ทัณฑ์รักอสูรร้าย นิยาย บท 29

โรเจอร์ เจมส์ ชายหนุ่มวัยสามสิบห้าปี นั่งดูรูปภาพของหญิงคนหนึ่งที่เขารักสุดหัวใจ หญิงสาวที่อยู่ในรูปคือน้องสาวแท้ๆ ของเขา ที่จากโลกนี้ก่อนวัยอันควร เธอจากเขาไปพร้อมกับความโศกเศร้าเสียใจที่ถูกทอดทิ้ง น้ำตาที่หยดไหลออกมาจากหางตาของมาเรียน้องสาว ในขณะที่ยิงตัวตาย มันฝังใจและติดตาเขาเสมอมา

ชายหนุ่มบ่มเพาะความแค้นมาตลอดสามปี รอวันชำระแค้นคนที่ทำให้น้องสาวของตนต้องตาย ตัวต้นเหตุคนนั้นก็คือวิตโตริโอ ดิมาร์ชี ที่ยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติสุข ไม่ทุกข์ร้อนกับการเสียชีวิตของมาเรีย หรือแม้แต่จะร่วมพิธีศพศพของมาเรีย ไม่มีความเจ็บใดเท่ามองเห็นคนที่เรารักตายจากไป ทิ้งไว้แต่ความทรงจำย้ำเตือนความเจ็บปวด เขาเจ็บมากแค่ไหนวิตโตริโอต้องเจ็บยิ่งกว่า

“งานพรุ่งนี้ไปถึงไหนแล้ว” โรเจอร์เอ่ยถามครูซลูกน้องคนสนิท

“เรียบร้อยครับ”

“ดีมาก เราต้องไม่ทำให้ไก่ตื่น คอยจ้องมองดูเหยื่ออย่างช้าๆ พอได้โอกาสเหมาะค่อยกระโจนเข้าใส่” แผนการวันพรุ่งนี้ไม่มีอะไรมาก แค่เปิดตัวโรเจอร์ เจมส์อย่างเป็นทางการ ทำความรู้จักกับศัตรูตัวฉกาจที่ชื่อวิตโตริโอ ประเมินสถานการณ์ของอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ เพื่อคิดแผนการขั้นต่อไป

“ผมทราบครับ เราเตรียมคนของเราไว้พร้อมแล้วครับ เผื่อฉุกเฉิน” ครูซรอบคอบเสมอ

“อย่าทำอะไรโดยที่ฉันไม่ได้สั่ง ส่วนทางอิตาลีให้ชะลอไว้ก่อน ฉันมีแผนเด็ดกว่านั้น” คราแรกเขาจะให้คนไปจัดการกับร้านเครื่องเพชรของดิมาร์ชี จิวเวลรี่ ขุมทรัพย์ชิ้นสำคัญรองมาจากโรงแรมชื่อดังของตระกูล ที่เขาสั่งให้คนไปวางระเบิด แต่มานึกอีกทีแผนนี้ดูจะบุ่มบ่ามไป คนของวิตโตริโอไม่หละหลวมมากพอที่จะให้คนของเขาไปวางระเบิดได้ง่ายๆ แน่นอน แผนที่สองน่าจะดีกว่า และเห็นผลดีกว่า

“นั่งนับวันรอหายนะได้เลย ไอ้วิโต” โรเจอร์เอ่ยอย่างเคียดแค้น เขาจะตามจองล้างจองผลาญศัตรูนามว่าวิตโตริโอให้ย่อยยับ ตายทั้งเป็น ยืนมองคนที่ศัตรูคู่อาฆาตรักตายจากไปทีละคน เหมือนกับเขาที่ต้องสูญเสียน้องสาวไปอย่างไม่มีวันกลับ

.............

ในค่ำคืนก่อนวันเดินทางไปเชียงใหม่ วิตโตริโอเดินออกมาจากห้องน้ำ ด้วยผ้าขนหนูปิดกายเพียงตัวเดียว โดยมีผ้าขนหนูผืนขนาดกลางอยู่ในมือ เช็ดตามแผ่นหลังและแผงอกที่มีน้ำเกาะพราว ระหว่างที่เขาเช็ดตัว เท้าใหญ่ก็เดินมาหยุดริมเตียง มองร่างอรชรที่หลับใหลอยู่บนที่นอน ด้วยสายตาที่ดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่

อยู่ๆ ร่างกายของเขาเริ่มร้อนขึ้นมา เมื่อร่างเล็กในยามหลับพลิกกายไปอีกด้านด้วยความเมื่อยขบ ส่งผลให้ชายชุดนอนเลื่อนขึ้นจนถึงโคนขา ความขาวนวลกระจ่างราวกับเหยือกกล้วย ทำให้เรารุ่มร้อน ลามเลียไปด้วยเปลวไฟแห่งอารมณ์ที่กำลังเผาผลาญร่างกาย ผ้าขนหนูถูกสะบัดออกจากกายอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะล้มตัวลงนอนเคียงข้างร่างบางที่หายใจอย่างสม่ำเสมอ

ริมฝีปากหยักได้รูปจูบไล้ไปตามเรียวขาขาวที่โผล่พ้นชายชุดนอน ปากของเขาไม่ต่างกับไฟ ที่ทำให้เกิดความร้อนแทรกซึมเข้าไปในกระแสเลือดของปรางค์รวี ที่ค่อยๆ ปลุกเธอให้ตื่นจากนิทรา

มือหนาลูบไปมาอย่างเชื่องช้า ระหว่างนั้นเขาก็เลื่อนชายชุดนอนขึ้นสูงตามไปด้วย จนกระทั่งมันกองอยู่เหนือทรวงอกที่ไร้ซึ่งสิ่งห่อหุ้ม เพราะเขาเป็นคนสั่งว่า อย่าใส่สิ่งที่ขวางหูขวางตาเขา

แรงน้ำหนักที่บีบดอกบงกชหนักบ้างสลับกับเบา ทำให้คนที่จมอยู่ในนิทรารู้สึกตัว ในเวลาต่อมา ดวงตาของเธอก็ปรือขึ้น แต่ยังไม่ทันที่จะลืมตาเต็มตา ใบหน้าคมได้โน้มต่ำลงจนเรียวปากของทั้งสองประกบเข้าหากัน อาการครึ่งหลับครึ่งตื่นของเธอหายสนิท เมื่อลิ้นอุ่นจัดรุกล้ำเข้าไปภายในปากของเธอ สร้างกระแสความเสน่หา เติมเชื้อไฟที่มอดดับให้ลุกกระพือ

มือใหญ่ยังคงกอบกุมทรวงอกสาว ปลายนิ้วหนาปัดหยอกเย้ายอดทรวง สร้างความปั่นป่วนในร่างงามทีละน้อย เสียววาบตรงกลีบดอกปาริชาติ ไม่ช้าไม่นานชุดนอนของเธอก็หลุดออกจากกาย สองร่างเปลือยเปล่ากอดก่ายแนบชิด และนั่นทำให้เธอสัมผัสกับอวัยวะกลางร่างหนาที่พองตัวเติบใหญ่ ยิ่งทำให้เธอสะท้านเสียวมากหลายเท่าตัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์รักอสูรร้าย