พิยะตารบเร้าขอร้องธีร์ให้เขายอมอนุญาตปล่อยเธอไปทำงานกับเพื่อนๆ และดนุพร อยู่หลายครั้งแต่เจ้าชีวิตก็ยังนิ่งเงียบไม่มีคำตอบอะไรให้เธอเลย ใบหน้าสวยบึ้งตึงทั้งวันความเหงาและความห่วงใยทำให้เธออยู่นิ่งเฉยไม่ไหว ต้องหาทางเปลี่ยนใจคนมีอำนาจให้ได้
“คุณธีร์คะ...ได้โปรดเถอะค่ะ ให้พิตต้าไปหาอาโด่งนะคะ คุณธีร์” หญิงสาวทำเสียงอ่อนเสียงหวานเพื่อให้เขาใจอ่อน แต่ก็เหมือนหัวใจเขาจะแข็งกระด้างกว่าหลานชายเจ้าอารมณ์ซะอีก
“นะคะคุณธีร์...พิตต้าอยู่เฉยๆ แบบนี้มันน่าเบื่อ อยากทำอะไรให้มีประโยชน์บ้าง” คำพูดของเธอทำให้เขาเหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ
“ฉันกำลังจะปรับปรุงกินนรี...ถ้าอยากจะช่วยล่ะก็ ทำให้เจ้าธัญญ์มันออกแบบและตกแต่งบาร์ให้เสร็จเร็วๆ จะดีกว่า” สิ่งที่เขาบอกมันช่างหนักอึ้งเสียจริง เธอหลบหน้าชายหนุ่มตั้งแต่กลับออกมาจากคอนโดหรูนั่น นี่ก็เกือบอาทิตย์นึงแล้ว
“มีง่ายกว่านี้ไหมคะ”
“อยากให้บาร์เป็นแบบไหนก็คุยกับหลานชายฉันได้เลยนะหนูพิตต้า”
“คุณธีร์” หญิงสาวเรียกชื่อเขาเสียงอ่อย ทำให้เขาอดขำเธอไม่ได้
“งานเสร็จ ทุกคนก็จะได้กลับมาทำงานตามปกติ ไม่ดีหรือไง” เธอพยักหน้ารับ ถูกต้องที่สุดถ้าบาร์ตกแต่งเสร็จอาและเพื่อนๆ ของเธอก็จะกลับมาทำงานตามเดิม ธีร์ให้สัญญากับเธอเมื่อครั้งแรกที่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ เขาจะไม่ขับไล่ใครในบาร์ออก แต่จะให้ที่พักพิงให้งานทำเช่นเดิมทุกคน หญิงสาวชื่นชมในน้ำใจของเขามากเธอจึงต้องทำทุกอย่างไม่ให้เขาเปลี่ยนใจ เพื่อทุกคนก็จะมีรายได้ไม่ต้องอดมื้อกินมื้ออีกต่อไป
“อีกอย่าง โด่งคงจะบอกหนูไว้แล้ว ว่ามาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร” ดวงตามองคนถามค้นหาความหมายในคำพูดนั้น เธอรู้เพียงว่าจะต้องทำตามคำสั่งของเขา แต่มาอยู่ในฐานะอะไรนั้นคงเป็นคนอาศัยหรือไม่ก็เด็กรับใช้
“ไม่รู้ค่ะ...อาโด่งแค่บอกให้พิตต้าทำตามที่คุณธีร์สั่งเท่านั้น ส่วนเรื่องฐานะนั้นพิตต้าไม่รู้จริงๆ”
“งั้นก็รู้ไว้ หนูมาอยู่ที่นี่ในฐานะผู้หญิงของฉัน ตามที่อาของหนูต้องการ” ปากเรียวอ้าค้างด้วยความตกใจ เธอทวนคำพูดของเขาในใจเกือบสิบครั้ง สายตาเขาก็ยังยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง
“มะ หมายความว่ายังไงคะ...ผู้หญิงของคุณ”
“ความหมายมันก็ตรงตัวแล้วนี่นา” ชายหนุ่มพูดพลางประสานมือทั้งสองแล้ววางบนโต๊ะทำงาน
“พิตต้าจะต้องมาเป็นเมียคุณเหรอคะ” คำถามไร้เดียงสาทำให้ ธีร์ถึงกับหน้าแดง
“อะ เอ่อ ไม่เชิงหรอก แค่หนูเชื่อฟังฉันก็พอ” เขาก็ไม่รู้จะอธิบายให้หญิงสาวเข้าใจยังไง การที่ตกลงรับเธอมาอยู่ด้วยนั้นเพราะความต้องการของดนุพร หล่อนไม่อยากให้หญิงสาวต้องแปดเปื้อนกลิ่นคาวของสังคมคนกลางคืนเหมือนตัวเอง แต่ฐานะที่หล่อนเสนอนั้นเขารับมันไม่ได้จริงๆ
“ค่ะ ถ้าเป็นความต้องการของอาโด่ง พิตต้าจะเชื่อฟังคุณธีร์ทุกอย่างค่ะ”
“ดีมาก...หนูทำให้ฉันโล่งใจขึ้นเยอะ”
“ก็อกๆ”
“คุณธีร์คะ วันนี้จะออกไปข้างนอกหรือเปล่า ดาหวันจะได้ให้คนเตรียมรถค่ะ” สาวรับใช้วางแก้วกาแฟที่ถือมาก่อนจะเอ่ยถามเจ้านาย
“อืม คงออกไปตอนค่ำๆ...จะพาพิตต้าเค้าออกไปหาเพื่อนๆ เค้าซะหน่อย” หญิงสาวยิ้มออกทันที เธอดีใจจนแทบกระโดดในที่สุดชายหนุ่มก็ยอมใจอ่อนให้เธอออกไปเจอหน้าเพื่อนๆ
“จริงเหรอคะ...คุณธีร์ยอมให้พิตต้าออกไปหาอาโด่งจริงๆ เหรอคะ”
“ใช่ แต่ฉันจะออกไปกับหนูด้วย ถ้าปล่อยให้ไปคนเดียว มีหวังอาของหนูโกรธฉันแย่”
“ขอบคุณค่ะ” พิยะตายิ้มกว้างให้ชายหนุ่มด้วยความตื่นเต้น แต่ใจสาวก็รู้สึกแปลกอยู่บ้าง ว่าทำไมธีร์ถึงดูเป็นห่วงเธอและดนุพรมาก ยิ่งทุกครั้งที่เอ่ยถึงอา เขาก็จะมีอาการอึกอักเล็กน้อย หญิงสาวไม่กล้าที่จะคิดความลึกซึ้งของทั้งคู่ เพราะถ้ามันเป็นเรื่องจริงสังคมนี้คงจะประณามทั้งคู่เป็นแน่ ดนุพรไม่ใช่สาวแท้ใครๆ ก็รู้หล่อนเป็นชายตั้งแต่กำเนิดแต่จิตใจกลับเบี่ยงไปทางผู้หญิง กิริยามารยาทนั้นก็เรียบร้อยกว่าหลานสาวเป็นไหนๆ ถ้าใครไม่รู้คงคิดว่าหล่อนสาวแท้ๆ แต่สังคมก็มีขอบเขตจำกัดการยอมรับของเพศที่สามถึงจะเปิดกว้างให้สามารถทำอะไรได้เทียบเท่าสตรี สังคมไฮโซโก้หรูที่ธีร์ยืนอยู่มันคงไกลเกินกว่าจะก้าวไปถึง ถ้าจะฉุดเขาลงมาหามันก็เห็นแก่ตัวเกินไป พิยะตาเดาความในใจของคนที่เลี้ยงดูอย่างไม่มั่นใจนัก
ปิ๊นๆ! เสียงแตรรถยนต์ที่ถูกกดค้างย้ำแล้วย้ำอีก บ่งบอกอารมณ์ร้อนใจของคนขับ ประตูเหล็กหนาเลื่อนเปิดช้าไม่ทันใจคนอารมณ์หงุดหงิด ชายหนุ่มโผล่ศีรษะออกมานอกตัวรถและเริ่มต้นโวยวายใส่คนดูแลบ้านทันที
“ทำอะไรกันอยู่ ไม่เห็นหรือไงว่าฉันมา เปิดประตูให้มันเร็วๆ กันหน่อยได้ไหม”
“ค่ะๆ คุณธัญญ์”
“โอ๊ยมาอย่างกับพายุ วันนี้คงมีเรื่องให้คุณท่านปวดหัวอีกแน่ๆ”
“แนะนังดาหวัน...พูดอย่างกับคุณธัญญ์เธอเป็นอันธพาล ระวังเถอะจะโดนหักเงินเดือน” แม่บ้านสูงวัยตำหนิลูกน้องก่อนจะลอบถอนหายใจ
ขายาวก้าวอย่างรวดเร็วเข้าไปในตัวบ้าน สายตามองหาคนที่ทำให้จิตใจเขาว้าวุ่น มือใหญ่รีบคว้าต้นแขนขาวของคนที่กำลังเดินหนี เขาออกแรงบีบเสียจนเนื้อบางบุ๋มไปตามนิ้วมือ เสียงลมหายใจที่พ่นออกแรงพอๆกับความแข็งกระด้างในแววตา ธัญญ์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนหญิงสาวได้ยินเสียงขบกรามด้วยความโมโห
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์นางโลม