ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 213

บทที่ 213 จะไปพักบ้านนายสักสอง สามวัน

“คุณผู้ชายคะ หนึ่งหมื่นค่ะ”

พนักงานบริการพูด

ทันใดสีหน้าของหลินตงนั้นก็ดูไม่จืดเลย ตอนแรกนึกว่าจ่ายไปหนึ่งพันหยวนแล้วเรื่องมันจะจบ แต่คิดไม่ถึงว่า แจกันดอกไม้ใบนี้จะมีราคาสูงขนาดนี้

ถ้าหากจะอ้างชื่อของพ่อตัวเองไป

ก็คงไม่ได้ผลแน่ ๆ

ร้านอาหารร้านนี้สาขาใหญ่อยู่ที่จินหลิง อีกอย่างเจ้าของร้านซึ่งก็เป็นผู้มีอำนาจมากในจินหลิง และตัวเองหากจะใช้ความสัมพันธ์นั้นกับเขาคงไม่ได้แน่ เพราะไม่ได้รู้จักกันเลย

หากจะให้ตัวเองจ่ายหนึ่งหมื่นหยวน แล้วตัวเองจะไปเอาเงินเยอะขนาดนั้นมาจากไหน

“ฮืม หนึ่งหมื่นก็หนึ่งหมื่นสิ ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไรเลย”

และในขณะนั้นเจียงหรานหรานได้พูดขึ้นด้วยอารมณ์หยิ่ง ๆ

เธอเองแทบอยากจะเอาเงินนั้นปาใส่หน้าพนักงานบริการนั่น

ซึ่งต่อหน้าของเฉินเกอในตอนนี้ เธอยังคงทำเป็นหยิ่งยโสอยู่

จากนั้นเธอก็หันไปมองที่หลินตงที่อยู่ข้าง ๆ เธอรู้ว่าไม่ว่าอย่างไรหลินตงต้องมีวิธีแน่นอน

หลินตงลูบ ๆ ที่กระเป๋า แล้วกระซิบข้าง ๆ หูของเจียงหรานหรานว่า “ตอนนี้ฉันมีเงินอยู่แค่สองสามพันหยวนเอง ไม่มีเงินเยอะขนาดนั้นหรอก”

“อะไรนะ” เจียงหรานหรานคิดว่าหลินตงไม่ว่าอย่างไรน่าจะมีสักห้า หกพันหยวน และตัวเองก็มีอยู่ห้า หกพันหยวน สองคนรวมกันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แถมก็ไม่เสียหน้าเท่าไรด้วย

แล้วใครจะคิดล่ะว่าที่หลินตงนั้นจะมีแค่นิดเดียว

ทันใดเธอก็มีสีหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“น้องครับ งั้นก็คิดรวมบัญชีกับของผมเลยก็ได้ เดี๋ยวผมจะจ่ายค่าเสียหายแทนพวกเขาเอง”

เมื่อเฉินเกอเห็นพวกเขาสองคนกระซิบกระซาบกันอยู่นาน ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะช่วยหรอก

แต่ก็พอมองออกว่า หลินตงคงไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริง ๆ

ส่วนเจียงหรานหรานนั้น สีหน้ายิ่งดูไม่ได้เลย

ถึงแม้นว่าทั้งสองคนนั้นจะมองไม่เห็นหัวตัวเองก็เถอะ แต่เมื่อเห็นเจียงหรานหรานอยู่ในสภาพแย่อย่างนี้ เฉินเกอเองก็รู้สึกไม่ดีอยู่เหมือนกัน

เพราะตอนที่เจอกันนั้น เฉินเกอเองก็ได้บอกกับเธอว่า ต่อไปหากเธอมีเรื่องทุกข์ร้อนใจใด ๆ ให้มาหาเขาก็ได้

เขาจึงได้พูดเสนอความช่วยเหลือเข้าไปให้ก่อน

“ฮืม หลินตงเขาไม่เอาเงินนายหรอก เพราะหลินตงเองเขามีเพื่อนเยอะอยู่แล้ว”

เจียงหรานหรานพูดขึ้น

แล้วในเวลานี้ หลินตงจะไปยืมเงินเพื่อนคนไหนได้ตั้งหนึ่งหมื่นหยวน ต่อจะให้เป็นการยืมก็เถอะ จะช้าหรือเร็วพ่อแม่ก็ต้องรู้อยู่ดี ทำอย่างไรตัวเองก็คงไม่รอด

ในใจเขาคิดว่าตอนนี้คงไม่ยืมไม่ได้แล้ว

จากนั้นเลยพูดขึ้นว่า “โอเค เฉินเกอ นายให้ฉันยืมก่อนหนึ่งหมื่นหยวน เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะคืนให้”

“ได้ ไม่มีปัญหา ใช่แล้ว นายต้องเขียนสัญญายืมให้ฉันด้วยนะ”

เฉินเกอพูดแล้วหัวเราะขึ้น

และพนักงานบริการตรงนั้น ก็รีบหยิบกระดาษมาให้

หลินตงถึงแม้นจะเสียหน้าอยู่ แต่อย่างไรก็คงยังต้องเขียนสัญญายืมเงินให้กับเฉินเกอ

หลังจากนั้น ก็หยิบเงินหนึ่งพันหยวนที่ตัวเองปาไว้ที่โต๊ะเก็บกลับใส่กระเป๋า

แล้วก็พาเจียงหรานหรานเดินออกจากร้านไป

“ฮืม หรานหราน เราต้องยืมเงินไอ้โง่นี่ เฮอะ ๆ วันนี้ช่างขายขี่หน้าจริง ๆ แต่ว่ารอวันที่ฉันคืนเงินเถอะ อีกอย่างครอบครัวมันก็ไม่ได้มีอำนาจหรอก เดี๋ยวจะทำอะไรให้ดู”

หลินตงยังคิดที่จะเอาคืนเฉินเกออีก

เมื่อเจียงหรานหรานเห็นหลินตงแบบนี้ กลับรู้สึกว่าเขานั้น ราวกับคนที่ตัวเองไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย

ช่างต่ำตมจริง ๆ

ใช่สิ ตอนนี้หลินตงดูต่ำมาก เมื่อก่อนนั้น เจียงหรานหรานคิดว่าไม่มีเงินมากมายก็ไม่ได้สำคัญเท่าไร

เพราะเธอเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่ดูแลและทะนุถนอมเป็นอย่างดี.... ซึ่งก็ไม่ได้ปรารถนาเงินทองแต่อย่างใด

แค่คิดว่าในอนาคตหาแฟนที่ไม่ต้องรวยเท่าไร และสามารถพาตัวเองออกไปกินข้าวข้างนอกบ้างในบางครั้งได้

ดังนั้น หลินตงเลยเป็นหนึ่งในเป้าหมายของเธอที่วางแผนจะใช้ชีวิตร่วมด้วย

เพราะว่า ไม่ว่าหลินตงไปยังที่ไหน ๆ ก็จะมีคนให้ความสำคัญและเคารพอยู่เสมอ ๆ

แต่วันนี้ ที่ร้านอาหารฝรั่ง ราวกับว่าทำให้เจียงหรานหรานได้รู้จักกับโลกใบใหม่

สามารถพาตัวเองไปกินข้าวได้หรอ

เฮอะ ๆ ไม่มีตังค์ แถมอาหารดี ๆ ก็ยังไม่มีปัญญาที่จะซื้อมัน

เฉินเกอสั่งอาหารมามีแต่ของดี ๆ เจียงหรานหรานเองก็อยากกินมาก แต่หลินตงกลับไม่มีตังค์มากพอ

แถมยังทำแจกันดอกไม้แตกอีก และก็ไม่มีตังค์ที่จะชดใช้ค่าเสียหาย

ยืมเงินเขา และยังคิดร้ายกับเขาอีก

นี่หรอคือผู้ชายที่ตัวเองชอบ

เจียงหรานหรานส่ายหัว ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!