บทที่ 7 เริ่มต้นหลอมโอสถ /1
ดวงตาของเด็กหนุ่มกลายเป็นสีเงินในขณะที่กล่าวคำว่า “เจ้าต้องกลับไปกับข้า”
เรียวคิ้วเล็กของรวี่เยว่มุ่นเข้าหากัน เมื่อได้ยินถ้อยคำจากปากเด็กหนุ่ม ไพล่คิดในใจว่า
พี่ชายคนงามจะพานางกลับบ้านไปด้วย ทั้งที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกแท้ๆ ช่างเป็นบุรุษเจ้าชู้ยิ่ง! นางยังเด็กอยู่เลยนะ แม้แต่เด็กก็ไม่ละเว้น ใช้ไม่ได้!
ส่วนสาเหตุที่ทำให้นางคิดเช่นนี้ เป็นเพราะเมื่อก่อนนางเคยเห็นบิดา พาหญิงสาวอายุน้อยกว่ากลับมาบ้านอยู่สองสามคน และแต่งตั้งพวกนางเป็นอนุของเขาในเวลาต่อมา
"รวี่เยว่ยังไปกับองค์ไท่จื่อไม่ได้เพคะ รวี่เยว่มีธุระที่ต้องทำอีกหลายอย่างเลย องค์ไท่จื่อไม่โกรธรวี่เยว่นะเพคะ"
ทุกคน ณ ที่นั้นต่างพากันตกตะลึง ไม่เว้นแม้ราชันย์หมาป่าพระจันทร์เงิน
เด็กหญิงตรงหน้าสามารถต้านมนตรามายาจิ้งจอกขององค์ไท่จื่อได้!!!
ร่างใหญ่โตสีเงินตัดสินใจก้าวมาหาฮั่วเฮ่อฉี เอ่ยถ้อยคำอย่างใจเย็น เมื่อเห็นสีหน้ามืดครึ้มของเด็กหนุ่ม
"ฝ่าบาท ข้าทราบว่าท่านชอบเอาลูกสัตว์ไปเลี้ยงดู แต่กับลูกมนุษย์…เกรงว่าจะไม่เหมาะสมนัก" จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นส่งกระแสจิตไปหาเขาแทน
'แม้ว่านางจะพิเศษกว่าคนอื่น ที่สามารถต้านมนตราของท่านได้ อีกอย่างเราไม่รู้ที่มาที่ไปของเด็กคนนี้ หากพาตัวไป เกรงว่าอาจมีปัญหาตามมาทีหลัง และนั่นจะเป็นโอกาสให้คนผู้นั้น หาข้ออ้างมากล่าวร้ายท่านได้อีก ระวังไว้หน่อยจะดีกว่า'
ใบหน้าหล่อเหลาดูเย็นชาขึ้นสามส่วน ยามได้ยินถ้อยคำจากปากของราชันย์หมาป่าพระจันทร์เงินนาม อี้หรง ที่เอ่ยถึงคนผู้นั้น
"ช่างน่าเสียดายจริงๆ นางหน้าตาน่ารักมาก หากเอาไปปล่อยให้วิ่งเล่นอยู่ในตำหนักของข้า คงจะแก้เบื่อได้ไม่น้อย แต่ก็ช่างเถอะ ในเมื่ออี้หรงเห็นว่าไม่เหมาะสม ข้าจะยอมปล่อยนางไปก็แล้วกัน" ฮั่วเฮ่อฉียกมือขยี้ผมของรวี่เยว่เล็กน้อยก่อนกลับไปขึ้นหลังของอี้หรง
“…” รวี่เยว่ยู่ปาก แอบตำหนิไท่จื่อของตำหนักเทพอนันต์ในใจ 'ข้าเป็นคนนะเจ้าคะไม่ใช่สัตว์เลี้ยงเสียหน่อย'
องครักษ์ที่ติดตามมาต่างโล่งอก กล่าวขอบคุณอี้หรงในใจกันถ้วนหน้า
"เจ้าอย่าลืมสิว่า ตำหนักเทพอนันต์เชี่ยวชาญการหลอมโอสถ กอปรกับสายเลือดสัตว์เทพของพวกเขา ก็มิใช่เรื่องแปลกอันใดที่จะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหมือนมนุษย์ธรรมดาอย่างพวกเรา หากไม่มีโอสถดีๆ ช่วย ชาตินี้ทั้งชาติก็อย่าหวังว่าจะขึ้นไปถึงระดับหยวนอิง เฮ้อ พูดแล้วช่างน่าน้อยใจจริงๆ" นายพรานที่มาด้วยระดับพลังอยู่ที่จู้จีขั้นปลายแอบบ่นกระปอดกระแปด
รวี่เยว่หูผึ่งจนแทบกระดิกได้ 'เชี่ยวชาญการหลอมโอสถอย่างนั้นหรือ'
ในแดนปราณของท่านอาจารย์เต็มไปด้วยพืชสมุนไพรปราณ หากนางหลอมโอสถได้ด้วยก็คงจะดี นางจะได้มีเงินจ้างบ่าวไพร่มาทำงานในบ้านเพิ่ม แม่นมชุนจะได้มีเวลาฝึกบำเพ็ญเพื่อเลื่อนระดับพลังบ้าง คืนนี้รวี่เยว่ตั้งใจว่าจะลองถามท่านอาจารย์ของนางเรื่องการหลอมโอสถ
ในแดนปราณ
รวี่เยว่นั่งฉีกยิ้มแป้นแล้น เกาะขามหาเทพหวงหลง ดวงตากลมโตวาววับดูละม้ายคล้ายตาของจวี๋จื่อยามออดอ้อนขอให้เกาพุง
"อาจารย์เจ้าขา คือว่า ศิษย์อยากเรียนวิธีหลอมโอสถเจ้าค่ะ ศิษย์อยากช่วยแม่นมกับพี่ชุนอิ่งทำงานหาเงินบ้างเจ้าค่ะ" หน้าตาท่าทางน่าสงสารของรวี่เยว่ ทำผู้เป็นอาจารย์หัวใจอ่อนยวบ
เพราะตั้งแต่หวังเหลียงได้รับจดหมายตอบกลับของนาง เขาก็ไม่ส่งเงินทองมาอีกเลย นางเขียนจดหมายไปขอสินเดิมและรางวัลพระราชทานของมารดาคืน ทางนั้นก็ไม่ยอมตอบกลับมา ดูท่าว่าตั้งใจจะฮุบทรัพย์สมบัติที่เป็นของนางเอาไว้เอง หน้าหนาไร้ยางอาย!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง