ทะลุมิติทั้งครอบครัว นิยาย บท 154

เกาถูฮู่ไม่เข็นรถต่อแล้ว เขาหยุดรถแล้ววิ่งมากอดมาหอมเฉียนหมี่โซ่ว และยกตัวหมี่โซ่วขึ้นเหนือหัว

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้จักตราประทับของหน่วยงานราชการ แต่เขาก็รู้ว่ามันต้องใช่แน่ๆ

นี่เด็กอะไรกัน? มือน้อยๆ รู้จักจับสิ่งของเป็นด้วย

พวกซ่งฝูเซิงก็หยุดรถ

ซ่งฝูเซิงรับตราประทับมาดู เมื่อแน่ใจว่าใช่แล้ว เขาก็จ้องมองเฉียนหมี่โซ่วด้วยความประหลาดใจ “ดึงออกมาจากบนตัวของพวกเขา?”

“ไม่ใช่” เฉียนหมี่โซ่วส่ายหน้า “ตอนเสียงฆ้องดัง ใต้เท้าท่านนั้นมาถึงแล้วก็ให้คุกเข่า มันหล่นมาโดนตัวข้า ข้าเลยนำมาใส่กระเป๋าไว้ ท่านลุง ฮือๆ”

“เป็นอะไรไป?” ซ่งฝูเซิงดึงตัวหมี่โซ่วเข้ามากอด

ยิ่งปลอบเฉียนหมี่โซ่วก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น “ท่านป้าเลือดออกแล้ว ท่านลุง ท่านป้าเลือดออกแล้วจะตายหรือไม่ ช่วยท่านป้าของข้าด้วย ฮือๆ”

แผลบนฝ่ามือของเฉียนเพ่ยอิง มองดูค่อนข้างหนัก

ตอนนั้นนางคอยบังอยู่ข้างหลังลูกสาวกับหมี่โซ่ว นางใช้มือผลักวัตถุอันตรายออกด้วยสัญชาตญาณ กลัวว่ามีดจะโดนเด็กทั้งสอง มีดของทหารคนนั้นบาดบนฝ่ามือของนาง เป็นแผลตั้งแต่นิ้วโป้งถึงนิ้วก้อย มีเลือดไหลออกมามาก

แต่มาคิดดู ตอนนี้ทหารนายนั้นไม่จำเป็นต้องนำมีดมาแทงพวกเขา เขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจ เพียงใช้มีดตวัดไปมาแค่จะให้พวกเราหลีกทางไป คงแค่อยากจะขู่ให้พวกเราตกใจ

เฉียนเพ่ยอิงเห็นหมี่โซ่วร้องไห้นางก็ร้องไห้ตาม แต่ไม่กล้ารับเด็กมาอุ้ม กลัวว่าเลือดบนมือจะทำให้หมี่โซ่วตกใจมากขึ้น

หมี่โซ่วบ้านนางอายุยังน้อย แต่ต้องผ่านเรื่องราวมามากมาย ญาติแต่ละคนต้องมาตายจากไป พื้นที่พิเศษในบ้านของนางช่างขาดคุณธรรม นางกับลูกสาวเข้าไปในพื้นที่พิเศษครั้งใดจะต้องมีสภาพเหมือนคนหมดสติ หมี่โซ่วที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย กลับต้องมาเจอเรื่องหวาดกลัวหลายต่อหลายครั้ง

“ไม่เป็นไร ป้าไม่เป็นไรจริงๆ เด็กดี เจ้าดูเลือดข้าสิแห้งแล้ว หาน้ำมาล้างได้ก็ดีขึ้นแล้ว”

“ไม่ๆ ท่านต้องมีเรื่องแน่ ท่านอย่ามาหลอกข้า ข้ากลัว”

ซ่งฝูเซิงใช้มือเช็ดน้ำตาให้กับเฉียนหมี่โซ่วและพูดทีเล่นทีจริง

“เจ้าช่างลำเอียงนัก ไหล่ลุงบาดเจ็บ ตอนนั้นมีเลือดไหลออกมามากกว่าป้าของเจ้าอีก ทำไมถึงไม่เห็นเจ้าร้องไห้ อย่าร้องไห้เลย ถ้าเจ้าไม่ร้องไห้ พวกเราจะได้ออกเดินทาง ด้านหน้ามีอำเภออยู่ เมื่อถึงสถานที่นั้นก็ค่อยไปหาหมอให้ตรวจอาการ ดีไหม?”

เฉียนหมี่โซ่วได้ยินว่าต้องรีบเดินทางไปยังเมืองถัดไปเพื่อพาป้าของเขาไปหาหมอ เขาก็กลั้นน้ำตาไว้ และพยักหน้าขณะที่มีน้ำตาคลอ

ตอนเขาพยักหน้าก็เหมือนกับนึกอะไรออก เขากระซิบข้างหูของซ่งฝูเซิง “รีบใช้เงินที่ท่านปู่ให้มาเถอะ ท่านอย่าตระหนี่เลย”

ใครตระหนี่?

ซ่งฝูเซิงทำหน้าตาเหมือนหงุดหงิด เขาอุ้มเด็กไปไว้บนรถ “ไปๆ นั่งให้เรียบร้อย” เขาห่มผ้าห่มให้เด็กแล้วเปิดถุงน้ำออก “ดื่มซะ เดี๋ยวจะขาดน้ำ”

จากนั้นเขาก็นำตราประทับออกมา และเพื่อความปลอดภัยจึงได้ทำการปั๊มตราประทับบนหนังสือผ่านทางก่อนเลย

ในเวลาเดียวกัน ไม่ได้มีแค่เฉียนหมี่โซ่วเด็กเพียงคนเดียวที่ร้องไห้

โดยส่วนใหญ่ซ่งหลี่เจิ้งจะเป็นคนดูแลเด็ก เขาจึงทำให้เด็กๆ หลายสิบคนร้องไห้ไปด้วย

ซ่งหลี่เจิ้งมีชีวิตอยู่มานานหลายปี ครั้งนี้เขากลับมีความรู้สึกร่วมกัน เมื่อก่อนเขาเคยด่าพวกผู้หญิงเหล่านั้น ต่อว่าพวกนางว่าการร้องไห้ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ ให้อดกลั้นไว้

ฮือๆ ชายชราปาดน้ำตาขณะครุ่นคิด นี่สามารถอดกลั้นได้ไหม? มันบังคับไว้ไม่อยู่ การร้องไห้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่การร้องไห้ก็ทำให้ใจสบายขึ้นได้

น่ากลัวมากจริงๆ

เมื่อคิดได้ดังนี้ เขาก็เข็นรถเข็นและด่าเสียงดัง “พวกคึกคะนอง ธรรมดาเห็นเจ้าหน้าที่ของทางการก็หวาดกลัว ไม่กล้าพูด ทำไมตอนนี้ถึงได้ลุกมาสู้กับคนอื่นเขาได้ พวกเจ้าเคยคิดถึงผลที่จะตามมาไหม!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว