ทะลุมิติทั้งครอบครัว นิยาย บท 207

ความจริงแล้ว ที่เป่าไฟง่ายที่สุดคือการทำจากกระบอกไม้ไผ่

เพราะตรงกลางของไม้ไผ่จะกลวง ใช้อีกด้านของกระบอกไม้ไผ่ชี้ไปที่ปากเตา และให้คนเป่าลมจากอีกด้าน เปลวไฟจากเตาจะค่อยๆ ลุกโชน

ต้องให้ปากหลอดตรงกับปากเตา ต้องใช้แรงเป่าลมไม่ใช่หรือ เจ้าต้องใช้แรงเป่าอย่างมากก็ต้องเหนื่อยอยู่ดี ถ้าเป่าไม่ดีขี้เถ้าอาจจะลอยกลับมาเปื้อนใบหน้า และอีกอย่าง ใช้ปากเป่าก็ต้องเหนื่อย จะแตกต่างจากเวลาไม่มีที่เป่าไฟอย่างไรกัน

ไม่เช่นนั้นนางจะต้องหาวิธีถนอมแรงในการเป่าไฟ

ถึงตอนนั้น นางแค่นั่งสบายๆ บนตั่งหน้าเตา ไม่ต้องใช้แรงเป่า ไฟก็ค่อยๆ ลุกโชนขึ้น ก่อไฟก็จะง่ายมากยิ่งขึ้น

ซ่งฝูหลิงใช้กิ่งไม้ที่มีขนาดใหญ่แล้วขุดหลุมจากพื้นดิน

นางใช้หมี่โซ่ววิ่งกลับไปเอาไม้ขีดไฟกับซ่งฝูเซิง

เมื่อหมี่โซ่ววิ่งกลับมา หลุมถูกขุดไว้เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่หมี่โซ่วจะวิ่งกลับไป กิ่งไม้กับใบหญ้าก็ถูกนำลงไปในเตาแล้ว

“พี่สาว ทำอะไรหรือ”

“ใส่กิ่งไม้เป็นเชื้อไฟในหลุมแล้วเผาฟืน หลุมนั้นกันลมได้ เมื่อลมพัดมา ไฟเบาๆ ในหลุมจะไม่ดับ”

ซ่งฝูหลิงจุดไฟในหลุม เมื่อจุดไฟเสร็จ แล้วนั่งลงข้างๆ เตา หันไปเล่นดินเหนียว

นางนำดินเหนียวมาปั้นให้เป็นเส้นยาว แล้วนำเส้นดินเหนียววางไว้ให้เป็นชั้นรอบๆ ปากหลุม ทำให้เป็นปากหลุมเป็นวงคล้ายกับทรงกระบอก ถ้าให้ดี ต้องเหลือช่องไว้ให้ไส่ฟืน ซึ่งนางคิดว่าลักษณะคล้ายกับเตาในบ้านที่มีช่องไส่ฟืน

หลังจากนั้น รีบนำดินเหนียวมาปั้นให้เป็นเส้นยาวอีกเส้น มือเล็กๆ ของนางนำดินทั้งสองเส้นมาปะกบกัน แล้วใช้มือลูบเพื่อทำให้ขอบของดินเหนียวเรียบ

“พี่สาว ทำอะไรอีกหรือ”

“พี่จะทำเตาเผาอันเล็ก ไม่ว่าพวกเราจะปั้นอะไร ปั้นจาน ทำที่เป่าไฟ เมื่อใช้ดินเหนียวปั้นเสร็จแล้วจำเป็นต้องใช้ไฟเผาอีกครั้ง เครื่องปั้นเมื่อผ่านการเผาจะแข็งแรงขึ้น ดังนั้นขั้นแรกที่พวกเราจะต้องทำก็คือปั้นเตา ปั้นเสร็จแล้วถึงนำสิ่งที่เราปั้นลงไปวางในเตาเผา หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เตาดินเหนียว เจ้าคอยดูนะ”

เฉียนหมี่โซ่วรู้สึกสงสัย “เตาต้องเป็นรูปทรงสูง ทำไมพี่ถึงปั้นดินเหนียวให้เป็นเส้นยาวเส้นแล้วเส้นเล่าล่ะ”

“สิ่งที่เราปั้นอยู่ตอนนี้เป็นดินเหนียว ถ้าเจ้าปั้นให้เป็นรูปทรงสูง ใช้งานไม่นานเตาจะต้องพังลง”

เตาที่ทำขึ้นไม่เหมือนกับการก่อจากอิฐ และก็ไม่เหมือนกับการก่อจากอิฐดิน

ผู้ใหญ่คงไม่ยอมให้อิฐดินพวกเรานำมาก่อเล่นแน่ พวกเขาต้องเข้าใจว่า พวกเราจะทำให้เสียของ พวกเราต้องพึ่งตัวเองแล้ว

อาศัยดินเหนียวอย่างเดียว จะทำให้เป็นรูปทรงสูง ต้องเริ่มจากทำดินเหนียวเป็นเส้นยาวๆ หลายๆ เส้น แล้วค่อยๆ วางซ้อนกัน พันให้ขึ้นเป็นรูปทรงต่างๆ”

หลังจากที่ซ่งฝูหลิงพูดเสร็จ ก็หันไปสอนหมี่โซ่ว

“เจ้าวางเส้นดินเหนียวซ้อนกันให้เป็นรูปทรงต่อจากเส้นที่วางไว้ก่อนหน้า หมี่โซ่วมองลักษณะมือของพี่สาวในการปั้น หลังจากนั้นนางก็ใช้มือลูบช่องว่างระหว่างดินเหนียวทั้งสองเส้นให้เรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ทำอย่างนั้นไปเรื่อยๆ ระหว่างที่พวกเขาปั้นเส้นดินเหนียว ไฟที่อยู่ในหลุมก็ค่อยๆ เผาดินเหนียวที่ก่อไว้ก่อนหน้า ดินที่เผาแห้งแล้วก็จะไม่พังลง เจ้าเข้าใจหรือยัง”

เฉียนหมี่โซ่วเหลือบตามองไปที่เตาเผาความสูงไม่ถึงสามเท่า มองยังไงก็ไม่คล้ายกับเตา เขากระซิบว่า “แค่เรียนก็ทำเป็นแล้ว แต่ว่า? ข้าไม่รู้ว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ แต่อยากจะบอกว่า มันสกปรกมาก”

“เล่นดินเหนียวจะสกปรกอะไร เร็วเข้า ช่วยข้าปั้นเส้นดินเหนียว ทำให้เป็นเส้นยาวๆ เจ้าดูข้าแล้วทำเป็นหรือยัง”

สุดท้ายแล้ว เฉียนหมี่โซ่วนั่งลงข้างๆ เพื่อช่วยซ่งฝูหลิงปั้นดินเหนียวเป็นเส้นยาว

ครั้งแรกเด็กน้อยยื่นมือเล็กๆ ของเขาไปที่กองดินเหนียว สีหน้าขยะแขยง คิ้วก็ขมวด ทั้งใบหน้ารู้สึกได้ถึงความทรมาน

สกปรกมากกก

ซ่งฝูหลิงไม่ได้สนใจดูสีหน้าน้องชาย ใจจริงแล้ว นางชื่นชมน้องชายอย่างจริงใจ

น้องชายของนางฉลาดมาก ได้ยินอะไรก็จำได้หมด เห็นอะไรก็ทำได้หมด

มือเล็กๆ สองมือ ปั้นเส้นดินเหนียวเป็นรูปเป็นร่างได้อย่างดี และยังวางเส้นดินเหนียวลงในเตาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางสามเซนติเมตรด้วย น้องชายยังรู้จักหลบเปลวไฟข้างล่างที่กำลังร้อนไม่ให้ถูกไฟลวก ฉลาดเหลือเกิน

วางใจได้ ข้าไปข้างนอกสักครู่ ปล่อยให้หมี่โซ่วอยู่ตรงนี้ทำงานต่อ

“พี่ไปเดี๋ยวเดียวจะกลับมา เจ้าอยู่นี้ช่วยปั้นเส้นดินเหนียวรอนะ”

พูดเสร็จ ซ่งฝูหลิงวิ่งกลับไปที่บ้านหลังคามุงจาก

ซ่งฝูหลิงเพิ่งกลับมาถึงบ้าน พอดีกับจังหวะที่มีคนมาส่งข้าวสาร ซึ่งเป็นเวลาที่ทุกคนกำลังยุ่งวุ่นวายมากที่สุด

ลองคิดดู ข้าวสารหลายพันจินต้องมีคนเข็นรถมาส่ง มีคนต้อนรับ มีคนช่วยชั่งน้ำหนักข้าวแต่ละคันรถ โดยมีท่านลุงซ่งเป็นคนบันทึกข้อมูล คนที่มาส่งข้าวสารจำนวนไม่น้อย บวกกับคนของพวกเขาก็ไม่น้อยเช่นกัน บรรยากาศหน้าบ้านหลังคามุงจากในตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คนบรรยากาศครึกครื้นมาก

มีเด็กบางคนแยกไม่ออกว่าคิ้วกับดวงตาอะไรอยู่สูงอยู่ต่ำ บรรยากาศตื่นเต้นและครึกครื้น ในขณะเดียวกันผู้ใหญ่มักไม่ชอบเด็กที่เข้ามาสร้างความวุ่นวาย ทำให้ถูกทำโทษ

วันนี้ข้าวสารที่มาส่งยังไม่ครบตามจำนวน รอบแรกส่งมาก่อนแค่ไม่กี่พันจิน

พ่อบ้านตระกูลเริ่น แจ้งว่าเริ่นจื่อเซิงจะแบ่งส่งข้าวให้เสร็จภายในสามวัน ดังนั้นสามวันนี้จะค่อยๆ ทยอยมาส่งข้าวสาร รบกวนให้ซ่งฝูเซิงเซ็นใบรับสินค้าให้ด้วย

และยังบอกอีกว่า พวกเขาออกจากเมืองเฟิ่งเทียนตั้งแต่เช้าตรู่ พอตะวันเริ่มแตะขอบฟ้าก็รีบออกเดินทาง เมื่อมาถึงที่นี่พบว่าสะพานหักทำให้ข้ามแม่น้ำไม่ได้ ดังนั้นจะต้องเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อเดินอ้อมภูเขาเป็นระยะทางไกล ต้องใช้เวลาถึงสองชั่วยาม

ซ่งฝูหลิงได้ยินคำพูดไม่กี่คำก็หลบไปอีกด้าน มุ่งไปที่กองฟืน

นางหาต้นไม้ที่มีลักษณะต้นหนา อายุค่อนข้างเยอะ และใช้มือดึงเปลือกไม้จากบนลงล่าง ดึงเปลือกไม้ที่แข็งและหนาที่สุดออกมาและไปหยิบเชือกหญ้าแห้งมาอีกหนึ่งกำมือ และยังวิ่งไปหาท่านลุงรองซ่งฝูสี่เพื่อเก็บแผ่นไม้คล้ายๆ กับเขียงใช้หั่นฝัก ใช้รักแร้หนีบแผ่นไม้วิ่งไปจากตรงนี้อย่างรวดเร็ว

ที่ซ่งฝูหลิงต้องวิ่งเร็วเพราะกลัวว่าท่านย่าจะมาเจอ ถึงตอนนั้นนางต้องเรียกไปช่วยทำงานแบกข้าวสารเป็นแน่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว