ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 857

สรุปบท บทที่ 857 ทะลวงแตกออก: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

ตอน บทที่ 857 ทะลวงแตกออก จาก ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 857 ทะลวงแตกออก คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! ที่เขียนโดย Light-Knight เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 857 ทะลวงแตกออก

พลังงานที่แข็งแกร่งส่งผลกระทบต่อจุดดานเถียนของเฉินเกออย่างต่อเนื่อง

“ใช่สิ ฉันยังมีผลวิหายสะ! ”

ในกรณีคับขัน เฉินเกอก็นึกขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง

หลังจากคิดได้ เฉินเกอก็หยิบผลวิหายสะออกมาจากแหวนเก็บของเขาทันที จากนั้นจึงกินมันลงคำโต

หลังจากกินผลวิหายสะแล้ว เฉินเกอก็รู้สึกว่าภายในร่างกายของตนเย็นสบายขึ้นมา พลังสายนั้นราวกับถูกกำจัดออกไปทันที

ไม่ผิด ภายใต้ผลวิหายสะ เฉินเกอประสบความสำเร็จในการบรรลุเข้าสู่การบำเพ็ญจิตชั้นเก้าของขอบเขตเจินเหริน และพัฒนาความแข็งแกร่งไปยังขั้นชั้นที่หนึ่งของขอบเขตเจินเสิน

ในตอนนี้ เฉินเกอรู้สึกว่าทั้งร่างของตนเต็มไปด้วยพลัง และแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก

"ยินดีด้วย เฉินเกอ ขอแสดงความยินดีกับการก้าวบรรลุสู่อีกขั้นของการบำเพ็ญจิตขอบเขตเจินเสิน

ตอนนี้นายมีความสามารถที่จะแปรเทพได้แล้ว หลังจากเข้าสู่การแปรเทพความแข็งแกร่งของนายจะยิ่งเพิ่มขึ้นหลายเท่า เพียงแต่ความสามารถในการแปรเทพสามารถใช้ได้แค่ในสถานการณ์ที่รุนแรงที่สุดเท่านั้น ถือเป็นวิธีสุดท้ายในการปกป้องชีวิตของนาย!”

จิตวิญญาณที่เหลืออยู่ของเทพโย๋วแห่งดาวมองไปที่เฉินเกอและเอ่ยยินดี

การแปรเทพ มีแค่การเข้าสู่ขอบเขตเจินเสินแล้วเท่านั้นถึงจะสามารถมีพลังพิเศษนี้ได้

สุดท้ายแล้วมันก็คือวิธีการป้องกันตนจากศัตรูครั้งสุดท้าย มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็วหลายเท่าในพริบตา เป็นวิธีในการต่อสู้กับศัตรูในครั้งสุดท้าย

แน่นอนว่า ทุกอย่างล้วนมีทั้งข้อดีและขอ้เสีย แม้ว่าการแปรเทพจะแข็งแกร่งอย่างมาก แต่หลังจากใช้งานแล้วทั้งร่างของคนผู้นั้นจะตกอยู่ในสภาพอ่อนแออย่างยิ่งและต้องใช้เวลานานในการฟื้นตัว ดังนั้นหากไม่คับขันจริงๆ ก็อย่าได้ใช้มันออกมา

“ขอบคุณเทพโย๋วที่เอ่ยเตือน ผมจะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวัง! "

จากนั้นเฉินเกอก็รีบหันไปทางเทพโย๋วแห่งดาวเพื่อขอบคุณเขาอย่างสุดซึ้งและโค้งคำนับ

“ฮ่าฮ่า!”

“เฉินเกอ จำไว้ หลังจากนี้ไป 300 วัน ทุกสิ่งในโลกขึ้นอยู่กับนาย! ”

หลังจากได้คำสั่งสอนที่เทพโย๋วแห่งดาวทิ้งเอาไว้ จากนั้นดวงจิตที่เหลืออยู่ก็หายไปต่อหน้าเฉินเกอ

ภารกิจสุดท้ายของเทพโย๋วแห่งดาวสำเร็จลงแล้ว ดังนั้นในที่สุดเขาก็สามารถเข้าสู่โลกีย์ได้อย่างวางใจ

ตอนนี้ภาระทั้งหมดตกอยู่ที่เฉินเกอแล้ว เฉินเกอคือผู้กอบกู้โลกทั้งใบ แน่นอนว่าเรื่องนี้มีเพียงเฉินเกอเท่านั้นที่รู้

ในเวลานั้นเอง ประตูของหอผงาดเวหาก็ถูกเปิดออกแล้ว

เฉินเกอค่อยๆ ออกมาจากหอคอยผงาดเวหาอย่างช้าๆ บนร่างของเขามีพลังรุนแรงสายหนึ่งแผ่ออกมา วินาทีที่เขาเดินออกมา มวลสารรอบๆ ก็วนพัดปลิวไปทั่ว และมุ่งหน้าเข้ามาที่ที่ทุกคนอยู่

สวีหมีที่นั่งอยู่บนที่สูงเห็นฉากนี้เข้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างมีความสุข เขารู้ว่าเฉินเกอประสบความสำเร็จแล้ว

เวลามาถึงช่วงบ่าย

ในห้องโถงของสถานศึกษาหลินคง เฉินเกอยืนอยู่กลางห้องโถง สวีหมีนั่งอยู่บนนั้นและมีปรมาจารย์ใหญ่ทั้งสี่นั่งอยู่ด้วย

"เฉินเกอ ยินดีด้วยกับการขึ้นสู่ยอดหอคอยผงาดเวลาเป็นผู้แรก ฉันคิดว่านายน่าจะรู้ทุกอย่างแล้ว! "

สวีหมียิ้มน้อยๆ และกล่าวกับเฉินเกอ

“อาจารย์ ปรมาจารย์ทั้งสี่ ผมคิดว่าพวกคุณก็น่าจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นใน 300 วันเช่นกันใช่ไหมครับ! "

เฉินเกอมองไปที่ปรมาจารย์ทั้งสี่ที่นั่งอยู่รอบตัวเขา จากนั้นก็มองไปที่สวีหมีและเอ่ยตอบ

"พวกเราต้องเชื่อใจเขา และให้การสนับสนุนเขา ไม่เช่นนั้นโลกนี้คงจะจบลงจริงๆ! "

สวีหมีไม่ตอบคำถามของปรมาจารย์ตี้จ้าง แต่กลับเอ่ยเตือนเขาอย่างลึกซึ้ง

ปรมาจารย์ทั้งสี่พยักหน้าทีละคนๆ จากนั้นจึงไม่ถามคำถามใดๆ อีก

ในเวลานี้ เฉินเกอกลับไปที่ศาลาตงเยี่ยน

พวกโจวโน่สี่คนกำลังนั่งอยู่ในนั้นเพื่อพักผ่อนและพูดคุย

เมื่อเห็นการกลับมาของเฉินเกอ ทั้งสี่ก็รีบยิ้มและเอ่ยยกย่องเฉินเกอในทันที "เฉินเกอ นายแข็งแกร่งเกินไปแล้วจริงๆ ถึงกับสามารถขึ้นไปบนยอดคอหอยได้ ตอนนี้นายโด่งดังไปทั่วสถานศึกษาหลิงคงแล้ว คนมากมายล้วนนับถือนาย!”

หลังจากได้ยินคำพูดนี้เฉินเกอกลับไม่สะท้าน นั่นเพราะตอนนี้เขามีสิ่งที่สำคัญกว่าที่รอให้พวกเขาทำอยู่ แทนที่จะมาสนใจเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้

"ทุกคนฟังฉัน ฉันต้องการความช่วยเหลือจากพวกนาย ตอนนี้ฉันจะออกจากสถานศึกษาหลิงคงเพื่อค้นหาสิ่งที่เรียกว่าผนึกสวนหลิง ฉันได้รับอนุญาตจากคณบดีและปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ ให้พาคนไปกับฉันได้ พวกนายยินดีที่จะไปกับฉันหรือไม่?”

เฉินเกอจ้องมองไปที่พวกโจวโน่ทั้งสี่อย่างจริงจังจากนั้นจึงเอ่ยปากทันที

เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเกอ พวกโจวโน่ทั้งสี่ก็ยืนนิ่งไปทันที พวกเขาไม่คิดว่าเรื่องจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันแบบนี้

“ผนึกสวนหลิง? มันคืออะไรกัน? ทำไมจู่ๆ ถึงต้องออกจากสถานศึกษาหลิงคงไปหามันอย่างกะทันหัน? " หลินจื่อหลันถามด้วยความประหลาดใจ

"เรื่องนี้ฉันไม่สามารถอธิบายให้พวกนายฟังได้ เพียงแต่ในวันหนึ่งฉันจะต้องอธิบายให้พวกนายฟังแน่ แต่ตอนนี้ฉันแค่ต้องการถามพวกนายว่าพวกนายยินดีที่จะไปกันฉันหรือไม่? บางทีระหว่างทางอาจบังเอิญเจอเรื่องยากลำบากและอันตรายอย่างยิ่ง หากพวกนายไม่ยินยอมฉันเองก็จะไม่บังคับ ฉันสามารถไปคนเดียวได้!” เฉินเกอไม่ได้อธิบาย แต่กลับยังคงถามด้วยท่าทีเคร่งเครียด

เรื่องใหญ่แบบนี้ เฉินเกอไม่กล้าล้อเล่น

เมื่อได้ฟังคำพูดของเฉินเกอ พวกโจวโน่ทั้งสี่คนก็หันไปสบตากันไปมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!