เสียงเพลงเปิดเบาๆ คลอเคลียทำให้คนฟังเหม่อลอยนิ่งเงียบอยู่นาน ยิ่งจังหวะเชื่องช้าของบทเพลงเรียกความปวดร้าวในจิตใจคนสาวจนหยดน้ำเล็กๆ ไหลผ่านแก้มเนียนเปื้อนปลอกหมอนสีขาว ดวงตากลมไม่กลอกกลิ้งเลย เธอมองจับจ้องเพียงตุ๊กตาซารามิกที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง สีสันที่แต่งแต้มรอยยิ้มของตุ๊กตาดูจืดชืดเศร้าหมอง นิ้วยาวลูบบนใบหน้าเล็กๆ หวลคิดถึงคนที่ซื้อมาให้
“ติ๊ด ติ๊ด” มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะหันไปมองโทรศัพท์ข้างตัว
“ฮัลโหล ว่ายังไงคะอา”
“ไม่สบายเหรอพิตต้าเสียงแปลกๆ ไปนะเรา” หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึก
“เปล่าค่ะ พิตต้าอยู่ในห้องน้ำเสียงมันอาจจะก้องก็ได้ค่ะ”
“อี๋ ทำอะไรอยู่ยะแม่คุณ” ดนุพรแกล้งทำเสียงรังเกียจ
“ฮ่าๆ ไม่บอกค่ะ อาโด่งมีอะไรก็รีบบอกมาก่อนที่พิตต้าจะขาดตอนนะคะ”
“โอ๊ยยายพิตต้า ทำธุระของเธอให้เสร็จก่อนแล้วค่อยรับโทรศัพท์ก็ได้”
“อุ๊ย หนูล้อเล่นค่ะ คริคริ” พิยะตาแสร้งทำเป็นอารมณ์ดี
“อืม อีกชั่วโมงอาจะไปถึงบ้านคุณธีร์”
“จะมาหาพิตต้าเหรอคะ...แต่วันนี้หนูต้องออกไปข้างนอกกับคุณธีร์”
“เอาไว้คุยกันตอนอาไปถึงนะ...อ่ออย่ามัวนอนหลับจนลืมมาเปิดประตูให้อาล่ะ” เมื่อวางสายจากคนห่วงหา พิยะตาก็ล้างหน้าล้างตาเตรียมตัวต้อนรับดนุพรอย่างใจจดใจจ่อ ร่างบางเดินวนไปวนมาในห้องรับแขกสลับกับการชะเง้อมองหาคนมาเยือน ดนุพรคงเป็นที่พึ่งทางใจให้เธอหายเศร้าได้ในตอนนี้
“ปิ๊นๆ”
“อาโด่ง...อาค่ะ” พิยะตาวิ่งเข้าไปกอดร่างเพียวสูงทันทีที่หล่อนโผล่พ้นประตูบ้าน
“ว๊ายยายพิตต้าทำแบบนี้อีกแล้วนะ...ซีลีโคนเอียงหมดแล้ว”
“ก็คิดถึงอานี่คะ”
“ชอบกระโจนเข้าใส่เหมือนเจ้าครองแครงข้างบ้านไม่มีผิด” หญิงสาวย่นจมูกพร้อมขมวดคิ้วสงสัย
“ตัวอะไรคะ”
“หมา” ดนุพรยื่นหน้าเข้าไปตอบใกล้ๆ หลานสาว
“โธ่ อาโด่ง เปรียบพิตต้าซะน่ารักเชียว”
“ดูๆ เค้าว่ายังไม่สำนึก” หญิงสาวโน้มตัวโอบกอดคนห่วงใยด้วยความคิดถึงอีกครั้ง เธอปลดปล่อยความกลัดกลุ้มทุกข์ใจลงไปในอ้อมกอดด้วย ความแน่นที่รียวแขนรัดทำให้คนมาเยือนแปลกใจ
“มีอะไรเหรอยายพิตต้า...บอกอาสิ” อ้อมกอดคลายลงแล้ว แววตาสวยสั่นไหวด้วยหยาดน้ำใสๆ
“ฮ่าๆ ก็คิดถึงอาโด่งมากจนน้ำตาไหลค่ะ” ดนุพรมองหลานสาวอย่างห่วงใย เธอเคยสดใสร่าเริงเสมอ แต่คราวนี้สีหน้าที่ซีดเซียวแววตาที่อ่อนล้ามันคืออะไร หรือคนที่ไว้ใจรังแกให้เจ็บช้ำ
“คุณธีร์เค้าทำอะไรให้เราเจ็บช้ำน้ำใจหรือเปล่า” ดนุพรเอ่ยถามหลังจากเข้ามาอยู่ในห้องนอนหลานสาวเรียบร้อยแล้ว ดวงตาคู่ดำจับจ้องหาความจริงจากหลานสาว
“เปล่าค่ะ คุณธีร์ดีกับหนูมาก ไม่เคยทำอะไรให้หนูไม่สบายใจเลยค่ะ”
“แล้วทำไมหลานอาถึงทำหน้าตาไม่สบายใจเลย” มือยาวเชยคางได้รูปขึ้นเล็กน้อย
“ดูสิ หน้าซีดอย่างกับไก่ต้ม”
“ขนาดนั้นเลยเหรอคะ...สงสัยพิตต้าจะเพลียค่ะ พะ พอดีเมื่อเช้าถ่ายท้องหนักไปหน่อย” เธอตอบอึกอัก
“ตายจริง หายหรือยังจ๊ะ ทานหยูกทานยาแล้วใช่ไหม ทำไมไม่บอกอาให้เร็วกว่านี้”
“หายแล้วค่ะ แค่เพลียเท่านั้นเอง”
“งั้นนอนพักก่อนดีไหม...นี่ก็เหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลางาน”
“งาน อารู้ด้วยเหรอคะ”
“แน่นอนยะ งานนี้อาขอไปด้วยคน หวังว่าคงไม่มีใครว่านะ”
“เย้ๆ ดีใจจังคะ พิตต้าคิดว่าจะต้องไปแก่วอยู่คนเดียวในงานซะแล้ว” คิ้วเรียวชนกันอย่างสงสัย
“ทำไมถึงบอกว่าคนเดียว”
“ก็พิตต้าไม่รู้จักใครเลยนี่คะ”
“โธ่ยายตัวแสบ ไม่รู้จักก็เข้าไปทำความรู้จักก็ได้นี่นา มีใครที่ไหนเค้ารู้จักกันมาตั้งแต่ท้องพ่อท้องแม่บ้าง”
“พูดง่ายจัง...สังคมไฮโซแบบนั้นจะมีใครเค้าอยากรู้จักหนูล่ะคะ”
“อืม...ขี้งอน ขี้แง แบบนี้จะมีใครอยากรู้จักเนอะ” ดนุพรเหน็บแนมคนหน้าสวย
“อ้าว มาว่าหลานซะงั้น...จะให้พิตต้าทำอะไรก่อนคะอา”
“จริงด้วย งั้นเดี๋ยวอาพอกหน้าให้ก่อน เยินขนาดนี้น่ากลัวชะมัด” หล่อนกรีดกรายนิ้วมือขณะพูดทำให้คนมองนึกหมั่นไส้ไม่น้อย อุปกรณ์เครื่องสำอางหลากชนิดวางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งเต็มแน่นจนล้นลงมาถึงเก้าอี้ล้อเลื่อน พิยะตาเบิกตากว้างเธอไม่เคยต้องใช้ชุดเสริมความงามยกเซ็ทขนาดนี้มาก่อน สงสัยงานนี้อาคงจะโชว์ฝีมือเต็มที่จึงเตรียมมาอย่างพร้อมเพรียง
“อยู่เฉยๆ ซิยายแสบ” หญิงสาวถูกจับให้นั่งนิ่งๆ รอคอยการเสริมความงามด้วยครีมพอกหน้ามีราคาสีขาวนวล ช่างจำเป็นค่อยๆ ปาดป้ายครีมบนใบหน้าสวย ส่วนคนไม่คุ้นเคยก็บิดไปมาเมื่อยตัวที่ต้องนั่งนิ่งไม่ไหวติง
“โอ๊ยเดี๋ยวหน้าก็ย่นเหมือนอาหรอก ยุกยิกอยู่ได้”
“ก็มันเมื่อยนี่คะ...เสร็จหรือยังคะอา”
“อีกนิดเดียวจ้า”
“อืม ระหว่างรอให้ครีมซึมเข้าผิวหน้า เดี๋ยวจะทำผมให้ก่อน”
“ไม่ต้องก็ได้คะอา ไปแบบนี้แหละสบายดี”
“อุ๊ยได้ยังไงจ๊ะ งานสำคัญของตระกูลสินสาโรจน์ จะไปแบบผมเพ้าฟูอย่างนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติเจ้าของงาน”
“ก็ได้คร๊า” พิยะตาตอบรับเสียงสูง แล้วก็ยอมทำตัวโอนเอียงตามแรงมือที่ดนุพรจัดให้
“ตัวนุ่มนิ่มอย่างกับไม่ได้กินอะไรเข้าไปต่อเติมเรี่ยวแรงเลยนะเนี่ย”
“กินซิคะ มีอะไรก็กินหมดแหละคะ”
“อยู่เฉยๆ ไม่ต้องพูดเดี๋ยวหน้าย่น”
“ก็มัน”
“เอ๊ะ ยายแสบนี่พูดไม่ฟัง” พิยะตาเบ้ปากเมื่อถูกตำหนิ หญิงสาวปล่อยให้ช่างฝีมือหนึ่งแปลงโฉมให้เธอตามใจชอบ เพราะถ้าขัดขวางคงจะโดนบ่นอีกแน่ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์นางโลม