ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 239

บทที่ 239 กอดอย่างลึกซึ้ง

หากพูดขึ้นมา ก็มีสักระยะหนึ่งแล้วที่เฉินเกอไม่ได้เจอหลินยียีเลย

คิดไม่ถึงหลังจากที่ไม่ได้เจอหลินยียีมาสักพัก สาวน้อยคนนี้เหมือนจะสวยขึ้นอีกแล้ว

“คุณหลินยียีช่างสวยงามเหลือเกิน!”

ด้านล่างเวที ติงห้าวที่อยู่ข้างๆอดไม่ได้จนต้องมองตาค้าง

กล่าวคำชื่นชมอย่างตรงไปตรงมา

สำหรับหลี่ชือหานก็ไม่ได้โกรธอะไร

เพราะอะไรหรอ?

เพราะหน้าตาของหลินยียีนั้น แม้แต่หลี่ชือหานยังอิจฉาเลย

เธอยังยอมรับ คุณหนูหลินเป็นสาวงามของประเทศจริงๆ

“มันก็แน่อยู่แล้ว คุณหนูหลินยียีนั้นเป็นน้องสาวบุณธรรมขอบคุณชายเฉินแห่งจินหลิง จะหน้าตาธรรมดาได้อย่างไรกัน?!”

จางหล่างยิ้มเจื่อนๆแล้วพูด

“เอ่อคุณชายจาง วันนี้เป็นงานวันเกิดของคุณหนูหลินยียี คุณชายเฉินแห่งจินหลิงไม่มาหรอ?”

เจียงหรานหรานได้ถามขึ้น

เธอคิด หากวันนี้สามารถรู้จักกับคุณชายเฉินด้วยจะดีมากเลย

“เห่อๆ คุณชายเฉินไม่มาอย่างแน่นอน ฉันจะบอกพวกเธอให้นะ พ่อฉันบอกกับฉันว่า คุณชายเฉินแห่งจินหลิงชอบใช้ชีวิตแบบสมถะ เป็นคนที่ง่ายๆ งานที่ใหญ่โตแบบนี้ เขาไม่ชอบและไม่เคยที่จะไปร่วมงานเลย”!

จางหล่างพูดราวกับว่าเข้าใจคุณชายเฉินเป็นอย่างดี พูดอย่างภูมิใจมาก

“อ้อๆ” เจียงหรานหรานอดไม่ได้ที่จะแสดงความเสียใจออกมา

“หรานหรานเธอดื่มน้ำผลไม้ป่ะ นี่เป็นน้ำผลไม้จากต่างประเทศ อร่อยมาก ฉันเทให้เธอแก้วหนึ่ง!”

หลินตงที่อยู่ด้านข้างเห็นเจียงหรานหรานคุยกับจางหล่างตลอดเวลา ในใจรู้สึกอึดอัดมาก

ขณะนี้ก็เลยไปพูดดีด้วย

“ดื่มอะไรละ ฉันไม่ดื่ม ไม่ต้องมาสนใจฉัน!”

ไม่คิดว่าเจียงหรานหรานมองไปที่หลินตงอย่างรังเกียจ แล้วก็ถอนสายตากลับมาไว้ที่จางหล่างเหมือนเดิม

“ฉันขอน้ำผลไม้หนึ่งแก้ว!”

ขณะนี้บริกรให้ถือถาดเครื่องดื่มเดินผ่านมาทางเฉินเกอและเฉินหลิน

ปากของเฉินหลินแห้งมาก เธอกระหายน้ำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องที่เช่ารถเมื่อกี้ ตอนนี้ก็เข้ามาในงานเลี้ยงไฮโซแบบนี้ ทำให้เธอตื่นเต้นมาก

เห็นน้ำผลไม้นี้เหมือนจะน่าดื่มมาก ก็เลยได้ขอไปหนึ่งแก้ว

และในเวลานี้ หลินยียีที่อยู่บนเวทีกำลังสอดส่องสายตาไปทั่วสารทิศ พร้อมกับกล่าวสุนทรพจน์และขอบคุณแขกผู้มีเกียรติในงาน

ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงป้างดังขึ้น

อ้า!

พร้อมด้วยเสียงตะโกนของผู้หญิงคนหนึ่ง

ทำให้ภายในงานเงียบสงบไปทันที

เป็นเฉินหลิน เมื่อกี้เธอดื่มน้ำผลไม้ไปแล้ว รู้สึกว่ามันอร่อยดี ก็เลยจะหยิบให้เฉินเกอหนึ่งแก้ว

และในเวลานี้แหละ มือของเฉินหลินสั่นขึ้นมา แก้วที่ถือไม่แน่นพอ แก้วทรงสูงได้หล่นลงไปบนพื้น แตกกระจายไปทั่ว

น้ำผลไม้ก็กระเด็นใส่ร่างของเฉินเกอและตัวเอง

จึงตะโกนไปแค่คำเดียว

“หยา ทำไมถึงได้ไม่ระวังแบบนี้นะ มาฉันช่วยเธอเช็ด!”

เฉินเกออดไม่ได้ที่จะพูด

พลางใช้มือหยิบทิชชู ช่วยเฉินหลินเช็ดกระโปรง และเช็ดขากระเกงของตัวเองด้วย

“แม่งเอ๊ย ขายหน้าฉิบผาย นี่มันคนบ้านนอกเข้ากรุงป่ะ? แค่แก้วทรงสูงยังถือไม่เป็น?”

“เห่อๆ ใช่น้อ สถานที่แบบนี้ ไม่ดูเทพธิดาหลินยียีกำลังกล่าวเปิดงานและคำขอบคุณอยู่บนเวที แต่กลับมาห่วงเรื่องกิน ช่างไร้รสนิยมเสียจริง!”

คุณชายที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างเยาะเย้ย

เหมือนเสียงเยาะเย้ยยิ่งดัง เหมือนกับว่าจะยิ่งทำให้หลินยียีดีใจยังไงอย่างนั้น

“เฮ้ย เห็นหรือยัง นี่คือความแตกต่างระหว่างการหาแฟนรวยจริงกับแฟนรวยปลอม ๆ สถานที่ไฮโซก็ยังไม่เคยไปเลย ก็ไม่แปลกที่จะทำเรื่องขายหน้าแบบนี้!”

หลี่ชือหานมองเฉินหลินที่กลายเป็นตัวตลก ขณะนั้นจึงพูดอย่างเย็นชา

“เฮ้ย เหลือเกินจริงๆ โชคดีที่ฉันไม่ได้พาใครบางคนมา!” ติงห้าวก็ได้พูดขึ้น

สำหรับเจียงหรานหรานนั้น ขณะนี้เพียงแค่มองเฉินเกอแล้วส่ายหัวไปมา

“ขอโทษ ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ!”

เฉินหลินเกิดกลัวขึ้นมาแล้ว รีบร้อนโค้งคำนับขอโทษทุกคน

จากนั้นหน้าก็แดงขึ้นมา แล้วดึงแขนเสื้อของเฉินเกอ

“เฉินเกอ พวกเราไปกันเถอะ อย่าอยู่ที่นี่อีกเลย!”

ก็ใช่ไง ตอนที่เฉินหลินเข้ามานั้น ก็รู้ว่าเฉินเกอไม่สามารถที่จะแสดงบทบาทนี้ต่อไปได้ เพียงแต่ในสถานการณ์ตอนนั้น ตัวเองและเฉินเกอต่างก็เข้ามาแล้วก็เลยเลยตามเลย

แต่ไม่คิดว่าจะมาทำเรื่องน่าเกลียดเช่นนี้ หากอยู่ต่อไป คงได้ขายหน้าไปมากกว่านี้แน่

“จะไปทำไมกัน? อยู่ที่นี่ก็ดีอยู่แล้ว ก็แค่ทำแก้วแตกไปหนึ่งใบเอง ไม่เป็นไรน่ะ!”

เป็นครั้งแรกที่เฉินเกอเห็นผูหญิงที่ฝ่ายสูงทะเยอทะยานอย่างเฉินหลิน ก็มีช่วงเวลาที่น้อยเนื้อต่ำใจกับเขาเหมือนกัน

อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเจื่อนๆ

ตัวเองกับเธอก็ไม่ต่างกันมาก ครั้งแรกที่ร่วมงานเลี้ยงที่ใหญ่โตแบบนี้ก็ปลดปล่อยไม่ได้เหมือนกัน

ก็เลยกล่อมเฉินหลิน

“สองคนนี้เป็นใครกันหรอ? เข้ามาได้ยังไงกัน ทำไมถึงไร้มารยาทเพียงนี้ งานเลี้ยงวันนี้ เป็นงานที่ใครๆก็สามารถเข้ามาได้จริงหรอ?”

มีนักธุรกิจวัยกลางคนที่ร่ำรวยท่านหนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปได้พูดขึ้นมาอย่างเยือกเย็น

ทุกคนก็เริ่มปฏิบัติตามกัน

อย่างไรเสียเรื่องเกิดระหว่างที่คุณหนูหลินกำลังกล่าวสุนทรพจน์อยู่บนเวที ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรนัก

และในเวลานี้ใครที่ออกมาพูด ก็เท่ากับว่าได้สร้างความประทับใจให้กับตระกูลหลิน

ภายภาคหน้าก็จะมีประโยชน์ตามมาอย่างแน่นอน

ทุกคนจึงได้เยาะเย้ยกันขึ้นมา

ในเวลาเดียวกันก็ส่งสายตาไปหาหลินยียีที่อยู่บนเวที อยากดูว่าคุณหนูหลินจะมีปฏิกิริยาอย่างไร

แต่หลินยียีที่อยู่บนเวที เวลานี้ดวงตาบวมแดง และไมค์ที่ถืออยู่บนมือไม่รู้ว่าหล่นลงไปบนพื้นตั้งแต่เมื่อไหร่

“นายมาแล้วจริงๆ!”

ทันใดนั้นหลินยียีก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

เฉินเกอที่กำลังนั่งเช็ดขากางเกงนั้น เวลานี้ได้ยินคำพูดของหลินยียี ก็เลยเงยหน้าขึ้นมา พบว่าตอนนี้หลินยียีเห็นตัวเองเข้าแล้ว

“อืม สุขสันต์วันเกิดนะ!”

เฉินเกอพูดอย่างอึดอัด

พร้อมกับคลำทั่วร่างกายตัวเอง นอกจากกุญแจรถก็ไม่มีของขวัญอะไรเลย

วันเกิดนะ!”

“ฉันนึกว่านายได้ลืมฉันไปนานแล้ว!”

เช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา

หลินยียีใช้สองมือถือกระโปรง วิ่งมาทางเฉินเกอ

ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของแขกในงาน เข้าไปโอบกอดเฉินเกออย่างลึกซึ้ง

“มันนานมากแล้วนะ นายก็ไม่ติดต่อฉันเลย นายมีคนอื่น นายก็ลืมฉันแล้วหรอ!”

หลินยียีที่กอดเฉินเกอไว้ร้องไห้ไปด้วยพูดไปด้วย

ความคับข้องใจถูกปลดปล่อยออกมาทันที

“เอาละๆ คนดี ไม่ร้องแล้วนะ!”

เฉินเกอตบไหล่ของหลินยียีเบาๆ

“อะไรกัน?”

“แม่งเอ๊ย?”

และคนที่อยู่ด้านล่างเวที เวลานี้ต่างประหลาดใจกันทั่วหน้า

หลินยียีเป็นใคร? เป็นเทพธิดาในสายตาของคุณชายตั้งมากมาย

และทำได้เพียงแค่มองไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้

มีแต่คุณชายระดับสูงถึงจะเป็นเพื่อนกับเธอได้

แต่ว่าเวลานี้ คนคนนี้ดูแล้วก็ไม่ใช่คนที่เก่งกาจร่ำรวยอะไร ทำไมหลินยียีถึงได้มากอดเขาต่อหน้าผู้คน

และยังพูดคำพูดเหล่านี้ เหมือนเป็นกิ๊กกันเลย!

คนคนนี้เป็นใคร?

คุณชายทั้งหลายต่างถามอย่างอิจฉา

และติงห้าวกับหลี่ชือหานนั้น เวลานี้ต่างตกตะลึง

เฉินเกอก็แค่เศรษฐีใหม่คนหนึ่ง ทำไมถึงได้รับการเอาใจใส่จากเทพธิดาละ

ชั่วพริบตาเดียว แสงออร่าทั้งหมดได้สอดส่องไปที่เฉินเกอ

ทำให้ติงห้าวริษยาจนจะกระอักเลือด

ไม่ต้องเอ่ยถึงพวกจางหล่าง เจียงหรานหราน และหลินตงที่อยู่ด้านข้างเลย

“รอคืนนี้นะ คืนนี้ฉันจะฉลองวันเกิดให้เธอเอง!”

เฉินเกอพูดอย่างเจื่อนๆ

พูดตามตรง ที่เฉินเกอเข้ามาในงานนี้ก็เพื่อที่จะมาตบหน้าพวกติงห้าว

เพียงแต่จะใช้พวกของหวังเป่าในการตบหน้า

สุดท้ายกลับกลายเป็นแบบนี้

ทำให้เฉินเกอเขินอายไม่น้อย

“ได้ นายพูดเองนะ ถือว่านายชดเชยให้ฉันละกัน!”

หลินยียีถึงได้ไม่ร้องไห้

เช็ดน้ำตาจนแห้ง เฉินเกอปลอบใจหลินยียีให้ทำภารกิจจนเสร็จสิ้น ถึงได้พาเฉินหลินจากไป

เดินออกมาจากโรงแรม เฉินเกอและเฉินหลินอยู่ด้านหน้า และพวกติงห้าว หลี่ชือหาน และเจียงหรานหราน กลับเดินตามอยู่ไม่ไกล

เมื่อกี้ ทำให้พวกเขากระอักกระอ่วนกันทีเดียว

เวลานี้ในใจทุกคนกำลังสับสน ฐานะของเฉินเกอคืออะไรกันแน่? ทำไมถึงทำให้คุณหนูหลินเป็นแบบนั้นได้?

และเดินๆอยู่ก็มาถึงยังด้านหน้าของรถ

“คุณเฉินหลิน ฉันรอคุณอยู่สักพักแล้วละ! โทรศัพท์ของคุณโทรไม่ติดเลย”

เวลานี้ที่ข้างรถ หวางเสี่ยวจางที่ถือสัญญาเช่าอยู่ในมือดูก็รู้ว่าได้รอมาสักพักแล้ว........  

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!