เสียงเพลงจังหวะป๊อบสบายๆ บรรเลงคลอเคลียแสงไฟสีนวล โต๊ะทรงกลม ทรงสูงหนาแน่นไปด้วยคนหนุ่มสาวและบรรดานักธุรกิจที่เจ้าของบาร์กรีนเนอร์รีเชื้อเชิญให้มาร่วมงานเปิดบาร์เหล้าโฉมใหญ่ ธีร์ยืนต้อนรับแขกอยู่หน้างานโดยมีสาวงามเอวบางแต่งตัวอวดผิวเนียนยืนขนาบข้าง บางก็สวมใส่ชุดสีสันแสบตาคอยเป็นนางแบบให้แขกที่มาถ่ายรูป
“ขอบคุณมากครับ เชิญด้านในเลยวันนี้ฟรีทุกอย่าง”
“ยินดีด้วยครับคุณธีร์ แหมไม่คิดเลยว่าคุณจะหันมาจับธุรกิจแบบนี้ สุดยอดจริงๆ”
“ผมก็ลองไปเรื่อย งานไหนดีก็สู้หน่อยเท่านั้นเอง”
“แหมสาวๆ ก็สวยใช้ได้เลยนะครับ”
“ครับ น้องๆ เค้ามืออาชีพ แต่ที่นี่ขอผ่านเรื่องอย่างว่านะครับ ผมไม่ชอบ” ธีร์รู้ทันสายตาของนักธุรกิจสูงวัยที่คบหาแลกเปลี่ยนสินค้ากันมานาน
“ดักคอผมซะงั้น”
“ต้องขอโทษจริงๆ ครับ”
“เชิญด้านในเลยดีกว่า เดี๋ยวจะให้สาวๆ พาไป” ธีร์ผายมือนำทางก่อนที่ร่างอรชรจะเชิญเชื้ออีกแรง ชายหนุ่มหันกลับมาต้อนรับแขกคนใหม่
“คุณวัชราสวัสดีครับ”
“สวยจริงๆ บาร์กรีนเนอร์รี แบบนี้ผมคงต้องขอเป็นแขกวีไอพีซะแล้ว”
“แน่นอนครับ...จัดเลี้ยงรับรองลูกค้าได้เต็มที่”
“อืม น่าสนใจไม่เบาเลยนะเนี่ยฮ่าๆ”
“สวัสดีครับคุณธีร์” คนถูกทักทายหันมองแล้วส่งยิ้มให้ชายหนุ่มอีกคนที่เพิ่งเดินเข้ามา
“อืม มาด้วยเหรอคุณวุฒิ”
“ครับ...ยินดีด้วยนะครับ ที่นี่บรรยากาศดีมากจริงๆ”
“เอาเป็นว่าไปหาที่นั่งด้านในเลยดีกว่าครับ คนมาเยอะแล้วเดี๋ยวจะพลาดโชว์พิเศษของสาวๆ” วัชราเดินเข้าไปแล้ว แต่คนรั้งท้ายกลับชะเง้อมองหาอะไรบางอย่าง ธีร์มองตามเขาด้วยความสงสัย คิ้วหนาขมวดชนกันก่อนจะเอื้อมมือไปตบไหล่ตรงหนาเบาๆ
“มองหาใครอยู่เหรอครับ” วราวุฒิรีบปรับเปลี่ยนสีหน้า ชายหนุ่มอึกอักไม่กล้าเอ่ยตอบความจริง
“ปะ เปล่าครับ”
“งั้นก็เข้าไปข้างในเถอะครับ” ธีร์กอดคอคนหนุ่มเดินเข้าไปด้านในบาร์กรีนเนอร์รี เสียงดนตรีที่ขับกล่อมในค่ำคืนนี้เอาใจไฮโซที่มาร่วมงาน เพลงคลาสสิกเพราะๆ ช่วยให้เครื่องดื่มรสเข้มข้นนุ่มขึ้นเยอะ พนักงานเสิร์ฟเดินส่วนทางเข้าออกไม่ขาดสายรวมทั้งสาวๆ ทั้งหลายที่ดนุพรติดต่อให้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง ทุกคนแปลงโฉมมาดใหม่ราวกับยกเครื่องใหม่ทั้งหมด
“เจ๊ บาร์ใหม่สวยมากๆ เลย แถมเครื่องแต่งตัวในห้องมีแต่ของดีราคาแพง” แหวนสาวดริ๊งค์รุ่นพี่เอ่ยอย่างตื่นเต้น
“อย่ามัวชื่นชมจนทำให้เสียงานนังแหวน ไปโน่นแขกมาเพียบขนาดนี้ยังจะมายืนเพ้อฝันอยู่ได้”
“ก็มันดีใจนี่นา...ว่าแต่เจ๊แต่งปิ๊งแบบนี้จะออกไปรับแขกด้วยเหรอ”
“แน่นอนตอนนี้ฉันไม่ได้เป็นเจ้าของบาร์แล้วนะ ถ้าไม่ทำงานมีหวังอดตาย” แหวนหน้าถอดสีทันที เธอลืมเสียสนิทว่าคนมีบุญคุณตอนนี้สิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว ทั้งสองชวนกันออกไปต้อนรับขับสู่แขกไฮโซกระเป๋าหนัก สายตาเป็นประกายแวววับมองหาเหยื่อที่คุ้มทุน ดนุพรจีบปากจีบคอให้พอน่ามองตามสไตล์สาวสวย
“สวัสดีค่ะท่าน เชิญด้านในเลยนะคะ” เสียงหวานแหบเอ่ยทักแขกที่เข้ามาใหม่ หล่อนสวมใส่ชุดรัดรูปสีส้มสดใสเข้ากับทรงผมดัดเกลียวหลวมๆ เรียวปากแดงอิ่มฉีกยิ้มตลอดเวลาหล่อนกลัวว่าจะทำงานไม่เป็นที่พึงพอใจของเจ้านายใหม่
“ขอบใจนะที่อุตส่าห์ออกมาช่วยรับแขก”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ต้องทำงานให้คุ้มเงินเดือนที่เค้าจ้างหน่อย”
“สงสัยอาธีร์จะจ้างแพงมากสินะครับ”
“อย่าพูดอย่างนั้นเลยค่ะ โด่งเรียนมาน้อยทำอะไรก็ไม่เป็นเงินเดือนไม่กี่พันมันก็มากพอแล้วค่ะ”
“คนเรามักจะอ้างว่าเรียนน้อยไม่มีความสามารถ...แต่งานที่พวกคุณทำเนี่ยมันยากมากเลยนะสำหรับคนมีจิตสำนึกดี เค้าทำกันไม่ได้หรอก”
“คะ คุณธัญญ์ จะหลอกด่าโด่งเหรอคะ”
“ฮ่าๆ ขอโทษที ผมเป็นคนพูดตรงๆ แบบนี้แหละ” ดนุพรเม้มปากอย่างอับอาย หล่อนรู้ตัวว่าชายหนุ่มรังเกียจอาชีพผู้หญิงกลางคืน ดวงตากลมคมกริบหันมองอีกด้านหมายจะหาใครสักคนช่วยให้รอดพ้นจากการดูแคลน
“พูดตรงไปตรงมาก็ดีค่ะ หวังว่าปากคงจะตรงกับใจด้วยนะคะ รักก็บอกรัก เกลียดก็บอกเกลียด แบบนี้ถึงจะดีค่ะ” ราวกับหล่อนจะโต้กลับให้เขาเจ็บใจเล่น แต่ใบหน้าคมเข้มนิ่งไม่หวั่นไหวไปกับคำต่อว่าของหล่อนเลย
“โด่งขอตัวก่อนนะคะ”
“หลานสาวคนสวยไปไหนซะล่ะ” เท้ายาวที่กำลังก้าวต้องชะงักอยู่ๆ ชายหนุ่มก็เบนคำถามไปหาหญิงสาวที่หล่อนเองก็ยังไม่เห็นตั้งแต่มา
“ไม่ทราบค่ะ...อยู่กับว่าที่สามีหรือเปล่าคะ”
“อะแฮ่ม งั้นเหรอ” สรรพนามที่หล่อนเรียกเจ้าของบาร์ทำให้ชายหนุ่มสำลักน้ำลายทันที สายตาเขารีบมองซ้ายขวาหมายจะเจอร่างบางอยู่ใกล้ๆ
“ฉันไปได้แล้วใช่ไหมคะ”
“เดี๋ยว...หวังว่าจะเลิกเซี่ยมสอนหลานสาวให้ยั่วยวนมารยากับผู้ชายได้แล้วนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์นางโลม