กับคนพวกนี้ในบ้านเกิด ซ่งฝูเซิงกับภรรยาและบุตรสาว ต่างมีความรู้สึกผูกพันไม่เหมือนกัน
ภรรยาและบุตรสาวของเขาไม่มีความทรงจำ เหมือนไม่มีความผูกพันไม่ว่าจะกับใครก็ตาม เท่ากับต้องเริ่มต้นสร้างความคุ้นเคยกันใหม่
แต่กับเขาไม่เหมือนกัน
หนึ่ง เขามีความทรงจำ มีความทรงจำก็เสมือนร่างกายนี้ยังคงมีอารมณ์ความรู้สึก มีทั้งความสนุกสนาน เศร้าโศกเสียใจ ดีใจ บางครั้งถึงกับควบคุมไว้ไม่อยู่
และความรู้สึกนี้ที่มักกระตุกเส้นประสาทของเขา ซ่งฝูเซิงรู้สึกละอายใจเมื่อใช้ร่างกายคนอื่น
ทำไมถึงรู้สึกผิด?
เขาเคยขบคิดตอนเดินทางมา หากไม่ได้ใช้ร่างกายนี้ ขาดความรู้สึกบางส่วนไป นั่นคงโชคร้ายมาก
ยกตัวอย่างเช่น หากร่างกายของเขาทะลุมิติเวลามา หลังจากนั้นคงไม่ต่างจากมีมนุษย์ต่างดาวมาปรากฏตัว คาดเดาได้ว่า แค่เริ่มปรากฏกายก็อาจถูกประชาชนแถวนั้นตีตายได้ ถ้าไม่ถูกตีตายก็ต้องมาตอบปัญหาสามข้อว่า เจ้าเป็นใคร เจ้ามาจากไหน ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่
ยังมีอีก เขาเป็นคนยุคปัจจุบัน แน่นอนว่าไม่รู้จักตัวอักษรโบราณ เขาไม่รู้หนังสือจึงทำได้เพียงทำไร่ไถนา ยิ่งน่าเวทนากว่านั้นเพราะไม่มีที่ดิน ไม่มีที่ดินจะเลี้ยงดูภรรยากับบุตรสาวได้อย่างไร ต้องกินลม?
ถึงจะไปเป็นขอทาน การขอทานถ้าไม่ระวังก็อาจจะโดนพวกขุนนางตีตายได้ง่ายๆ
ออกแรงเป็นแรงงานชั่วคราว ก็ต้องมีสัญญาซื้อขายตัว แค่คนเดียวนะ แต่ถ้าขายตัวไปแล้วก็กลายเป็นข้ารับใช้ ข้ารับใช้ยังถูกนายจ้างฆ่าเอาชีวิตได้โดยที่ไม่ต้องชดใช้อะไร
ดังนั้น เขาจึงรู้สึกขอบคุณที่ได้ใช้ร่างกายนี้ ได้เรียนหนังสือ รู้จักตัวอักษร คนในบ้านดีกับเขา กลายเป็นคนที่มีอนาคตไกลมากที่สุดในครอบครัว
ไม่รู้ว่าหากท่านแม่ทราบว่าดวงจิตของบุตรชายแท้ๆ จากไปแล้ว จะรู้สึกเสียใจมากแค่ไหน
แค่คิดเช่นนี้ เขาก็รู้ละอายใจ ในเมื่อเขามาใช้ร่างกายนี้แล้ว ได้รับสิทธิในการครอบครองร่างกาย ก็ควรที่จะทำหน้าที่ต่อคนในครอบครัวให้เต็มที่
สอง เพราะว่าเหตุผลนี้เอง เขาจึงมีความรู้สึกสับสนกับคนในครอบครัว แต่ว่าพวกเขาดีกับเขามาก เช่น หากเขาใกล้จะอดตาย กลับบ้านก็มีทางรอด อย่างน้อยก็กินอยู่กับพ่อแม่ได้ แน่นอนว่าพวกท่านต้องให้เขามาอยู่กินด้วย
แค่ยอมให้เขามาอยู่กินด้วยกัน แค่ข้อนี้ ก็ต้องดีกับคนในครอบครัวนี้แล้ว
ดังนั้นจากเหตุผลที่ว่ามานี้ แค่ซ่งฝูเซิงได้ยินแม่ของเขาเถียงไม่ทันป้าใหญ่ เขาก็โมโห
โกรธคนบ้านลุงใหญ่ ที่ดูภายนอกดี แต่จิตใจไม่ดี ท่านป้ารังแกคนเช่นนี้ ต้องมีท่านลุงคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลังแน่
อีกใจก็โมโหแม่ของเขาที่มีความอดทนมาก ควายแก่ตัวหนึ่ง ไปขอกลับคืนมาหลายปีแล้วก็ยังเอากลับมาไม่ได้ ทุกปีต้องเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง ท้ายที่สุดก็จัดการปัญหาไม่สำเร็จเสียที
โกรธที่แม่ของเขาเสียเปรียบป้าใหญ่เสมอ เหมือนพบกับอริเก่า ยิ่งแม่ของเขาไปทะเลาะด้วยมากขึ้นเท่าไร ชื่อเสียงก็ยิ่งไม่ดีและไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ใครพูดถึงแม่ของเขา ต่างก็บอกว่าเป็นหญิงปากร้ายคนหนึ่ง
ท่านป้าใหญ่ของเขากลับตรงกันข้าม หลายปีก่อนเคยช่วยเหลือบ้านเขาเพียงเล็กน้อย ทุกหมู่บ้านไม่มีใครที่ไม่รู้ ใครพูดถึงต่างก็บอกว่าครอบครัวท่านลุงมีน้ำใจคอยให้ความช่วยเหลือ
ปรากฏว่า ท่านลุงได้รับมรดกมากสุด ได้บ้านหลังใหญ่สุด ได้ที่ดินเยอะที่สุด มีแค่ควายแก่ตัวหนึ่ง ก่อนที่ท่านปู่จะเสียชีวิตก็ไม่ได้แบ่งให้ใคร ตอนนี้ทางโน้นก็เลยมาเอาไป
ท่านลุงนั้น ในตอนแรกพูดจาเสียดิบดี จูงควายไปเพื่อช่วยเขาทำไร่ไถนา ตอนนี้พอพวกเขาต้องการใช้ควายตัวนั้นบ้างกลับต้องไปขอยืม ทั้งที่มันเป็นสมบัติร่วมกันของสองครอบครัว
อีกทั้งบางครั้งก็ไม่สามารถขอยืมได้ ดังเช่นวันนี้ ก็คงถูกปฏิเสธอีกเช่นเคย และท่านแม่เปิดปากด่าเสียงดังลั่น ดังไปไกลขนาดสองลี้ก็ยังได้ยิน
ยิ่งน่าโมโหชาวบ้านผู้หญิงที่ไร้ประสบการณ์เหล่านั้น หลงเชื่อคำพูดได้ง่าย สมองกลวง ไม่เคยเอะใจว่าใครคือคนได้รับผลประโยชน์ พวกนางคอยแต่นินทาแม่ของเขา
เสียงแส้ตีล่อดังมาจากปากทางเข้าหมู่บ้าน แม่ของซ่งฝูเซิงกับป้าใหญ่เลิกถกเถียงกันและต่างหันหน้าไปมองตามเสียง
รอจนล่อที่อ่อนแรงค่อยๆ ลากรถเข้ามาใกล้ แม่ของซ่งฝูเซิง ท่านย่าหม่าก็เห็นซ่งฝูเซิงอย่างชัดเจนภายใต้แสงจากไฟที่สาดส่อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว
น่าสนุกจัง...