ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 250

บทที่ 250 คู่นัดบอด

“ฮึ ไม่ต้องถาม ก็คงมาถอนเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแหละ ฮ่าๆ พวกเธอคงไม่รู้สิ เมื่อวานฉันได้สังเกตเงินของเขาแล้ว กระเป๋าตังเขาไม่มีเงินแม้แต่แดงเดียว!”

หลินตงพูดอย่างหัวเราะเสียงดัง

ส่วนเจียงหรานหรานนั้น หลังจากที่เหลือบมองเฉินเกอแล้วนั้น ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย

เมื่อก่อนนั้น ตอนที่เฉินเกอมีเงิน เจียงหรานหรานยังมีความรู้สึกที่ดีต่อเฉินเกอบ้าง

แต่ตอนนี้ สิ่งที่เฉินเกอทำมานั้น ทำให้เจียงหรานหรานหมดความรู้สึกทันทีเลย

“ใช่ไง มาถอนเงิน ยังมาพร้อมกับสวี่ซินด้วยนะ!”

ถังหรานยิ้มแล้วพูด

เจียงหรานหรานตื่นตระหนกขึ้นมาทันที ราวกับว่าสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

รีบร้อนดึงสวี่ซินไปอีกฟาก พูดเรื่องเฉินเกอไม่มีเงินแล้ว อาจจะต้องการหลอกเธอพูดอะไรประมาณนี้

สวี่ซินที่กังวลเล็กน้อยมองไปยังเฉินเกอ: “เฉินเกอ ทำไมนายต้องขายรถด้วยล่ะ แล้วทำไมยังขายราคาต่ำขนาดนี้ละ?”

เธอนั้นได้คิดแทนเฉินเกอจริงๆ

“วันหลังมีโอกาสค่อยบอกกับเธอนะ ฉันต้องไปถอนเงินก่อน เที่ยงนี้ยังมีธุระน่ะ!”

เฉินเกอยิ้มให้กับสวี่ซิน

จากนั้นก็ไม่ได้มองใครอีกเลย เดินไปที่เคาน์เตอร์ธนาคารโดยตรง

และหลินตงนั้น ยังจงใจพาหญิงสาวหลายคนตามไปดูเฉินเกอ

ความหมายก็คืออยากจะรอหัวเราะเยาะเฉินเกอ

“คุณผู้ชายคะ คุณจะถอนเงินเท่าไหร่คะ?”

พนักงานที่เคาน์เตอร์ได้ถามขึ้น

“ถอนหกแสนหยวนครับ”

เฉินเกอพูดอย่างเรียบเฉย

“แม่งเอ๊ย? หกแสน?”

หลินตงตกตะลึงทันที

เจียงหรานหรานก็ตกใจเหมือนกัน

ถังหรานและแม่ของสวี่ซินที่กำลังเดินเข้าต่างก็ได้มองมาทางนั้นเช่นกัน

“ได้ค่ะคุณผู้ชาย รอสักครูนะคะ!”

พนักงานธนาคารได้กล่าวขึ้น

ทันใดนั้นก็ให้เฉินเกอกดรหัสผ่านและเซ็นชื่อ

ฉับๆๆ!

เครื่องนับธนบัตรก็ได้ดังขึ้น

รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินตงถูกสตาฟไปทันที

“นาย.........นายยังมีเงินอีก? เงินนายซื้อรถไปหมดแล้วไม่ใช่หรอ?”

หลินตงพูดอย่างประหลาดใจ

“ฉันพูดเมื่อไหร่หรอว่าเงินของฉันได้ซื้อรถไปหมดแล้ว!?”

เฉินเกอพูดอย่างเย็นชา

“งั้นเฉินเกอ นายถูกหวยเท่าไหร่หรอ?”

เจียงหรานหรานได้ถามขึ้น

เวลานี้ แม่ของสวี่ซินกับถังหรานก็ได้เดินเข้ามา

“ฉันถูกประมาณ...........” เฉินเกอพูดเสียงสูง “ชั่วขณะนั้นทำให้ผู้คนรอบข้างเบิ่งตากว้างแล้วรายล้อมเข้ามา “ช่างมันเถอะ ก็ไม่เยอะเท่าไหร่ ไม่อยากพูดละ!”

“นาย!”

เจียงหรานหรานโมโหทันที

และเงินที่มากขนาดนี้ กระเป๋าใบเล็กของเฉินเกอก็ไม่พอใส่ พอดีเวลานี้พนักงานได้มาเปลี่ยนถุงขยะดำ เฉินเกอเลยขอมาหนึ่งอัน ใส่เงินหกแสนหยวนลงในถุงดำ หลังจากที่บอกลาสวี่ซินก็ถือเงินจากไป

“ที่แท้เขายังมีเงินอีก!”

น้าถางอุทานอย่างตกใจ

“ใช่ค่ะ หนูก็คิดไม่ถึง สรุปเขาถูกหวยเท่าไหร่กันแน่!”

เจียงหรานหรานพูดอย่างร้อนรน

ราวกับว่าตัวเองได้ทำเรื่องที่ละอายใจไปอย่างนั้น

“เย็ดแม่เอ๊ย ฉันว่านะ เฉินเกอมันเจตนาชัดๆ เขาเจตนาแกล้งทำเป็นจนให้พวกเราดู!”

หลินตงเกลียดมันมากยิ่งขึ้น

เพราะเมื่อกี้เขาโดนตบหน้าไปแล้ว และถูกตบแรงมากเสียด้วย

ขณะนั้น อารมณ์ที่จะไปเที่ยวนั้นกลับหายไปหมดเลย......

เฉินเกอในเวลานี้นั้น

ได้ไปถึงออฟฟิศที่ขายบ้านแล้ว และก็ไม่ต้องสงสัย ก็ได้ฉีกหน้าพนักงานขายเมื่อวานอย่างจังๆ

ซื้อบ้านโดยชำระเงินสดเต็มจำนวน

ทั้งหมดเจ็ดแสนกว่าหยวน

นี่มันอาเสี่ยชัดๆ

และหลังจากที่จัดการเรียบร้อยแล้ว ก็ใกล้เวลาเที่ยงแล้ว ลี่เสี้ยวเริ่มโทรตามแล้ว

เฉินเกอรีบร้อนกลับไปเปลี่ยนชุด แล้วก็รีบไปที่โรงแรมจินหรูยี่

เวลานี้ ในห้องวีไอพีของโรงแรม

ลี่เสี้ยวกับซูถิงนั้นได้มาถึงแล้ว

นอกเหนือจากนี้ ยังมีอีกสามคน

คนหนึ่งคือเพื่อนรักของซูถิง อีกคนหนึ่งนั้น ก็เป็นหญิงสาวที่มาดูตัวในครั้งนี้ ผมที่ยาวถึงหลัง ผิวพรรณผุดผ่อง รูปร่างหน้าตาสวยทีเดียว

เพียงแต่เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ค่อยชอบพูด เยือกเย็นทีเดียว ได้แต่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์

และผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างเธอ ก็คือแม่ของหญิงสาว

หญิงวัยกลางคนตัวอ้วนคิ้วเหมือนหนอน ดูแล้วเหมือนผู้ชายเล็กน้อย

“เฉินเกอเป็นคนดีมากเลย ไม่ใช่ว่าฉันชมเขานะ เดี๋ยวพวกเธอเห็นก็จะรู้เอง จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง และคนก็ดูก็สะอาดสะอ้านด้วย เดี๋ยวก็มีงานทำแล้ว ได้ยินว่าจะเข้าทำงานกับบริษัทของรัฐ ได้ซื้อบ้านที่อำเภอผิงอันแล้วด้วย!”

ซูถิงก็ได้คุยกับพวกเธอ

อย่างไรเสียสำหรับเฉินเกอแล้ว เพราะสาเหตุของลี่เสี้ยวแหละ เดิมทีตอนที่เรียนมัธยมต้นนั้นความสัมพันธ์ถือว่าดีมาก

เพราะว่าหลังจากที่ลี่เสี้ยวเกิดเรื่องนั้นขึ้น ดังนั้นซูถิงจึงได้เกลียดเฉินเกอ

ตอนนี้นั้น ความแค้นได้ลดถอยลงไปเยอะแล้ว สามารถช่วยเหลือเฉินเกอได้ก็ช่วย

“บ้านมีพื้นที่เท่าไหร่? คงไม่น้อยกว่าสามห้องนะ? หากไม่ใช่สามห้องนอนหนึ่งห้องรับแขกหนึ่งห้องครัวสองห้องน้ำ ไม่ถือว่าเป็นบ้านนะ!”

ในเวลานี้ หญิงสาวที่มาดูตัวได้เงยหน้าถามขึ้น

“ยังไงละ ก็คือสามห้องนอนหนึ่งห้องรับแขกหนึ่งห้องครัวสองห้องน้ำ เห่อๆ”

ลี่เสี้ยวกล่าว

“งั้นก็ดี แล้วรถละ? ยี่ห้ออะไร?”

คนที่ถามคือหญิงสาวของแม่

“อ่อๆ รถหรอยังไม่ได้ซื้อเลย อีกอย่าง รถโดยทั่วไปมีมูลค่าก็ไม่มากนัก!”

ลี่เสี้ยวกล่าว

“เห่อๆ ที่จริงพวกบ้านหรือรถ สำหรับพวกเราแล้วก็ไม่ได้สำคัญอะไร สิ่งที่สำคัญคือพ่อหนุ่มคนนี้ต้องเป็นคนซื่อสัตย์ อย่างพวกที่ขี้โม้ โอ้อวดไม่เอานะ!”

แม่ของหญิงสาวได้กล่าวขึ้นอีก

“ซื่อสัตย์ คุณวางใจได้ ซื่อสัตย์อย่างแน่นอน!”

ซูถิง: “พวกเราถือว่าเติบโตมาพร้อมกัน เรื่องนี้พวกเรารู้ดี~!”

ขณะที่ผู้คนกำลังสนทนากันอยู่

เฉินเกอก็ได้ผลักประตูเข้ามา

“เฉินเกอ นายรีบมานั่งเลย ฉันแนะนำให้นายรู้จักก่อน!”

ลี่เสี้ยวยิ้มและแนะนำทุกคนให้รู้จักกัน

และหญิงวัยกลางคนจ้องมองเฉินเกอตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูออกว่าเฉินเกอเป็นคนที่ซื่อสัตย์

ก็รู้สึกวางใจ

ไม่นานนักกับข้าวถูกเสริบขึ้นมา ทั้งสองฝ่ายกินไปสนทนากันไป

“ไอ้หยา ฉันว่าละทำไมกับข้าวจานสุดท้ายนี้ไม่มาสักที ฉันไปตามก่อนนะ!”

เพื่อนร่วมคนนั้นได้พูดขึ้น ยังได้ส่งสัญญาณให้ซูถิง ลี่เสี้ยว

จากนั้นทั้งสามคนก็เดินออกไปพร้อมกัน ลี่เสี้ยวตบไหล่ของเฉินเกอเบาๆ เป็นการให้กำลังใจเฉินเกอ

ผู้หญิงวัยกลางคนเห็นคนเดินออกไปกันแล้ว ก็ใช้ทิชชูเช็ดปาก

“นายชื่อเฉินเกอใช่มั้ย? สถานะทางการเงินของนาย พวกเราก็รู้หมดแล้ว นายดูซื่อสัตย์มาก นายรู้สึกว่าลูกสาวของฉันเป็นยังไงมั่ง?”

หญิงวัยกลางคนกล่าว

ก็ต้องซื่อสัตย์อยู่แล้ว เป็นครั้งแรกที่เฉินเกอมาดูตัวด้วย หญิงวัยกลางคนคนนี้หน้าดุเหมือนเสือ นอกจากลี่เสี้ยวถามแล้ว เธอก็ไม่ได้พูดอะไรเลย

“ก็ไม่เลวครับ!”

เฉินเกอกล่าว

และหญิงสาวคนนั้น เวลานี้ได้เงยหน้าขึ้นมองเฉินเกอไปแวบหนึ่ง จากนั้นก็ทำหน้ามุ่ย ก้มหน้าลงด้วยความรังเกียจ

เห้ย สายตาอะไรกันเนี่ย?

เฉินเกอด่าในใจ

“ฉันจะบอกนายนะ ลูกสาวฉันทำงานให้กับบริษัทในเครือของบริษัทดรีมเมอร์อินเวิร์สเมนท์กรุ้ป ชื่อบริษัทDaheng Production and Trade บริษัทดรีมเมอร์อินเวิร์สเมนท์กรุ้ปนายรู้จักใช่ไหม? เป็นบริษัทที่มีเงินทุนหนามาก ทำงานในนั้น รู้ไหมมันเข้ายากแค่ไหน?

หญิงวัยกลางคนกล่าว

บริษัทDaheng Production and Trade หากเฉินเกอจำไม่ผิด เป็นโรงงานที่บริษัทดรีมเมอร์กรุ้ปสนับสนุนเงินทุนให้เท่านั้น โครงการที่สนับสนุนเงินทุก ครั้งนี้มีไม่น้อย

แบบนี้ยังกล้าที่จะพูดว่าเป็นบริษัทในเครือของบริษัทดรีมเมอร์กรุ้ปอีกหรอ?

ในใจเฉินเกอยิ้มอย่างเอือมระอา

เพียงแค่พยักหน้า แต่ในใจค่อนข้างอึดอัด หญิงสาวคนนี้ก็ไม่เลย และรูปร่างหน้าตาก็ใช้ได้ทีเดียว ทำมาถึงอยากแต่งงานละ?

“พวกเรานั้น ก็เห็นนายที่เป็นคนซื่อสัตย์ เพราะลูกสาวฉันต้องการแต่งงานกับคนที่ซื่อสัตย์ แต่ว่าก่อนที่จะแต่งงานกับนาย ทางเรามีข้อเรียกร้องสามข้อ นายฟังให้ดีนะ!

“อ๋า?”

เฉินเกอโคตรงงเลย แม่งเอ๊ย นี่มันยังไงกันวะ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!