ตอน บทที่ 31 ความสุขทวีคูณ จาก ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 31 ความสุขทวีคูณ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายแฟนตาซี ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ ที่เขียนโดย บัณฑิตติดบ้าน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
วินนี่เฟรดเสียใจกับคำพูดนั้นมาก ก่อนที่สัญญาจะได้รับการลงนามทำไมไม่ให้ไอริสจากฝ่ายธุรกิจเป็นคนจัดการล่ะ? แล้วตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่คุณกลับใช้แผนกมาเป็นข้ออ้าง คุณลำเอียงได้แค่ไหนกัน จอร์จ ซี?
ไอริสมองวินนี่เฟรดอย่างหน้าด้าน “ได้ยินแล้วใช่ไหมว่าคุณปู่ให้โครงการนี้กับฉัน”
วินนี่เฟรดไม่มีคำพูดใด ๆ จะตอบโต้
แต่แล้วในขณะนั้น ไทร์ก็หัวเราะออกมาดัง ๆ “ช่างน่าตลกสิ้นดี”
“แกหัวเราะอะไรของแกไอ้ขอทาน? แกไม่มีสิทธิ์ที่จะพูด” ไอริสจ้องเขม็งไปที่ไทร์ด้วยท่าทางเยาะเย้ย
ไทร์ยิ้มเยาะ “ฉันกำลังหัวเราะให้กับความโง่เขลาของเธอไง วินนี่เฟรดและฉันเป็นคนไปที่สมิธกรุ๊ป เพื่อลงนามสัญญานี้ ลองดูที่เงื่อนไขหมายเลขแปดเสียก่อน เงื่อนไขได้ระบุไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า ตราบใดที่วินนี่เฟรดไม่ได้ทำข้อผิดพลาดที่ร้ายแรง เธอจะเป็นคนจัดการโครงการนี้ และถ้าหากเปลี่ยนผู้รับผิดชอบ สัญญาจะเป็นโมฆะโดยอัตโนมัติทันที”
“อะไรนะ!?” สีหน้าของไอริสเปลี่ยนไปทันที เธอพลิกดูสัญญาอย่างรวดเร็ว และเธอก็ได้เห็นความจริง เงื่อนไขในข้อสุดท้ายของสัญญานั้น ตรงตามที่ไทร์กล่าวมาทุกประการ นั่นคือสมิธกรุ๊ปได้ชี้แจงอย่างชัดเจนแล้วว่า มีเพียงวินนี่เฟรด ซี เท่านั้น ที่จะสามารถจัดการโครงการนี้ได้
“วินนี่เฟรด ซี เธอมันสารเลว! เธอกล้าดียังไงมาเล่นตลกกับพวกเรา!”
วินนี่เฟรดรู้สึกสับสน เพราะว่าเธอไม่รู้เลยว่ามีเงื่อนไขแบบนั้นอยู่ในสัญญา แต่ไทร์รู้ได้ยังไง?
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในสัญญานั้นได้ระบุไว้ชัดเจนแล้ว และไม่มีใครที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงกฎนั้นได้ สุดท้ายแล้ว จอร์จทำได้เพียงประกาศว่า วินนี่เฟรดจะเป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้
หลังจากที่ออกมาจากบริษัทแล้ว ไอริสที่นั่งอยู่บนรถเบนซ์ของทราวิส ก็ทุบตีรถอีกครั้ง
“นังสารเลวนั่นทำตัวโง่และอ่อนหวานอยู่ตลอด ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเธอจะฉลาดขนาดนี้ นังเจ้าเล่ห์นั่นทำให้ฉันแทบจะเป็นบ้า!”
ทราวิสที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไอริส ปลอบโยนไอริส ไม่ใช่เพราะเขาห่วงสุขภาพจิตของไอริส แต่เพราะเขากังวลว่าไอริสจะทุบตีรถอันเป็นที่รักของเขาอีก
“ไม่ ฉันไม่ยอม วินนี่เฟรดจะต้องไม่ได้ทำโครงการนี้ ฉันทำงานหนักเพื่อไล่เธอไป ฉันจะไปยอมให้เธอฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งได้ยังไง? ฉันจะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อที่จะให้ได้โครงการนี้กลับคืนมา”
ทราวิสที่กำลังคาบบุหรี่และจุดมัน “ฉันมีวิธี”
ไอริสเบิกตากว้าง “วิธีอะไร? บอกฉันมา”
ทราวิสพูดต่อ “ในสัญญาระบุไว้ไม่ใช่หรอ ว่าถ้าหากวินนี่เฟรดไม่ได้ทำผิดพลาด เธอเป็นคนเดียวที่จะดูแลโครงการนี้ได้ แต่ถ้าเธอทำผิดพลาดล่ะ?” ทราวิสเอนตัวเข้าหาไอริส และพูดบางอย่างกับเธอเบา ๆ
หลังจากที่เขาพูดจบ ดวงตาของไอริสก็เบิกกว้างขึ้นอีก “ศูนย์ยาสมุนไพรเซนจูรี่ของคุณสามารถผลิตยาแบบนั้นได้ไหม?”
ทราวิสพ่นควันบุหรี่ออกมาและยิ้มเยาะ “ครอบครัวของฉันเป็นเจ้าของศูนย์ยาสมุนไพรที่ใหญ่ที่สุดในเมืองคานห์ ถ้าหากเราไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เราจะรักษาสถานะของเราภายในเมืองไว้ได้ยังไง?”
จู่ ๆ ไอริสก็เริ่มรู้สึกกังวล “แต่ถ้าเราทำแบบนั้นจริง ๆ ดาบสองคมนี้จะส่งผลเสียต่อบริษัทของเราไหม?”
ทราวิสตอบเธอ “นี่มันใช่เวลาที่ต้องใส่ใจเรื่องทั้งหมดหรอ? ถ้าวินนี่เฟรดกลายเป็นผู้มีอำนาจในบริษัทขึ้นมาจริง ๆ คุณจะดึงเธอลงมาอีกครั้งได้ยากนะ หรือคุณอยากเห็นวินนี่เฟรดปีนขึ้นไปเหนือหัวคุณอีก? ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากเราเลือกไพ่ถูก ผลกระทบที่ตามมาจะไม่เลวร้าย”
ไอริสรู้สึกว่าที่ทราวิสพูดมีเหตุผล เธอจะไม่มีวันยอมให้วินนี่เฟรดปีนขึ้นไปเหนือหัวของเธอได้อีก “ก็ได้ เราจะทำตามวิธีของคุณ คราวนี้เราต้องเหยียบนังสารเลววินนี่เฟรดนั่น หึ! แต่เราจะใจร้อนไม่ได้ เราต้องวางแผนให้รอบคอบ”
ชายผู้นั้นส่ายหัว “ไม่เป็นไรครับป้า แน่นอนว่าผมไม่สนใจเขา ผมเคยได้ยินสถานการณ์ของวินนี่เฟรดมาแล้ว เมื่อผมเห็นรูปของวินนี่เฟรดครั้งแรก ผมก็ตกหลุมรักเธอในพริบตา แน่นอนว่าผมจะไม่สนใจเรื่องอดีตของวินนี่เฟรด”
เฮเลนถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วพูดกับวินนี่เฟรดว่า “เธอจะยืนอยู่ตรงนั้นทำไม รีบมาทักทายบราเธอร์วิลเลียม คอลลินส์ ตระกูลของบราเธอร์วิลล์ ทำธุรกิจหินหยก พวกเขาเป็นที่น่าประทับใจมากในเมืองริเวอร์วิลล์ ราชินีแห่งอัญมณีในเมืองคานห์ เจด ลอเรล ยังเป็นแม่ทูนหัวของเขาอีกด้วย”
วิลเลียมยิ้มขึ้นมาทันที “คุณป้าก็พูดยกยอผมเกินไป ครอบครัวของผมทำธุรกิจเกี่ยวกับหินโมราเท่านั้น และกำไรของเราก็เพียงแค่สิบล้านกว่า ฉะนั้นรายได้ก็ไม่ได้มากมายนัก แต่แม่ทูนหัวของฉันปฏิบัติกับฉันอย่างดี หลังจากทานอาหารเย็นแล้ว เราไปร้านเครื่องประดับของแม่ทูนหัวของผมกันเถอะ อะไรที่วินนี่เฟรดชอบ ผมก็พร้อมที่จะซื้อให้”
เฮเลนยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู “วิลล์ คุณช่างใจดีเหลือเกิน เราจะให้คุณทำแบบนั้นได้ยังไง?”
“ไม่ต้องกังวลครับป้า แม่ทูนหัวจะขายให้กับผมในราคาทุน เพื่อจะได้ไม่แพงมากนัก คุณป้าก็เลือกที่คุณป้าชอบได้เช่นกันครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”
“โอ้ วิลล์ คุณช่างรู้ใจเหลือเกิน” ขณะที่เธอพูด เฮเลนมองไปที่วินนี่เฟรด “เธอกำลังทำอะไรของเธอ? มานี่ มาคุยกับบราเธอร์วิลล์”
พุฟ! วินนี่เฟรด ไม่สามารถกลั้นขำไว้ได้อีกต่อไป แม้แต่ไทร์ก็ยังรู้สึกขบขัน วินนี่เฟรดเรียกสติและพยายามหยุดขำ เธอนึกไม่ถึงเลยว่าแม่ของเธอจะหาผู้ชายให้เธอเพียงเพราะเงิน แต่เมื่อเธอได้ยินวิลเลียม เรียกเจด ลอเรล ว่าแม่ทูนหัว เธอจึงเสียการทรงตัวเล็กน้อย
ชายผู้นั้นมีผิวสีแทนและมีรูปร่างที่เตี้ยและอวบอิ่ม แม้ว่าเขาจะสวมใส่สูทแบรนด์เนม แต่มันก็ไม่สามารถปกปิดรูปลักษณ์บ้านนอกของเขาได้ ด้วยสร้อยทองคำที่พันรอบคอของเขา ที่หนาพอๆ กับนิ้วโป้ง และนิ้วของเขาที่เต็มไปด้วยแหวนหยก เห็นได้ชัดว่าเป็นเศรษฐีใหม่
ชายผู้นั้นดูจะอายุราว ๆ สามสิบเศษ ๆ แม้ว่าเจด ลอเรล จะอายุสามสิบแล้ว แต่รูปลักษณ์ของเธอก็ได้รับการดูแลอย่างดี ดังนั้นเธอจึงดูเหมือนหญิงสาวในวัยยี่สิบ
“พวกเธอหัวเราะอะไรกัน?” เฮเลนและวิลเลียมดูสับสัน
ไทร์จะไม่พูดก็คงไม่ได้แล้ว “นายจะเป็นลูกทูนหัวของเจด ลอเรล จริงๆเหรอ? นายไม่ใช่พ่อทูนหัวของเธอหรอกเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ
รอๆๆๆฟ...
ไม่อัพเดสเลย...
ไม่มีต่อแล้วหรือครับ...พอดีรอมา 2 วันแล้วครับ...