ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 237

บทที่ 237 งานวันเกิดคุณหนูหลิน

“คุณเฉิน?”

ผู้หญิงคนหนึ่งอายุราวๆยี่สิบสี่ยี่สิบห้าปีได้เดินเข้ามา

มองเฉินหลินแล้วพูดอย่างเคารพ

แต่เฉินหลินที่เห็นเธอนั้น แกล้งทำเป็นไม่รู้จัก

เธอคือใคร?

นี่มันผู้จัดการหวางเสี่ยวจางที่เช่ารถคันนั้นให้กับเธอนี่นา

“อ้อๆ คุณมีธุระอะไรมั้ย? หากมีธุระอะไร รอให้ฉันกลับไปค่อยก่อนค่อยคุยวีแชทกับคุณ! ตอนนี้ฉันไม่สะดวก!”

สีหน้าขอเฉินหลิน ซีดขาวสลับกันไป

โอ้มายก๊อต ทำไมบังเอิญแบบนี้

อยู่ๆก็ได้มาเจอกับผู้จัดการเช่ารถที่นี่

เดี๋ยวความต้องแตกแน่เลย ตัวเองเพิ่งจะคืนดีกับติงห้าวเอง

“ไม่เป็นไรค่ะคุณเฉิน ฉันคุยกับคุณแค่แป๊บเดียวเอง ตอนที่คุณเช่ารถคนนี้นั้น ตอนนั้นฉันไม่ทันสังเกตเรื่องเวลา เขียนเวลาที่ส่งคืนรถคือพรุ่งนี้ ทางเราบันทึกผิดพลาดไป ที่จริงคุณต้องส่งรถคันนี้คืนวันนี้ในเวลาสี่โมงเย็น เพราะเวลาห้าโมงเย็นทางเราต้องคืนรถให้กับลูกค้า! ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง เป็นความผิดพลาดของทางเราเอง! เดิมทีอีกสักพักฉันก็เตรียมที่จะโทรหาคนแล้ว!”

หวางเสี่ยวจางยิ้มๆ

จากนั้นเธอก็โบกมือให้เฉินหลินแล้วจากไป

what?

แต่ติงห้าวและหลี่ชือหานขณะที่ได้ยินคำพูดนี้ต่างเอ๋อไปทันที?

“เฉินหลินเช่ารถ? นี่มันยังไงกันแน่?”

ติงห้าวยังตอบสนองไม่ทัน

“อ๋า? ฉัน.......ฉันก็ไม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน!”

เฉินหลินไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว

ทั้งหมดเป็นเรื่องหลอกลวง

“ฮึ ฉันรู้แล้ว เฉินหลิน รถคันนี้เป็นรถที่เธอเช่ามาใช่มั้ย? เธอจงใจเช่ามาหลอกติงห้าว? ต้องเป็นแบบนี้แน่เลย!”

หลี่ชือหานกล่าว

ติงห้าวมองไปยังเฉินหลิน: “ หลินหลินที่ชือหานพูดจริงมั้ย?”

เฉินหลินไม่รู้จะตอบยังไง

พะวงหน้าพะวงหลัง ตัดสินใจไม่ได้สักที

แล้วก็เห็นเฉินเกอเข้าห้องน้ำกลับมาพอดี

ทันใดนั้น เฉินหลินก็มีแผนผุดขึ้นมาในใจ

หันหลังและวิ่งไปทางเฉินเกอ

“เฉินเกอ นายมานี่ ฉันมีเรื่องจะบอกนาย!”

เฉินหลินคว้าแขนของเฉินเกอไว้ พูดอย่างเบาๆ: “จบเห่แล้ว เรื่องเช่ารถถูกติงห้าวรู้เข้าแล้ว ตอนนี้นายช่วยรับเรื่องนี้แทนฉันหน่อยนะ นายก็บอกว่าเป็นรถที่นายเช่ามาเอง นายหลอกฉัน นายพูดแบบนี้ได้มั้ย? ขอร้องนายล่ะ ช่วยฉันอีกครั้งนะ!”

เฉินเกอก็อึ้งไป นี่มันยังไงเนี่ย?

และตอนนี้ ติงห้าวและหลี่ชือหานได้เดินมาทางเฉินเกอแล้ว

“เฉินเกอไอ้คนสารเลว!!!! นายกล้าหลอกฉันแบบนี้หรอ? รถนี้นายเช่ามา แล้วเอามาจีบฉันใช่มั้ย? นี่มันไม่ใช่รถของนายสักหน่อย!”

เฉินหลินโวยวายทันควัน

เรื่องมันยังไงกันเนี่ย? รถคันนี้มันเป็นรถฉันไง?

เฉินเกอพูดขึ้น

“ฮึ่ม เฉินเกอไม่ต้องปากแข็งแล้ว ดูไม่ออกเลยจริงๆ นายถึงทุเรศได้แบบนี้ ใช้วิธีนี้มาหลอกเฉินหลิน และเฉินหลินก็เกือบจะเป็นของนายแล้ว แน่นอน มันก็เกือบทำให้ฉันต้องเลิกกับชือหานจริงๆแล้วด้วย!”

ติงห้าวยิ้มแล้วพูดอย่างดูถูก

“ตอนนี้นายรู้แล้วใช่มั้ย ใครที่ดีกับนายจริงๆ ผู้หญิงบางคน เห็นคนอื่นมีเงิน ก็ไปติดพันคนอื่น สุดท้ายก็โดนคนอื่นหลอก ตอนนี้นายมองเห็นชัดเจนหรือยัง?” หลี่ชือหานมองไปที่ติงห้าวแล้วพูด

“ติงห้าวเมื่อกี้นายเพิ่งพูดเองว่านายจะดีกับฉัน!”

เฉินหลินพูดอย่างร้องไห้

ฮึ หลินหลิน ฉันขอเตือนเธอให้มีสติหน่อย เพราะไอ้คนนอกคอกคนนี้แท้ๆ วันนี้เกือบทำให้ฉันต้องเลิกกับชือหาน มันช่างเหลือเกินจริงๆ เดิมทีพวกเรานัดกันจะไปร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดของคุณหนูหลิน ทำให้เราทะเลาะกันเกือบต้องแยกย้ายเสียแล้ว ช่างเหลือเกินจริงๆ

ติงห้าวเหลือบมองเฉินหลินและเฉินเกอแวบหนึ่งแล้ว ก็จุงมือของ หลี่ชือหานเดินเข้าไปในโรงแรมจินหลิง

วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณหนูหลิน ติงห้าวได้มาถึงก่อนแล้ว ยังไม่ถึงเวลา ก็เลยไปนั่งดื่มกาแฟที่ร้านกาแฟ

สุดท้ายก็มาเจอการแสดงที่หลอกลวงแบบนี้ เฮ้ย!

สำหรับเฉินหลินที่อยู่กับฐานะอย่างเฉินเกอ คุณค่าของ เฉินหลินก็ลดลงตามไปด้วย

“เออ เฉินเกอ นายถูกหวยไม่ใช่หรอ? ฮ่าๆๆ ทำไมไม่เข้าไปนั่งในโรงแรมจินหลิงล่ะ? พวกเรามีตั๋วอยู่!”

ติงห้าวเยาะเย้ยเฉินเกอแล้ว ก็ได้พาหลี่ชือหานเดินจากไปอย่างอารมณ์ดี

เฉินหลินได้นั่งลงกับพื้น ร้องไห้ทันที

“โอ้ คุณชายเฉิน! ทำไมอยู่ที่นี่ได้?”

จู่ๆเวลานี้ มีเสียงหนึ่งได้ดังขึ้นมา

จากนั้นก็มองเห็นชายคนวัยกลางคนคนหนึ่งใส่ชุดสูทรองเท้าหนังเดินมาทางเฉินเกอ

“คุณคือ?”

เฉินเกอรู้สึกคุ้นหน้าไม่น้อย แต่ก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร

“เห่อๆ คุณชายเฉิน คุณไม่รู้จักผมก็เป็นเรื่องปกติ แต่ผมรู้จักคุณ ครั้งก่อนที่อำเภอผิงอันงานเลี้ยงต้อนรับคุณ ผมก็อยู่ในงานนั้น ตอนนั้นผมก็ถูกความโดดเด่นของคุณดึงดูดเข้าแล้ว ผมชื่อหวังเป่า เป็นคนที่ประธานหลี่รับเข้ามาทำงาน เป็นผู้จัดการฝ่ายวางแผน วันนี้คุณก็มาร่วมงานของคุณหนูหลินหรอครับ?”

ชายวัยกลางคนถูมือและยิ้มอย่างประหม่า

และเฉินหลินนั้น ก็ไม่ร้องไห้แล้ว ตอนนี้กำลังตั้งใจมองภาพที่อยู่ตรงหน้า

รวมทั้งคนที่กำลังจะเดินเข้าโรงแรมอย่างติงห้าวและหลี่ชือหานต่างมึนงงไปเล็กน้อย

“อ้อๆ สวัสดีครับ ผู้จัดการหวัง ทำไมงานเลี้ยงวันเกิดนี้คุณถึงได้เป็นคนคิดแผนงานล่ะ?”

เฉินเกอรู้สึกจับต้นชนปลายไม่ถูก คุณหนูหลินคนไหนกัน?

ทำไมถึงต้องให้คนในบริษัทวางแผนจัดงานให้?

“เห่อๆ แน่นอนสิครับ ก็วันนี้เป็นงานวันเกิดของคุณหนูหลิน เป็นคนของบริษัททั้งนั้น ผมต้องช่วยวางแผนงานอยู่แล้ว วันนี้คนของถนนการค้าจินหลิงต่างก็มาที่นี่กัน เพราะครึ่งปีหลังเราทั้งหมดก็ต้องไปย้ายไปถนนการค้าเขาหยุนเหมิงแล้วไม่ใช่หรอ ดังนั้น ก็ถือเป็นงานเลี้ยงที่มาสังสรรค์กัน!”

หวังเป่าอธิบาย

“ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง!”

ใจของเฉินเกอรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก

หลินยียีกับตัวเองก็ถือได้ว่าเป็นเพื่อนกัน ทำไมงานเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้ถึงไม่เชิญตัวเองล่ะ?

“ผู้จัดการหวัง คุณรู้จักเฉินเกอหรอ?”

เฉินหลินที่ตาปรือก็ได้พูดขึ้น

ตอนนี้เธอกำลังมองสายตาของติงห้าว

รู้สึกเหมือนตัวเองกู้หน้ากลับมาได้อีกครั้ง

หรือเป็นเพราะว่าเพื่อนรักอย่างเหว่ยเฉว่วางแผนช่วยเหลือ

ถึงอย่างไรเหว่ยเฉว่ก็มองดูอยู่ไม่ไกลจากแถวนี้ เพียงแต่ไม่ได้ออกหน้าเท่านั้นเอง

ยิ่งคิด เฉินหลินก็รู้สึกว่าต้องใช่แน่ๆเลย

“ผมรู้จักคุณชายเฉินอย่างแน่นอน ถึงแม้ผมจะจำคุณชายเฉินไม่ได้ ก็ต้องจำรถของคุณชายเฉินได้อยู่แล้ว ฮ่าๆ!”

ผู้จัดการหวังชี้ไปที่รถเบนซ์จิ๊บ

ดีงาม!

เฉินหลินคิดในใจ เป็นเพื่อนรักของเธอที่ออกโรงช่วยเหลือนี่เอง

เป็นคนที่หามาจากที่ไหนกัน ยอดเยี่ยมทีเดียว!

และเฉินเกอนั้น เมื่อกี้เพิ่งจะโดนติงห้าวและหลี่ชือหานเยาะเย้ยไป

หากตัวเองไปเสียตอนนี้ ข้อแรกเฉินหลินก็คงจะลำบาก

อีกข้อก็คือในใจของตัวเองก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน

ในใจคิดว่าเมื่อมาทันงานวันเกิดของหลินยียีแล้ว ตัวเองก็ต้องเข้าไปดูหน่อย พร้อมกับตบหน้าของติงห้าวสักครั้ง เขาจะได้ไม่ต้องมาโอ้อวดอีกต่อไป!

แล้วเขาก็พูดกับผู้จัดการหวัง ผู้จัดการหวัง งั้นคุณช่วยเอาตั๋วเข้าให้ผมสักสองใบ วันนี้ผมไม่ได้พกมาด้วย!”

“อา? ได้ครับได้ครับคุณชายเฉิน!

ผู้จัดการหวังพยักหน้าทันที

และเฉินหลินกำลังพยายามส่งสัญญาณให้เฉินเกอ พอประมาณก็ได้พอแล้ว อันนี้คืองานวันเกิดของคุณหนูหลิน คนที่หามาแสดงจะมีตั๋วได้อย่างไรกัน

เพียงแต่ว่าตอนนี้เห็นผู้จัดการหวังหยิบตั๋วออกมานั้น เฉินหลินตกใจทันที

ติงห้าวและหลี่ชือหานต่างก็ตกใจ

และเฉินเกอก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก กอดเฉินหลินเข้ามาในอ้อมอกโดยตรง “ไปกันเถอะ วันนี้พี่จะพาเธอไปร่วมงานวันเกิดเอง!”

เฉินหลินนั้น ทันทีที่ถูกเฉินเกอกอดเข้าในไปอก ก็มึนงงเล็กน้อย ก็ได้กอดเอวของเฉินเกอไว้

อยู่ภายใต้สายตาที่อิจฉาของติงห้าว เดินเข้าไปในโรงแรม

“เห้ย เฉินเกอทำถึงได้มีหน้ามีตาขนาดนี้วะ?”

ติงห้าวพูดในใจอย่างอิจฉาอยู่

แต่ก็ได้เดินตามเข้าไปในงาน...........

  

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!