีบเข้าไปแย่งออกมา
เกาถูฮู่รีบค้นตัว ค้นไปก็ด่าไปด้วย “จะเป่าหาย่าเจ้ารึไง พวกข้าจะประทับตรากันเอง ขอต่อยพวกเจ้าครู่หนึ่งก่อนแล้วพวกข้าค่อยไป ไม่ต้องร้องเรียนอะไรแล้ว”
เครื่องมือทางการเกษตรที่วางอยู่บนรถเข็นถูกแบ่งนำไปใช้กันจนหมด มีดยาวที่เคยทำไว้ใช้กันเองระหว่างการอพยพก็ถูกหยิบขึ้นมา
ในพื้นที่พิเศษ เฉียนเพ่ยอิงรู้สึกมึนงง โอ้ สวรรค์ สมองของนางเหมือนว่างเปล่า
เฉียนเพ่ยอิงลอยมาจากห้องน้ำ ไปยังระเบียง แล้วกลับมายังห้องรับแขก นางรีบสำรวจว่าในห้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นางตบมือและพูดอย่างร้อนรน “ไม่ได้สิ รีบปล่อยข้าออกไปเดี๋ยวนี้”
ตอนที่ 153-1
ตั้งแต่เฉียนเพ่ยอิงสลบไปจนฟื้นคืนสติ นางใช้เวลาอยู่ในพื้นที่พิเศษประมาณสามถึงห้านาที
เฉียนเพ่ยอิงคิดไม่ถึงว่าแค่เวลาเพียงชั่วครู่ เหล่าซ่งของนางจะอารมณ์ร้อนเข้าต่อสู้เสียแล้ว สถานการณ์ด้านนอกก็เปลี่ยนแปลงไปมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว
น่าสนุกจัง...