ตอนที่ 166
พวกเด็กๆ ห่มผ้านอนอยู่รวมกัน คนหนึ่งเอาตัวพิงอีกคนไปเรื่อยๆ พวกเขาง่วงจนแทบจะฟุบหลับตรงนั้น หนังตาบน-ล่างเหมือนถูกกาวติดกันไว้ก็ไม่ปาน สักประเดี๋ยวก็สัปหงกหลับจนหน้าผากชนกัน บางคนถึงกับเอามือกุมหน้าผากร้องเสียงดังลั่น
เด็กบางคนง่วงจนทนไม่ไหว ถูกหน้าผากเพื่อนโขกยังไม่ยอมตื่นขึ้นมาดู ขดตัวหลับอยู่ใต้ผ้าห่มกับต่อไป
เฉียนหมี่โซ่วนั่งอยู่ในอ้อมกอดของเฉียนเพ่ยอิง มือน้อยๆ สองข้างของเขากำเสื้อคลุมของนางไว้แน่น แม้ง่วงจนหลับไป มือน้อยๆ สองข้างก็ไม่ยอมปล่อยเสื้อคลุม
“แค่ก แค่ก แค่ก” เด็กน้อยหลับไปไม่นาน สักพักก็มีเสียงไอดังขึ้น
ไม่ใช่เพราะหนาว แต่เป็นเพราะสำลัก
และแล้วเตียงเตาที่ก่อไฟไว้ก็เริ่มให้ความอบอุ่น นางใช้มือคลำที่เตา รู้สึกได้ถึงไออุ่นขึ้นมา
เพราะต้องการไออุ่นเพียงเล็กน้อย ห้องทั้งห้องจึงเต็มไปด้วยกลิ่นกรุ่นของควันไฟ
ถึงจะโง่เขลาขนาดไหนก็ยังดูออก บ้านมุงจากเหล่านี้พังทลายจนไม่เหลือชิ้นดี คนในหมู่บ้านเหรินจยาน่าจะย้ายออกไปได้หนึ่งถึงสองปีแล้ว มีเพียงสองห้องขนาดใหญ่ที่เตียงเตายังแข็งแรง จึงสามารถจุดไฟให้ความอบอุ่นได้
เตียงเตาเหล่านี้ ถ้าไม่ได้ตักเอาผงถ่านออกเป็นปี หากจะก่อไฟอย่างไรก็ไม่คงสามารถที่จะส่งความร้อนเข้ามาข้างในห้องได้ บวกกับเตาทางด้านนอกที่เชื่อมต่อกับเตียงเตาด้านในด้วยท่อไม้ไผ่ ซึ่งท่อปล่อยควันพวกนี้ หากดูจากภายนอกน่าจะไม่ได้ทำความสะอาดนานหลายปีแล้ว คงมีอะไรไปอุดไว้ภายใน ทำให้ห้องนี้เต็มไปด้วยควันลอยคละคลุ้งไปหมด
เพราะควันที่ลอยทั่วห้อง เฉียนเพ่ยอิงสำลักควันจนน้ำตาไหล ลืมตาแทบไม่ขึ้น
นางใช้ผ้าห่มปิดหน้าเฉียนหมี่โซ่วไว้และลงไปนั่งข้างข้างเตา เด็กๆ พากันใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก “อย่าเปิดผ้าห่มออก หาผ้าห่มมาปิดไว้หน่อย”
อุณหภูมิในห้องเริ่มอุ่นขึ้น ท่านย่าหม่ารู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย “อุ่นขึ้นบ้างไหม”
“อุ่นขึ้นมาแล้ว”
“สะใภ้สาม อาศัยเตาตอนที่กำลังอุ่นนี่ เจ้ารีบปูผ้าให้เด็กๆ นอนกันก่อน”
ซ่งฝูหลิงนั่งรออยู่ข้างๆ เตาก่อนแล้ว นางกำลังผิงรองเท้าผ้าของตัวเองและรองเท้าฝ้ายของหมี่โซ่วกับไฟ เนื่องจากระหว่างที่เดินผ่านทุ่งหญ้าที่มีแอ่งน้ำ นางและหมี่โซ่วเดินไม่ระวังจึงตกลงไป สองพี่น้องจึงจมไปในหลุมโคลน
หากไม่ได้สวมรองเท้าก็ไปช่วยพวกผู้ใหญ่ทำงานไม่ได้ ตอนนี้รองเท้าที่ผิงไฟเริ่มหมาดแล้ว น่าจะสวมได้แล้ว
ท่านแม่ของนางกำลังจะปูผ้า แต่ความมืดรอบตัว นางกลัวแม่มองไม่ชัด จึงถือตะเกียงเดินไปเพื่อส่องไฟให้แสงสว่าง
เมื่อนางเดินใกล้เข้ามา พระเจ้าช่วย เตียงเตาเต็มไปด้วยฝุ่น
บนเตียงเตานั่น แม้แต่เสื่อเก่าๆ ก็ไม่เหลือ คนพวกนี้เวลาย้ายก็ย้ายได้หมดจดเหลือเกิน
“ท่านแม่ รอข้าด้วย”
ซ่งฝูหลิงพูดเสร็จก็เดินจากไป
ระหว่างทางพบเสื่อเก่าจึงเก็บมาด้วย มือข้างหนึ่งถือตะเกียง มืออีกข้างหนึ่งคอยดึงหญ้าแห้ง
ซ่งฝูเชิงเดินผ่านมาเห็นลูกสาวพอดี “ดึงไหวหรือไม่”
“ไหวสิท่านพ่อ ไม่ต้องกังวลไป ข้าไม่เชื่อว่าใครจะสามารถทำให้พวกเราลำบากจนตายได้”
ซ่งฝูเชิงมองใบหน้าลูกสาวที่แสงไฟสาดส่องกระทบจนเห็นริมฝีปากเปื้อนยิ้มบนใบหน้าสาวน้อยผู้มีจิตใจเข้มแข็ง
รอยยิ้มนี้ทำให้หัวใจของซ่งฝูเชิงผ่อนคลายลง
ใช่แล้ว นางพูดถูก
ภรรยาและลูกสาวของเขาไม่มีความทรงจำที่เกี่ยวกับยุคโบราณแม้แต่น้อย โชคร้ายเผชิญกับความยากลำบากก็ไม่ได้น้อยไปกว่าเขา แต่จิตใจของพวกนางกลับเข้มแข็งมากกว่าเขาเสียอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว
น่าสนุกจัง...