บทที่364 บังเอิญพบกันที่ศูนย์พ่อค้าจีน
หูฮุ่ยหมินเห็นเฉินเกอไม่ได้สนใจตัวเอง จึงตะโกนเรียกเฉินเกอในตอนนั้นด้วยความร้อนใจ
หมายความว่าอย่างไรกัน มองเห็นแต่ทำเหมือนกับไม่เห็น
“อะไร?”
เฉินเกอเองก็มีอารมณ์ที่ดูซับซ้อนกับหูฮุ่ยหมินเช่นกัน ทางที่ดีที่สุดทำเป็นไม่สนใจเสียเลย และเข้าใจว่าตัวเองร่ำรวยแล้ว ในใจของเธอนั้นก็รู้สึกไม่สมดุลเช่นกัน
แล้วก็ไม่มีอะไรจะต้องคุยกับเรื่องที่ไม่น่าสนใจเรื่องนี้ด้วย
“นายมีเงินแล้วไม่ใช่หรือ เหอะๆ ไม่คิดว่าจะแกล้งทำมาเป็นไม่รู้จักฉันนะ ฉันหานายไม่มีอะไรหรอก ก็แค่อยากจะรู้ว่าเงินของนายนั้นได้มายังไง?”
หูฮุ่ยหมินมองเฉินเกอพลางเอ่ยถาม
“ขอโทษนะ นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉัน!”
เฉินเกอเอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา
“นี่อย่างนายมีเรื่องส่วนตัวแล้วหรือ เหอะๆ มีเงินก็ไม่เหมือนเดิมแล้วสินะ ดูคุณธรรมเมื่อก่อนของนาย และคุณธรรมตอนนี้ของนาย จะบอกให้นะเฉินเกอ อย่างมากนายก็เป็นเพียงแค่พวกที่ร่ำรวยได้เพียงแค่ชั่วข้ามคืนเท่านั้นแหล่ะเข้าใจไหม? อีกทั้งสติปัญญาของพวกที่ร่ำรวยชั่วข้ามคืนก็รุนแรงเกินไปด้วยนะ! จริงๆ นายเองก็ยังขาดวุฒิภาวะและความสุขุมเหมือนพวกหวางเจี้ยนพวกนั้นนะ! ”
หูฮุ่ยหมินเอ่ยพูดขึ้น
“แล้วแต่เธอจะพูดยังไงก็แล้วกันนะ ฉันกับเสี่ยวหัวต้องไปที่บริษัทเปิดใหม่ก่อน ขอตัวแล้วกัน!”
เฉินเกอยิ้มพลางส่ายหน้า
ถึงอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตัวเขาเองถูกคนอื่นพูดใส่แบบนี้ แต่อยากจะพูดอะไรก็พูดไปแล้วกัน ตัวเขาเองก็ขี้เกียจที่จะอธิบายแล้วเหมือนกัน
“เปิดบริษัท? นายจะเปิดบริษัทใหม่อย่างนั้นหรือ?”
ไม่รู้ทำไม มองเห็นเฉินเกอที่ก้าวไปได้ดีทีละก้าวๆแบบนี้แล้ว ในใจของหูฮุ่ยหมินรู้สึกไม่สบอารมณ์มากเสียจริงๆ
“ใช่แล้ว พี่เฉินลงทุน พวกเราร่วมกันเปิดบริษัทท่องเที่ยว!”
หวางเสี่ยวหัวครั้งนี้เอ่ยพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ
หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปกับเฉินเกอ
จริงๆแล้ว เมื่อวานตอนบ่าย เฉินเกอก็โทรหาตัวเองเพื่อพูดเรื่องนี้แล้ว
คุณย่าของเขานั้นช่วงนี้สุขภาพค่อนข้างแย่ และเรื่องของความรู้สึกนั้นก็ไม่ราบรื่น จริงๆแล้วหวางเสี่ยวหัวนั้นรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก และพี่เฉินนั้นก็หาเงินทุนได้ทันเวลา ทำให้หวางเสี่ยวหัวผ่านวิกฤตทั้งหมดได้
ดังนั้นตอนนี้ ราวกับว่าหวางเสี่ยวหัวกำลังฝันอยู่ อยากที่จะร้องเรียกชื่อของพี่เฉิน พี่เฉิน พี่เฉิน เรียกเสียจนสนิทกันยิ่งกว่าพี่ชายแท้ๆเสียอีก
มองเบื้องหลังของทั้งสองคนนั้น
“ไม่รู้จริงๆว่านายนั่นโชคดีอะไรขนาดนี้กัน!”
เฉินจุนเหวินเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าไม่พอใจ
“ใครจะไปรู้ล่ะ แต่แม้แต่คนแบบเฉินเกอนี่จะเปิดบริษัทแล้ว อีกทั้งเขายังลงมือให้ดูใหญ่โตหรูหราอีกด้วยนะ!”
หูฮุ่ยหมินกระทืบเท้าอย่างร้อนรน ให้ได้ชัดว่าไม่มีทางอื่นแล้ว
“หือ มองดูเขาทำไปนั่นแหล่ะ รอจนเขาใช้เงินไปจนหมดแล้ว ดูว่าเขาจะยังมีอะไรอีก!”
เฉินจุนเหวินเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ แล้วหลังจากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า : “ไม่ต้องนึกถึงเฉินเกอนั่นแล้ว ไปกันเถอะ วันนี้ในมหาวิทยาลัยมีการแข่งขันเทควันโด กิจกรรมในมหาวิทยาลัยทั้งหมด มีแค่การแข่งขันนี้แหล่ะที่ฉันสนใจ!”
หูฮุ่ยหมินเอ่ยขึ้น : “ใช่สิ ก่อนหน้านี้ที่โรงเรียนตำรวจ นายก็เคยชนะการแข่งเทควันโดระดับมัธยมปลายของมณฑลเจียงหนานมาแล้วนี่ นายก็สามารถจะวิจารณ์คนใหม่ๆได้ใช่ไหม?”
ทั้งสองคนพูดกันไปพลาง และเดินเข้าไปพลาง
ส่วนทางด้านเฉินเกอและหวางเสี่ยวหัวนั้นหลังจากที่ไปรายงานตัวในห้องเรียนแล้วนั้น เนื่องจากว่าวันนี้ตอนช่วงสายมีวิชาที่ต้องใช้ความคิด ดังนั้นทั้งสองคนก็เลยพากันลาเสียเลย
เฉินเกอช่วยเหลือหวางเสี่ยวหัว ประการแรกเป็นเพราะในตัวของหวางเสี่ยวหัวนั้น มีเงาของตัวเองอยู่ไม่มากก็น้อย ช่วงเวลานี้ เฉินเกอเองก็เห็นหวางเสี่ยวหัวเป็นพี่น้องมาโดยตลอด
เขาไม่ราบรื่นตรงไหน ตัวเองก็จะช่วยเหลือเขา หรือจะช่วยอีกครั้ง ก็เป็นเรื่องเล็กน้อยไม่มีอะไรอยู่แล้ว
ประการที่สอง หวางเสี่ยวหัวคนนี้เป็นคนที่กตัญญูมาก กตัญญูต่อพ่อแม่ของเขา คุณปู่คุณย่าของเขา
ตรงนี้ทำให้เฉินเกอเองก็รู้สึกว่าหวางเสี่ยวหัวเป็นคนดี และก็ยอมที่จะสนับสนุนเขาด้วยเช่นกัน
ดังนั้นจึงมีความคิดที่จะเปิดบริษัทท่องเที่ยวร่วมกัน
เรื่องแรกก็คือการเลือกสถานที่ตั้งบริษัท
สถานที่กำหนดเป็นบริเวณใกล้ๆกับมหาวิทยาลัยในเขตเมือง สำนักงานอยู่ในอาคารพาณิชย์ ตึกหรูแห่งหนึ่ง
ที่นี่เดิมทีแล้วสร้างออกแบบตามฮวงจุ้ยเรียบร้อยแล้ว กิจการที่เข้ามาอยู่ในสถานที่นี้ก็มีมาก และมีค่านิยมสูงมากเช่นกัน
ส่วนบริษัทท่องเที่ยว ก็เพื่อที่จะสามารถได้รับการสร้างทีมของบริษัทอื่นๆ สิทธิในการจัดองค์กรประจำปี ดังนั้นจึงไม่เลือกสถานที่ชนบทห่างไกลความเจริญแบบนั้น
ทั้งสองคนมาถึงศูนย์พ่อค้าจีนอาคารพาณิชย์
“ไม่ใช่ว่าคุยกันทางโทรศัพท์แล้วหรือ แล้วคนที่จะมาต้อนรับพวกเราล่ะ?”
แต่หลังจากที่เฉินเกอเข้ามาแล้ว ก็เอ่ยถามหวางเสี่ยวหัว
“ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันพี่เฉิน ฉันโทรหาคนนั้นแล้ว แต่โทรศัพท์ของคนนั้นสายไม่ว่างเลย!”
“เอาล่ะ ศูนย์พ่อค้าจีนคนเยอะขนาดนี้ เรารอกันสักพักแล้วกัน!”
เฉินเกอมองดูเวลา
อดที่จะส่ายหน้าแล้วยิ้มออกมาไม่ได้
ทันใดนั้นเอง เฉินเกอก็เห็นหวางเสี่ยวหัวมองไปยังตรงประตูอย่างอึ้งๆและเหม่อลอย
แล้วจึงเงยหน้ามองตามไปด้วย
แล้วก็เห็นว่าในเวลานี้ มีผู้หญิงผู้ชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่เดินลงมาจากรถด้วยกัน แล้วก็เข้ามายังศูนย์พ่อค้าจีนด้วยเช่นกัน
ผู้หญิงคนหนึ่งในนั้น จับแขนของผู้ชายคนหนึ่งที่ลงจากรถมาตรงตำแหน่งคนขับอย่างสนิทสนม ทั้งสองคนพูดคุยกันหัวเราะกันแล้วเดิมตามผู้หญิงอีกสองคนเข้ามายังด้านใน
“หน่วนหน่วน วันนี้ช่วงสายๆเธอไม่เข้าร่วมการแข่งขันกับทีมที่จะแข่งกันแต่ละห้องหรอกหรือ?”
ผู้หญิงสองคนนั้นเอ่ยถาม
“การแข่งขันทีมเล็กๆมันระดับล่างเกินไป ฮ่าๆ หน่วนหน่วนเป็นมือหนึ่งของเทควันโดเชียวนะ สามารถเข้าร่วมการแข่งขันในตอนบ่ายเลยก็ได้ แน่นอนว่าไม่ต้องเข้าร่วมแล้วล่ะ! ใช่ไหม?”
ผู้ชายยิ้มพลางเอ่ยขึ้น
“ก็ใช่นะ อา ตอนนี้หน่วนหน่วนช่างมีความสุขเหลือเกินนะ ตอนนี้มีหลี่เสียงแล้ว ก็สามารถเปิดหลักสูตรฝึกฝนนักเรียนของตัวเองได้แล้ว!”
พวกผู้หญิงเหล่านั้นเอ่ยพูดขึ้นด้วยความอิจฉา
“นี่มันจะมีอะไรกันล่ะ เป็นเพียงแค่สถาบันฝึกฝนเท่านั้น ฉันก็ได้ทำในสิ่งที่ฉันชอบแค่นั้นเอง ใช่ไหมพี่เสียง?” ฉินหน่วนเอ่ยพูดขึ้นอย่างดีใจ
“อืม แต่หน่วนหน่วน เธอเองก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ด้วยนะ จะไม่ฉีดยากันไว้ก่อนก็ไม่ได้ เพราะตอนนี้สถาบันการฝึกฝนแบบนี้มีแต่การแข่งขันแย่งชิงกันทั้งนั้น การฝึกอบรมในรูปแบบต่างๆ ฉันไม่ค่อยเข้าใจเทควันโดของพวกเธอเท่าไหร่ แต่น้องสาวของฉันเองก็จะฝึกฝนไปกับเธอด้วย ได้ยินเธอบอกว่า การแข่งขันของพวกเธอนั้นก็ดุเดือดอยู่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าฉันจะใช้ความสัมพันธ์ของที่บ้านมาไม่น้อยก็ตาม แต่หลังจากที่ได้เปิดแล้ว ฉันกับน้องสาวเองก็ต้องพยายามด้วยเหมือนกัน!”
หลี่เสียงเอ่ยขึ้น
“นั่นไม่มีปัญหาหรอก เป็นเพราะมีการแข่งขันสูง ฉันถึงได้อยากจะเลือกสถานที่ให้อยู่ใกล้ๆอาคารพาณิชย์เจิ้นต๋าแบบนี้ กลุ่มคนที่ไปๆมาๆก็เยอะด้วยที่นี่!”
“แต่ที่นี่.......เอาล่ะๆ ไม่พูดถึงปัญหานี้แล้ว ไปถามพี่ชายของเพื่อนฉันก่อนดีกว่า เขาเป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบกิจการที่นี่!”
“ได้สิ!”
“หน่วนหน่วน?”
และเวลานี้เอง หวางเสี่ยวหัวก็เดินมาอยู่ตรงหน้าของฉินหน่วน
มองดูภาพตรงหน้าด้วยความตกใจ
ส่วนฉินหน่วนนั้น ก็ได้ปล่อยมือจากหลี่เสียงอย่างทำตัวไม่ถูก
ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ตัวเองเป็นคนบอกหวางเสี่ยวหัวไปเองว่าให้ทั้งสองคนแยกกันอยู่พักนึงก่อน ช่วงเวลานี้ให้เวลาที่เพียงพอเพื่อที่จะให้หวางเสี่ยวหัวได้แสดงออกมาให้ดี
ในขณะเดียวกัน เธอเองก็จะได้ตั้งใจฝึกซ้อมด้วย
ดังนั้นหวางเสี่ยวหัวจึงรับปากว่าทั้งสองคนจะไม่อยู่ด้วยกันไปก่อนเป็นการชั่วคราว
แต่หลังจากนั้น ท่าทางที่ฉินหน่วนมีต่อหวางเสี่ยวหัวก็เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของทุกคน
ตอนนี้ ไม่คิดว่าจะเดินอยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง
ในที่สุดหวางเสี่ยวหัวก็เข้าใจแล้ว ว่าสรุปแล้วเป็นเพราะอะไรกันแน่ สิ่งที่ฉินหน่วนพูดมาทั้งหมดนั้นล้วนแต่เป็นเรื่องไม่จริงทั้งนั้น
ส่วนฉินหน่วนเองที่กำลังกินปูนร้อนท้องนั้น ตอนนี้เธอเห็นหวางเสี่ยวหัวแล้ว จึงดูอึดอัดเป็นอย่างมาก
“ที่แท้แล้วเธอก็หลอกฉันมาตลอด!”
มือของหวางเสี่ยวหัวสั่นเทา ข้อมูลที่อยู่ในมือนั้น อดที่จะล่วงหล่นลงพื้นไม่ได้.....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!