เข้าสู่ระบบผ่าน

ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง นิยาย บท 4

บทที่ 4 รวี่เยว่ /2

"ด่าได้ดีจวี๋จื่อ!" เสี่ยวหลานถูหัวของมันกับแก้มของแมวสาว

แม่นมชุนยกยิ้ม ชื่นชมคุณหนูของตนว่าสมแล้วที่เป็นบุตรีของนักรบผู้หาญกล้า สายเลือดของเยว่หนิงลี่เข้มข้นกว่าสายเลือดคนตระกูลหวังโดยแท้จริง นางชอบใจตรงที่คุณหนูใช้คำว่า ข้าอนุญาต!!! สาแก่ใจยิ่งนัก นางเลยเขียนตัวหนังสือของคำนั้นใหญ่กว่าตัวหนังสืออื่นๆในสาร

เมื่อเขียนสารจบพวกนางจึงนั่งรถม้าเข้าไปในเมืองเพื่อส่งสารไปยังเมืองหลวง ระหว่างทางได้เห็นประกาศของสำนักบำเพ็ญติดไว้ที่จตุรัสกลางเมือง

- ในอีกสามเดือนตัวแทนของสี่สำนักใหญ่จะมาดูการทดสอบนักเรียนของสำนักกระบี่จันทรา หรือผู้ที่ประสงค์จะเข้าร่วมการทดสอบ อายุต้องไม่เกินสิบสองหนาว หากเด็กคนใดสนใจ สามารถลงชื่อสมัครได้ที่สำนักกระบี่จันทราโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ดวงตาของหวังลี่ถิงสว่างวาบนางหันไปหาแม่นมกับสาวใช้ เอ่ยปากบอกความประสงค์ของตนออกมาอย่างไม่ลังเล

"ข้าต้องเข้าร่วมการทดสอบนี้เจ้าค่ะ ช่วยพาข้าไปลงชื่อสมัครทีนะเจ้าคะ"

สำนักกระบี่จันทราเป็นสำนักมีชื่อเสียงประจำเมืองลวี่เฟิง ซึ่งถือเป็นเมืองใหญ่ของทิศอีสาน ในทุกๆปีจะจัดงานประลองขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ศิษย์ของสำนัก รวมถึงผู้สมัครอิสระรุ่นเยาว์ ได้แสดงความสามารถบนเวทีประลอง ต่อหน้าตัวแทนจากสี่สำนักใหญ่ หากนักพรตวัยเยาว์คนใดเข้าตาตัวแทนเหล่านั้น ก็จะได้รับการติดต่อให้เข้าร่วมสำนัก

ส่วนผู้ที่ชนะเลิศการประลอง จะได้รับรางวัลพิเศษเป็นหินวิญญาณจำนวนหนึ่ง และสามารถเลือกสำนักที่ตนประสงค์จะฝากตัวเป็นศิษย์ หากว่ามีฝีมือมากพอ ก็อาจกลายเป็นศิษย์ฝ่ายในของสำนักนั้นได้ทันที และนี่คือเป้าหมายที่ทำให้รวี่เยว่ตัดสินใจเข้าร่วมการประลอง ศิษย์ฝ่ายในของหนึ่งในสี่สำนักใหญ่

ผู้ใหญ่ทั้งสองมีท่าทีลังเล คุณหนูของพวกนางไม่เคยฝึกการบำเพ็ญหรือใช้พลังธาตุมาก่อน ภายในระยะเวลาเพียงแค่สามเดือน จะลงสนามไปต่อสู้กับนักเรียนของสำนักกระบี่สวรรค์หรือเด็กคนอื่นได้อย่างไร

"ถิงเอ๋อร์รู้เจ้าคะว่าพวกท่านเป็นห่วง แต่ถิงเอ๋อร์จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด แม่นมชุนก็ช่วยถิงเอ๋อร์ฝึกฝนพลังสิเจ้าคะ ท่านอยู่ถึงระดับจู้จีตอนปลาย ต้องช่วยสอนถิงเอ๋อร์ได้แน่นอน" สีหน้าของหวังลี่ถิงมุ่งมั่นจนแม่นมชุนใจอ่อนยวบ

"ถ้าคุณหนูไม่กลัวเหนื่อย หรือกลัวเจ็บตัว เช่นนั้นแม่นมจะยอมให้คุณหนูลงสมัครเจ้าค่ะ"

ทั้งสามจึงมุ่งหน้าไปยังสถานที่รับสมัครของสำนักกระบี่จันทรา

"ใช่แล้วเจ้าค่ะ นามของข้า รวี่เยว่ ที่แปลว่าสุริยันจันทรา" ร่างเล็กยืดอกขึ้นด้วยความมั่นใจ นางเลือกที่จะใช้ชื่อนี้โดยได้แรงบันดาลใจจากมหาธาตุหยินหยางของตน

"ช่างเป็นชื่อที่น่าสนใจ นี่คือป้ายเลขที่ผู้สมัครของเจ้า เก็บดีๆล่ะอย่าทำหายนะแม่หนู" เขายื่นป้ายไม้แผ่นเล็กลงอักขระให้ร่างเล็ก บอกกล่าวอย่างเอ็นดู ดวงตาดอกท้อของนางละลายหัวใจใครหลายๆคนยามพบเห็น…ยกเว้นคนตระกูลหวังที่ไร้หัวใจ

…แดนเทพ

รอยยิ้มพึงใจประดับใบหน้ามหาเทพหวงหลง ขณะยืนมองการกระทำของเด็กหญิง ผู้ครอบครองศิลามหาเทวะธาตุหยินหยางผ่านกระจกส่องพิภพ นี่คงเป็นเหตุผลที่ศิลามหาเทวะธาตุเลือกนางเป็นคู่ร่วมชะตา มันถึงได้กลิ้งลงสู่ภพมนุษย์หายไปต่อหน้าเขาเสียอย่างนั้น ใช้พลังเรียกอย่างไรก็ไม่กลับมา จนเขาถูกมหาเทวีเฟิ่งหนี่ว์บิดหูเกือบขาดที่ทำมันหาย!!

"ช่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยว สมกับที่เป็นผู้ถูกเลือก ข้าจะช่วยให้เจ้าเก่งกาจเหนือใคร จนบิดาสารเลวผู้นั้นต้องก้มลงกราบกรานเจ้าสักวันเอง ฮ่าๆๆๆ!!!"

หมายเหตุ : คำว่า สุริยัน จันทรา Ri yue อ่านออกเสียงได้ทั้ง รื่อเยว่ และ รวี่เยว่ ไรท์เลือกคำว่า “รวี่เยว่” เพราะดูมีเอกลักษณ์ดีค่ะ ^^

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง