ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 104

บทที่ 104 คุณจะวิ่งไปถึงไหน

“คุณชายเฉิน มันคือเรื่องเข้าใจผิด มันเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดทั้งหมดเลยครับ!”

ลี่เจี้ยนชานแทบจะร้องไห้แล้ว

“เข้าใจผิดอะไรกันครับ? ผมแทบจะมีชีวิตอยู่ที่จินหลิงไม่ได้แล้ว รีบให้ผมออกเถอะ!”

เฉินเกอยังอยากจะเซ็นอยู่อีก

“คุณชายเฉิน ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้วจริงๆ ที่จริงแล้วเรื่องนี้ แค่ลงโทษคุณชายนิดหน่อยปัญหานี้ก็จะสามารถแก้ไขได้แล้ว เป็นเพราะผมฟังคำพูดของคนอื่น ผมถึงได้ไล่คุณออก! ”

ถ้าหากว่าท่านอธิการบดีรู้เข้า ว่าตัวเองได้ไล่คุณชายเฉินของจินหลิงออกแล้วล่ะก็ เขาต้องตายแน่ๆ

ไม่รู้เรื่องก็ไม่เป็นไร แค่เรื่องที่ตัวเองไล่คุณชายเฉินออกเรื่องนี้ ก็สามารถทำให้เขาตายได้พันแปดร้อยครั้งแล้ว!

“ก็ได้ แล้วคุณคิดว่าเรื่องนี้ควรทำยังไงต่อไปดี? เมิ่งไฉ่หรูให้นักศึกษาคนหนึ่งยืนถือป้ายอยู่กลางฝูงชน นี้ถือว่าเป็นการทำลายศักดิ์ศรีของคนคนหนึ่งมาก!”

เฉินเกอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเปลี่ยนไปขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

เมื่อทำอะไรสักอย่าง ไม่อยากให้เป็นแบบเมื่อก่อน ที่ชอบเกรงใจ และยังขี้ขลาดอีก

แต่เฉินเกอในตอนนี้คือคิดอะไรก็พูดอย่างนั้น

“คุณวางใจได้เลยครับคุณชายเฉิน เรื่องนี้ผมจะจัดการให้เป็นธรรมที่สุดครับ”

“แล้วก็ ใช้ชื่อของคนทั่วไป บริจาคเงินให้กับเฮาหลานลันห้าแสนหยวนด้วย แล้วเดี๋ยวผมจะนำเงินมาคืนให้ ขอบคุณนะ!”

คุณชายไม่ต้องเกรงใจครับ!

ลี่เจี้ยนชานหัวเราฮ่าฮ่าออกมา

เฉินเกอจึงได้พยักหน้า

ยืนขึ้น แล้วก็ออกไป

ข้างนอกประตู

“หว้า เฉินเกอก็ถูกไล่ออกแล้ว อุตส่าห์อยู่ที่โรงเรียนมาตั้งสามปีครึ่ง สุดท้ายก็เรียนไม่จบ ฮ่าฮ่า......”

เมิ่งไฉ่หรูกอดอกแล้วหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้

“มันกล้ามาทำร้ายหยางหยางของพวกเรา ถูกไล่ออกก็ดีแล้ว และทางที่ดีก็อย่าให้มันเดินออกไปจากจินหลิงได้โดยที่ยังมีชีวิตอยู่ ”

ผู้หญิงอีกหลายคนยังคงไม่หายโกรธ

และทันใดนั้น ประตูก็เปิดออกมา

เมิ่งไฉ่หรู และพวกที่ยืนอยู่หน้าห้องแทบอยากจะพุ่งเข้าไปเยาะเย้ยเฉินเกอทันที

“เฉินเกอ เดินช้าๆหน่อย เพราะตอนที่สร้างใหม่ๆตรงนี้มันจะมีบันไดอยู่!”

แต่ภาพข้างหน้าของพวกเธอนั้น ทำให้พวกเธอตกใจจนต้องเบิกตากว้าง

เมื่อเห็นว่าเฉินเกอถูกลี่เจี้ยนชานประคองอยู่

และบันไดนั้นก็มีความสูงเพียงสองสามเซนติเมตรเท่านั้นเอง จนไม่สามารถเรียกว่าเป็นบันไดได้ แต่สิ่งที่ลี่เจี้ยนชานทำนี่คือกลัวเฉินเกอจะไปกระแทกเข้าอย่างนั้นเหรอ?

เฮ้ย มันอะไรกันเนี่ย?

เมิ่งไฉ่หรูตกใจถึงขั้นต้องอ้าปากค้าง

“คณบดีหลี่คะ เฉินเกอเขา......”

“เขาอะไรเขา ผมเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว ผมอยากจะถามคุณอาจารย์เมิ่ง ถ้าเฉินเกอไม่พูด ผมก็ไม่มีวันได้รู้ ว่าคุณให้นักเรียนคนหนึ่งถือป้ายแล้วยืนอยู่กลางฝูงชน แล้วคุณยังถ่ายรูปร่วมกันที่นั่นด้วยใช่ไหม?”

“ห๊ะ? เรื่องนี้ฉันได้บอก......”

“ผมไม่รู้เรื่อง ยังไงซะ อาจารย์เมิ่ง วิธีการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของนักศึกษาในครั้งนั้นมันทำให้ผมรู้สึกโกรธมากจริงๆ เดิมทีผมตั้งใจจะมอบรางวัลครูดีเด่นประจำสาขาให้กับคุณ แต่ว่าตอนนี้ ช่างมันเถอะ!”

“อะไรนะคะ? คณบดีหลี่ ฉันพยายามสร้างเกียรติสร้างชื่อเสียงให้กับสาขาของเรามาตลอดสามปี เพื่อจะได้รับรางวัลครูดีเด่นเลยนะคะ!”

เมิ่งไฉ่หรูอึ้งไปทันที

“ถ้าเป็นครูแบบนี้ ทางมหาวิทยาลัยยังต้องคิดหนักเลยว่าจะจ้างหรือไม่จ้างต่อดี และนี่ยังจะมาครูดีเด่นอะไรอีก ไร้สาระ! ”

 เมื่อลี่เจี้ยนชานพูดเสร็จ ก็หันไปมองเจียงเวยเวย

“ส่วนเธอ เป็นประธานนักศึกษามาแล้วสามปี แต่ก็จัดการเรื่องอะไรก็ไม่ได้ พอมีเรื่องก็มาที่สาขาอย่างเดียว เธอว่านอกจากสิ่งที่เธอทำอยู่ตอนนี้แล้ว เธอยังทำอะไรได้อีก? แต่ตอนนี้เธอก็เป็นประธานนักเรียนต่อไปก่อน แล้วถ้ามีคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งประธานนักศึกษาก็ค่อยเปลี่ยนคน!”

“ห๊ะ?”

“จะห๊ะทำไม?”

ลี่เจี้ยนชานดุเจียงเวยเวยไปหนึ่งที แล้วหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องทำงาน

เจียงเวยเวย: “อะไรเนี่ย ฉันยังไม่ได้พูดสักคำเลยนะ!”

ทำไมล่ะ?

ที่เป็นแบบนี้มันเป็นเพราะอะไรกันแน่?

เจียงเวยเวยและเมิ่งไฉ่หรูคิดเหมือนกัน แล้วก็หันไปมองที่เฉินเกอด้วยสายตาที่เย็นชาพร้อมกัน

ตอนนี้เฉินเกอจึงยิ้มเจื่อนๆ และหมุนตัวออกไป เขากำลังคิดว่า คงอีกไม่นาน เขาก็คงได้ข่าวของหวังหยาง

พวกแกเหยี่ยบย่ำฉันมาตั้งนาน ถึงตาที่ฉันต้องคิดดอกเบี้ยแล้วหรือเปล่า?

พอเฉินเกอกลับมาถึงที่ห้องเรียน ก็เห็นว่าหยางฮุยพวกเขากลับบ้านกันหมดแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!