บทที่ 501 ฐานะที่แท้จริงของเขา
“ที่แท้ก็เป็นยอดฝีมือจากตระกูลหวูน่ายนี่เอง เยี่ยมมาก การมาครั้งนี้ คนที่ผมรอก็คือพวกคุณ!”
คุณชายเหลยยืนอยู่บนเวที พูดอย่างยิ้มๆ
และหวูน่ายยีเตาได้เดินขึ้นมาบนเวทีแล้ว ได้โค้งคำนับไปทางคุณชายเหลยเล็กน้อย
การประลองที่หยิ่งใหญ่ แค่เริ่มก็ตื่นเต้นจนจะหยุดหายใจแล้ว
คนที่อยู่ด้านล่างเวทีเวลานี้ก็ไม่ส่งเสียงกันแล้ว ทุกคนต่างตั้งใจมองไปที่ด้านหน้าเวที
“ถึงแม้ผู้ประลองโวกั๋ว(ชื่อเรียกประเทศญี่ปุ่นสมัยก่อน)คนนี้วิชาจะแข็งแกร่ง แต่ฉันก็รู้สึกว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณชายเหลยคนนี้ เพราะคุณชายเหลยคนนี้ชั่วร้ายมาก!”
“ใช่นะ แต่ว่าสามารถประลองกับคุณชายเหลยเกินสามรอบโดยไม่เป็นอะไร ดูท่าวิชาก็คงแข็งแกร่งพอตัว!”
ผู้คนที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างวิภาษณ์วิจารณ์กัน
ลงมือเถอะ ให้ผมได้เห็นวิชาที่เก่งกาจของตระกูลหวูน่ายที จะเก่งอย่างที่ร่ำลือกันจริงๆมั้ย?
คุณชายเหลยกอดอกตัวเอง พูดอย่างยิ้มๆ
“ล่วงเกินแล้ว!”
ทันใดนั้น ก็เห็นหวูน่ายยีเตาขยับแล้ว กระบวนท่าว่องไวมาก
ได้ทิ้งล่องลอยทางยาวไว้บนพื้น
คุณชายเหลยตกใจ
เขาเคยได้ยินวงศ์ตระกูลผู้ดีหวูน่ายมานานแล้ว เป็นตระกูลที่สือทอดวิชาหายตัว(นินจุสึ)
แต่ว่า คุณชายเหลยคิดว่าวิชาของตัวเองนั้นยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว
คิดไม่ถึง ยังมีคนที่เก่งกว่า
หวูน่ายยีเตาที่อยู่ด้านหน้า ก็แข็งแกร่งมาก
คุณชายเหลยที่รับการจู่โจม สิบกว่ารอบลงมา เริ่มรู้สึกเหนื่อยการโต้กลับ
อยากจะใช้เคล็ดวิชาของตัวเองในการตอบโต้ แต่ว่าหวูน่ายยีเตา ไม่เปิดโอกาสให้เขาเลยแม้แต่น้อย
บูม!
รอจะกระทั่งรอบที่สามสิบกว่านั้น หน้าอกของหวูน่ายยีเตาจู่ๆก็กะพริบด้วยแสงสีขาว ตามมาอย่างกระชั้นชิด คุณชายเหลยเหมือนจะตกอยู่ในภวังค์ ต่อด้วยท่าเตะหมุนกลางอากาศ เตะจนคุณชายเหลยตกจากเวทีสูง
“อะไรเนี่ย?”
ผู้ชมต่างตกใจจนลุกขึ้นมา
“คุณชายเหลย!”
คนของเหลยหลง ก็ได้ขึ้นไปล้อมบนเวที
มองหวูน่ายยีเตาด้วยความกลัวเล็กน้อย
คุณชายเหลย แพ้แล้ว!
“คุณชายเหลย ออมมือแล้ว!”
หวูน่ายยีเตาพยักหน้าเล็กน้อย
“ปล่อยฉัน!”
คุณชายเหลยดิ้นหลุดจากมือของลูกน้อง มีความรู้สึกคาใจเล็กน้อย
“ตระกูลหวูน่ายนี้ช่างเยี่ยมจริงๆ แผนการเยอะเสียจริง! เรายังมีเวลากันอีกเยอะ สิทธิ์ในการประมูลโสมพันปีนี้ ผมเหลยหลงขอสละสิทธิ์!” คุณชายเหลยโบกมืออย่างแรง แล้วก็นั่งลงโดยตรง
“งั้น........งั้นโสมพันปี สุดท้ายก็เป็นของตระกูลหวูน่ายแล้ว!”
เวลานี้ซูหงเดินขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
ก็ได้ถูกภาพที่อยู่ตรงหน้าทำให้ตกใจเล็กน้อย
หวูน่ายเหมยจื่อก็ได้ลุกขึ้น เตรียมตัวจะเดินขึ้นเวที
“ช้าก่อน!”
เสียงหนึ่งได้ดังขึ้นมาทันที
ทำให้ผู้คน เวลานี้ต่างได้มองไปทางคนคนนั้น
“คุณนายซู เหมือนยังประลองไม่เสร็จเลย ทำไมถึงได้รีบร้อนจะให้ตระกูลหวูน่ายล่ะ? พวกเราบริษัทเทียนหลงกรุ๊ป ยังไม่ได้ประลองเลย!”
คนที่ขึ้นไปไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเฉินว่านชาน
“อ้อใช่แล้ว ยังมีบริษัทเทียนหลงกรุ๊ป!”
“ได้ยินมาว่าหัวหน้าของบริษัทเทียนหลงกรุ๊ปนั้นเก่งกาจมาก หรือว่าจะเป็นเขา?”
“ไม่ใช่เขา ว่ากันว่าบอสใหญ่เทียนหลง เป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง!”
“ยังนึกว่าบริษัทเทียนหลงกรุ๊ปจะสละสิทธิ์เสียแล้ว!”
ผู้คนต่างวิภาษณ์วิจารณ์อย่างครึกโครม
“ขอท่าน โปรดชี้แนะด้วย!”
หวูน่ายยีเตาสีหน้าไร้ความรู้สึก ได้กล่าวขึ้น
“คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณ การประลองรอบนี้ ก็ต้องเป็นคุณผู้ชายของบ้านเราเป็นคนขึ้น!”
เฉินว่านชานกล่าว
“อะไรนะ? เฉิงซางมาแล้วเหรอ?”
ดวงตาคู่งามของหวูน่ายเหมยจื่อมองไป ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด
หวูน่ายเหมยจื่อ
“ก็ต้องมาอยู่แล้ว!”
เฉินว่านชานกล่าว แล้วส่งสายตาไปมองมุมที่ด้านข้าง
“บริษัทเทียนหลงกรุ๊ปนี้ เสี่ยวเป้ยเธอรู้จักได้ยังไงกัน?”
ฉินหลานที่อยู่ข้างๆ ถามเสี่ยวเป้ยที่ดีใจอย่างสงสัย
เสี่ยวเป้ยกล่าว: “อาซ้อ ซ้อคอยดูก็แล้วกัน อย่าเพิ่งถามเลย!”
“อะไรนะ? หัวหน้าเฉินคนนั้นมาถึงแล้วเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!