ทะลุมิติทั้งครอบครัว นิยาย บท 34

ทะลุมิติทั้งครอบครัว ตอนที่ 34 เหตุเดิมไม่มีบุตรชาย
ตอนที่ 34 เหตุเดิมไม่มีบุตรชาย

ต้ายามองด้านหลังพ่อของนาง นางเห็นพ่อของนางให้ข้าวโพดกับน้องชาย ซ่งจินเป่า หนึ่งฝักและยังลูบหัวน้องชายด้วยความเอ็นดู นางจึงหันไปมองแม่ ก็พบว่าสายตาของแม่นางมีแต่น้องชายเพียงคนเดียว นางจึงก้มหน้าก้มตากินของกินที่อยู่ในมือต่อ

นางเสียดายไม่กล้ากินข้าวโพดครึ่งฝักทีเดียวจนหมด จึงค่อยๆ แทะคำละไม่กี่เม็ด

แต่ถึงอย่างไรข้าวโพดที่ได้รับมาก็มีขนาดเล็กเกินไป ไม่ว่าจะกินช้าแค่ไหนก็หมดอยู่ดี นางจึงแทะแกนที่ไม่มีเมล็ดข้าวโพดอีกครั้งหนึ่งเพื่อดูดน้ำที่อยู่ในแกนข้าวโพดนั้น

ส่วนเอ้อร์ยา เมื่อได้ฟังอาสามบอกว่าลูกสาวของเขาไม่เหมือนกับคนอื่นและถกเถียงกับย่าเรื่องชื่อ ซ่งฝูหลิง ใบหน้าของนางที่ถูกแดดเผาจนผิวกลายเป็นสีดำแดงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา นางอิจฉาแต่ก็ดีใจแทนซ่งฝูหลิง

เถียนเถาฮวา ลูกพี่ลูกน้องของซ่งฝูหลิง ตอนนี้นางกับแม่ของนาง ซ่งอิ๋นเฟิ่ง กำลังคะยั้นคะยอเอาของกินของตนให้อีกฝ่าย คนหนึ่งก็พูด “พ่อของเจ้ายังมีอยู่ เจ้ากินเถอะ” อีกคนก็พูด “ท่านแม่ ข้ากินอิ่มแล้ว เอาให้พี่ชายข้าเถอะ หรือไม่ท่านก็เก็บไว้กินยามที่ตนเองหิว”

ซ่งอิ๋นเฟิ่งเห็นบุตรสาวของนางไม่ยอมรับอาหาร นางก็นำอาหารแห้งที่แบ่งเป็นชิ้นๆ ให้กับซ่งฝูหลิงและเฉียนเพ่ยอิง “น้องสาม พั่ง ฝู? ฝูหลิง เจ้าสองคนกินเถอะ ข้ากินไม่ไหวแล้ว กินไม่ลงแล้วจริงๆ”

ซ่งอิ๋นเฟิ่งเรียกพั่งยาจนเคยชิน แต่เมื่อได้ฟังคำพูดเมื่อครู่ที่น้องสามถกเถียงกับแม่เรื่องชื่อของพั่งยา นางก็รีบเปลี่ยนคำเรียกใหม่

ในมือมีอาหารแห้งและข้าวโพดหลายฝัก บนรถก็ยังมีหมาฮวาอีกมากมายรอให้แม่ลูกสองคนได้กิน ตอนนี้รู้สึกเกรงใจจริงๆ

เฉียนเพ่ยอิงรู้สึกเคอะเขิน นางรีบยกมือขึ้นห้าม “พี่สาวอย่าเลย ท่านทำแบบนี้ทำไม หากไม่พอกินก็ต้มอีกหม้อก็ได้ พวกเราอย่าได้ทำแบบนี้เลย ข้าเห็นแล้วปวดใจ พวกเรายังไม่ได้อับจนถึงขนาดนั้น”

เมื่อซ่งอิ๋นเฟิ่งได้ยิน นางก็รีบยัดอาหารแห้งใส่มือเฉียนเพ่ยอิงและครุ่นคิดในใจ ยังจะต้มอีกหม้อหรือ? ท่านแม่จะแสดงออกอย่างไรไม่อาจคาดเดาได้เลย ขนาดน้องสามอยู่ในเหตุการณ์ ท่านแม่ยังโกรธเกรี้ยวขึ้นมาได้ ตอนนี้นางไม่ขออะไร ขอเพียงให้คนในครอบครัวทั้งหมดมีชีวิตอยู่ต่อไป แม้ว่าจะมีเพียงแค่ผักหญ้าจากป่ามาแบ่งกินกันก็ได้ ขอเพียงให้อยู่กันอย่างสันติ ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันก็พอ

ซ่งฝูหลิงมองป้ากับแม่ของนาง นางไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบหยิบข้าวโพดสองฝักจากมือแม่ของนางแล้วเดินไปหาพวกพี่สาวที่นั่งอยู่ตรงโน้น เมื่อนางเดินไป เฉียนหมี่โซ่วก็เลิกดื่มน้ำ เขารีบปาดคราบน้ำที่มุมปากแล้วเดินตามหลังพี่สาวไป ท่านป้าเคยบอกกับเขาว่า พี่สาวเป็นคนมองการณ์ไกล ให้เขาคอยติดตามนาง รับรองว่าไม่ขาดทุน

เมื่อซ่งฝูหลิงนั่งยองๆ ตรงหน้าพี่สาวทั้งสาม เฉียนหมี่โซ่วก็นั่งตาม

ซ่งฝูหลิงนำข้าวโพดสองฝักมาหักแบ่งเป็นชิ้นๆ นางส่งให้ต้ายา เอ้อร์ยากับเถาฮวา และส่งชิ้นเล็กๆ อันหนึ่งให้เฉียนหมี่โซ่ว หลังจากนั้นนางก็นั่งแทะส่วนแบ่งของตนเอง

ต้ายากับเอ้อร์ยาทำตัวไม่ถูก เถาฮวาจึงถามขึ้นมา “พั่งยาเจ้าจะกินอิ่มไหม?”

“ข้าอิ่ม พี่สาวกินเถอะ”

เถาฮวายิ้มก่อนที่จะแทะไปหนึ่งคำ ต้ายากับเอ้อร์ยาก็ดีใจอย่างมาก มองซ่งฝูหลิงกินด้วยรอยยิ้ม

ซ่งฝูหลิงหยุดชะงัก มองเถาฮวาที่ยิ้มเมื่อกี้ “พี่สาว ท่านสวยจัง”

คำพูดนี้ไม่ได้พูดออกไปพล่อยๆ ในสายตาซ่งฝูหลิง พี่สาวเถาฮวานี้ หากอยู่ในยุคปัจจุบัน หากจะให้เป็นดารา ก็คงต้องอาศัยจังหวะโอกาสและความสัมพันธ์ แต่หากนางคิดจะเป็นเน็ตไอดอลสาวสวยที่ไม่พึ่งศัลยกรรมและเครื่องสำอาง นางคงเป็นได้แน่นอน

เถาฮวาที่อายุเพียงสิบสี่ปี ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทันที “สวยที่ไหนกัน เจ้าต่างหากที่หน้าตาดี เจ้ามีผิวขาว”

ต้ายากับเอ้อร์ยาก็พยักหน้าเห็นด้วยและเอ่ยขึ้น “เจ้ากินข้าวสวยจนโต ข้าวสวยก็คือข้าวขาว กินข้าวสวยถึงได้ขาว”

ซ่งฝูหลิงถึงกับสำลัก นางรู้สึกเคอะเขิน “ต้ายากับเอ้อร์ยาก็สวย ทุกคนสวยหมด พวกเจ้าไม่ได้ใช้ครีมทาหน้า อีกทั้งยังต้องออกไปทำไร่ไถนา โดนแดดถึงได้ดำ มันไม่เกี่ยวกับการกินข้าวสวย ไม่เช่นนั้นทุกคนก็คงเป็นคนสวยกันหมดแล้ว รอถึงพรุ่งนี้ พวกท่านมาทาครีมพร้อมกันกับข้าสิ”

นี่มันสถานการณ์อะไรยังจะมาชวนทาครีมอีกน่ะ ป้าสองจูซื่อของซ่งฝูหลิงได้ยินพวกเด็กๆ กระซิบกระซาบกันก็ถึงกับเบะปาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว