บีบให้ทำงาน กดดันจะซื้อขนมเค้กของพวกเราให้ได้ ไม่ขายก็ไม่ได้
ทำมาค้าขาย เหตุใดถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้
กลับกันอย่างสิ้นเชิง แทบจะเอาแส้ไล่เฆี่ยนด้านหลังกันแล้ว
ทันใดนั้นน้ำตาของท่านย่าหม่าก็ไหลพรั่งพรูด้วยความรู้สึกอัดอั้นต่อหน้าซ่งฝูหลิงกับเฉียนหมี่โซ่ว
ซ่งฝูหลิงรีบวางตะเกียบลง ยื่นแขนไปโอบท่านย่าหม่าไว้แล้วใช้มือน้อยๆ ลูบหลังของท่านย่าหม่าอย่างแผ่วเบา “ท่านย่า ไม่ต้องร้อง ท่านไม่ใช่คนขี้แง หมู่นี้ท่านพูดอยู่บ่อยๆ มิใช่หรือว่า หนึ่ง วันหลังจะไม่ร้องไห้คร่ำครวญกับใคร อย่าเอาสิ่งที่ไม่จริงมาพูดว่าจริง สอง ห้ามร้องไห้ เดี๋ยวจะทำความโชคดีกระเจิดกระเจิงหายไปหมด”
ท่านย่าหม่าพูดว่า นางไม่ได้พูดบ่อยๆ นางแค่…
เมื่อสบตากับดวงตากลมโตสุกใสของหลานสาว นางยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิม
นางรับงานมาสามสิบเก้าก้อน นางยังเป็นย่าแท้ๆ อยู่หรือเปล่า
ทันใดนั้นก็มีเสียงยินดีดังมาจากด้านนอก “พี่สาว พี่กลับมาหรือยัง”
สะใภ้ใหญ่ของบ้านลุงซ่งเตือนยายหวัง “เรียกหัวหน้าสิ”
“หัวหน้า ท่านกลับมาแล้วหรือยัง”
ท่านย่าหม่ารีบเช็ดน้ำตาออกหมด
“หุบปาก ข้าไม่อยากฟังว่าเจ้าขายออกไปอีกเท่าไร”
“หืม?” ท่านยายหวังทำหน้างง ยังคงมีรอยยิ้มหลงเหลืออยู่บนใบหน้า
ท่านยายกัววิ่งขึ้นเนินมาพลางตะโกน “ไอ๊หยา ไอ๊หยา พวกเจ้ากลับมาเร็วจริงนะ ข้ามีอะไรจะบอก”
“หุบปาก”
ท่านยายหวังรีบขยิบตาให้ รีบหุบปากไปเถอะ
“แต่?”
ไม่ต้องแต่ ไม่ฟังๆ ครั้งแรกประสบความสำเร็จขายขนมเค้กได้ดีใจขนาดไหน เวลานี้ย่าหม่าก็เศร้าใจเท่านั้น
นางไม่อยากรับรู้ ไม่อยากฟังคนพวกนี้เพิ่มจำนวนต่อจากสามสิบเก้าก้อนไปอีก
และไม่ได้กลับไปบ้านลูกสาม แต่เดินเข้าบ้านตัวเองท่ามกลางสายตาสงสัยของเหล่ายายๆ ทั้งหลาย
ต้ายาได้ยินเสียงกุกกักก็ตื่น เขย่าตัวเอ้อร์ยาที่หลับอยู่
เอ้อร์ยาขยี้ตาลุกขึ้นมานั่ง
ท่านย่ากลับมาแล้วก็ไม่กล้านอนต่อ กลัวจะถูกต่อว่า “ท่านย่า หลานจะลุกเดี๋ยวนี้”
ท่านย่าหม่าส่ายมืออย่างหมดอาลัยตายอยาก “พวกเจ้านอนไปเถอะ เมื่อคืนก็แทบไม่ได้นอนกัน”
เอ้อร์ยาคิดในใจ แค่เมื่อคืนที่ไหนกัน เมื่อเช้าก็ยังตีไข่กันอยู่เลย ตอนนี้แค่เห็นไข่ไก่นางก็อยากจะอาเจียนแล้ว
นางล้มตัวลงนอนอีกครั้งแล้วหลับไปจริงๆ
ต้ายาคิดในใจ เจ้าน้องซื่อบื้อ อีกเดี๋ยวก็โดนท่านย่าด่าหรอก ผ้าสกปรกในกะละมังยังไม่ได้ซัก ช่างเถอะ ข้าไปซักให้ก็ได้
ท่านย่าหม่าเองก็ล้มตัวนอนบนเตียงห่างจากเอ้อร์ยาไม่ไกลนัก
ก่อนหลับตานางคิดว่า ทำไมวันนี้ถึงได้เหนื่อยขนาดนี้ ขอข้างีบสักพักได้หรือไม่ อีกประเดี๋ยวลุกขึ้นมาค่อยบอกหลานสาวว่า ไม่เป็นไร พวกเจ้าทำไปตามปกติ ทำได้เท่าไรก็เอาออกไปเท่านั้น ทำไม่ครบ ย่าจะไปขอโทษเขาเอง อยากจะเอาไงก็เอา อยากได้ขนมเค้กไม่มีให้ เอาชีวิตไปแล้วกัน
เวลานี้ย่าหม่าไม่กินข้าว ไม่สั่งงานกลุ่มส่งขนม นอนหลับไปเสียแล้ว
ซ่งฝูหลิงตั้งใจมาบ้านท่านย่า พอมองเข้าไปก็พบว่าท่านย่าหลับไปแล้ว จึงถอยออกมาเงียบๆ
นางถือกระติกเก็บความร้อนที่ข้างในบรรจุน้ำชงเมล็ดเก๋ากี้กับพุทราแห้ง ขณะที่กำลังเดินไปห้องทำขนม เหล่ายายกลุ่มส่งขนมก็ตะโกนขึ้น “ผู้คุมเหรอ”
จากนั้นก็นวดแป้งพลางฟังเหล่ายายๆ รายงาน
นางพูดพร้อมใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “ดีจริงๆ ท่านยายหวัง ยินดีกับท่านด้วยที่ได้ลูกค้าเป็นหอน้ำชานอกเหนือจากโรงเตี๊ยมอีก”
ซ่งฝูเซิงกลับมาจากสวนพริก กลับมากินข้าวพลางถาม “พี่สาวเจ้าล่ะ ป้าเจ้าล่ะ”
“ท่านป้าออกไปบอกว่าให้พวกเรากินนมไม่ได้แล้ว น้ำนมของวัวสองตัวต้องเก็บเอาไว้…
…ท่านลุงรู้หรือไม่ พี่สาวน่าสงสารมากเลย”
เฉียนหมี่โซ่วเอามือทำท่าตรงใบหน้า “ท่านย่ามาที่บ้าน ร้องไห้ด้วย”
“ทำไมถึงร้อง” ซ่งฝูเซิงตักหมูน้ำแดงราดข้าว
“ข้าว่าน่าจะเป็นเพราะไข้ขึ้น”
“แล้วทำไมพี่สาวเจ้าน่าสงสาร พูดเข้าประเด็นหน่อย”
“อ๋า ประเด็นก็คือขนมเค้กแบบใหญ่มากๆๆ สามสิบเก้าก้อน อีกสองวันเอาไปส่ง”
ซ่งฝูเซิงสำลัก
“อาสาม อาสาม แย่แล้ว” เอ้อร์ยาวิ่งเข้ามาด้วยความรีบร้อน
เอ้อร์ยาถูกท่านย่าหม่าที่นอนพลิกอยู่ข้างตัวพ่นไอร้อนใส่หูไม่หยุดจนตื่น “ท่านย่า ดูเหมือนท่านย่าจะเป็นไข้ ข้าเรียกนางก็ไม่ตอบ”
ซ่งฝูเซิงรีบวางชามลง เข้าไปค้นยาในห้อง ค้นเจอยาแก้ไข้ที่ซื้อมาด้วยเงินหกตำลึงระหว่างหลบหนี จากนั้นก็ออกไปกับเอ้อร์ยา
เหลือเพียงเฉียนหมี่โซ่วคนเดียวในบ้าน
เฉียนหมี่โซ่วตบมือสองทีแล้วพูดพึมพำ “ไฮยะ เจ้าดูซิเจ้าดู เป็นอย่างที่ข้าว่าจริงๆ ไข้ขึ้นแล้วไหมล่ะ ต้องโทษคนเมืองพวกนั้นที่ไม่มีความรู้”
จากนั้นก็กระทืบเท้าหนึ่งที “ท่านลุง รอข้าด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว
น่าสนุกจัง...