ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 39

วินนี่เฟรดไม่มีโอกาสมากพอที่จะอธิบายความจริงจากการใส่ร้ายของอีธาน ชายคนนี้ใช้การลาออกเป็นข้ออ้างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เพื่อให้เปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบโครงการและไล่วินนี่เฟรดออกจากบริษัท ด้วยวิธีนี้ ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับวินนี่เฟรด เรื่องการจงใจนำเข้าผ้าคุณภาพต่ำเพื่อผลกำไรด้วยหลักฐานที่หนาแน่น มันคงยากสำหรับเธอที่จะอธิบายตัวเอง

"ถูกต้อง คนแบบนี้ควรถูกไล่ออกจากบริษัท”

“และข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นและคำตำหนิจากสมิธกรุ๊ป วินนี่เฟรดจะต้องเป็นคนรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”

“ต่อให้พวกเขาต้องการส่งเธอเข้าคุกก็ตาม!”

เจ้าหน้าที่บริหารของซีกรุ๊ปแสดงความคิดเห็น ไม่มีใครเข้าข้างวินนี่เฟรดและมีข้อข้องใจสำหรับปัญหานี้เลย

วินนี่เฟรดรู้สึกหลงทาง คนพวกนี้เป็นใคร? คนพวกนี้จำนวนมากเป็นญาติสนิทของเธอ แต่ทำไมพวกเขาแต่ละคนต้องการให้เธอจบสิ้นมากขนาดนี้?

“คุณปู่...”

“อย่ามาเรียกฉันว่าปู่!” จอร์จขึ้นเสียง “โครงการนี้ไอริสจะเป็นผู้ดูแลชั่วคราว วินนี่เฟรดกลับไปและไตร่ตรองเรื่องนี้ซะ หากสมิธกรุ๊ปต้องการฟ้องเธอขึ้นมาจริง ๆ และส่งเธอเข้าคุก เธอต้องโทษตัวเธอเอง ฉันไล่เธอออก!”

การประชุมจบลง จอร์จเดินผ่านวินนี่เฟรดไป เขาไม่แม้แต่จะชายตามองเธอด้วยซ้ำ

ไอริสหันไปหาเธอและยิ้มเยาะ “วินนี่เฟรด เธอจบแล้ว ฉันเท่านั้นที่สามารถทำให้โครงการนี้เติบโตได้สำเร็จ”

“ไอริส ซี ทั้งหมดเป็นแผนของเธอ! เธอเป็นคนที่ติดสินบนอีธาน”

“ระวังปากของเธอด้วย และอย่ากล่าวหาใครง่าย ๆ แบบนี้ เธอแค่รอไปนอนในคุกซะ!”

ทุกคนหายไป ทิ้งไทร์และวินนี่เฟรดที่ดูหดหู่ไว้ในห้องประชุม ตั้งแต่ต้นจนจบ ไทร์ไม่เอ่ยปากพูดก่อนหน้านี้ ถ้าเขาต้องการ เขาจะลงโทษอีธานและไอริสอย่างรุนแรงก็ได้ แต่มันคงไม่ช่วยอะไร

ไทร์กลับบ้านพร้อมกับภรรยาที่สิ้นหวังของเขา ระหว่างทางกลับ ไทร์ถือโอกาสจอดรถเพื่อโทรหา แซคเคอรี่

"เกิดอะไรขึ้น?" เมื่อรับสาย น้ำเสียงของไทร์เปลี่ยนเป็นมืดมน

อีกด้านของปลายสาย แซคเคอรี่โพล่งออกมาทันทีด้วยเหงื่ออันเย็นเยียบและอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “บราเธอร์ไทร์ สินค้าที่ซีกรุ๊ปส่งมอบมานั้นมีปัญหาด้านคุณภาพอย่างมาก เราได้ทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการแล้ว และเราพบสารพิษภายในผ้า ดูเหมือนว่ามันถูกแช่ในยาที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ทางผิวหนังได้ง่าย สารพิษนี้ไม่สามารถกระตุ้นได้ง่ายแต่จะทำให้เกิดปฏิกิริยาต่าง ๆ จากการสัมผัสกับผิวหนังของมนุษย์โดยตรง”

"โอเค" ไทร์พยักหน้าเบา ๆ “ผลกระทบต่อสมิธกรุ๊ปของนายหนักไหม”

“มันค่อนข้างหนัก เพราะทางเราได้จัดส่งตัวอย่างให้ตัวแทนจำหน่ายไปแล้ว แต่ทางเราได้จัดการกับปัญหานี้ไปบ้างแล้ว บราเธอร์ไทร์ เนื่องจากมันเป็นโครงการที่ดูแลโดยพี่สะใภ้ ฉะนั้น ผมจึงยังไม่ได้ส่งฟีดแบคใด ๆ ไปยังซีกรุ๊ป คุณมีคำแนะนำอะไรไหมบราเธอร์ไทร์?”

ไทร์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “ปล่อยให้ซีกรุ๊ปอยู่ตามลำพังสักครู่ แต่ฉันต้องการให้นายร่างสัญญาใหม่สองฉบับให้ฉัน หนึ่งคือการหยุดความร่วมมือทั้งหมดกับซีกรุ๊ป และอีกประการหนึ่งคือการร่วมมือกันอีกครั้ง แต่เฉพาะกับวินนี่เฟรดภรรยาของฉันเท่านั้น”

แซคเคอรี่เป็นคนฉลาด ดังนั้นเขาจึงเข้าใจเจตนาของไทร์และรีบตกลงทันที

เมื่อไทร์กลับถึงบ้านและเดินผ่านทางเข้า เขาได้ยินเสียงคำรามของแม่ยายของเขา

“วินนี่เฟรด เธอกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง? ทำเรื่องน่าอายแบบนี้ได้ยังไงกัน? ฉันเคยสอนเธอตั้งแต่ยังเด็ก ถึงแม้เราจะยากจน แม้ว่าเราจะต้องอ้อนวอนขออาหาร เธอต้องรู้สึกผิดชอบชั่วดี การกระทำของเธอมันทำให้ฉันผิดหวังมาก!”

นัยน์ตาของวินนี่เฟรดแดงก่ำ และเธอรู้สึกเสียใจอย่างมาก ตระกูลซีทั้งหมดในที่ทำงานต่อต้านเธอ และหลังจากกลับบ้านมา แม้แต่แม่ของเธอก็ไม่เชื่อในคำพูดของเธอ

“ฉันบอกแม่แล้วว่ามันไม่ใช่ความผิดของฉัน มีคนติดสินบนอีธาน ลินซ์ เพื่อใส่ร้ายฉัน”

“ไร้สาระ! เฮเลนด่า “อีธานเป็นคนเก่าแก่ทีทำงานให้กับบริษัทมาหลายทศวรรษ เขาเป็นคนที่เหมาะสม เขาจะทำร้ายเธอทำไม? มองดูเธอตอนนี้ เพื่อเงิน เธอเต็มใจทำทุกอย่างใช่ไหม ฉันให้กำเนิดลูกสาวที่ไม่เหมาะสมแบบนี้ได้ยังไง และไอ้รถคันนั้นที่เธอซื้อมา มันเรียกว่าเบนซ์ใช่มั้ย? บอกฉันทีว่าเธอไปเอาเงินมาจากไหนเพื่อซื้อรถราคาแพงแบบนั้น?”

วินนี่เฟรดตอบโต้ “ไทร์เป็นคนซื้อรถ”

“ไทร์?”

ไทร์ที่เพิ่งจะเดินเข้ามาทางประตู และเฮเลนก็เดินเข้าไปเตะเขา “ไอ้ขอทานกลิ่นเหม็น นายเป็นคนชักใยให้ลูกสาวฉันทำอย่างนั้นใช่ไหม? มันไม่สำคัญถ้าหากว่านายจะไร้ค่าและยากจนแค่ไหน แต่นายจะชักจูงให้ลูกสาวของฉันทำเรื่องแบบนี้เพื่อเงินไม่ได้? ไปให้พ้นหน้าเดี๋ยวนี้! ฉันเฮเลน โคลไม่มีลูกเขยแบบนาย!”

ไทร์มองอย่างไร้เดียงสา เมื่อแม่ยายของเขาฉุนเฉียว เธอก็จะด่าทุกคนที่เดินผ่าน

“แม่ คุณกลายเป็นคนไร้เหตุผลมากขึ้นเรื่อยๆ คุณไม่รู้ว่าฉันเป็นคนแบบไหนเหรอ? คุณจะไม่เชื่อลูกสาวของคุณ แต่คุณจะเชื่อคนนอกหรือไง? หลายปีที่ผ่านมาไอริส ซีทำร้ายเราไม่พออีกเหรอ? คุณแม่รู้ไหมว่าไอริส เป็นคนที่ติดสินบนอีธานในครั้งนี้” วินนี่เฟรดก็โกรธเช่นกัน น้ำตายังคงไหลอาบใบหน้าของเธอ เธอหนีเข้าไปในห้องของเธอและปิดประตูด้วยเสียงดังปัง

“ให้ตายสิ ฉันจะเป็นบ้า!” เฮเลนยังคงฟูมฟาย เธอผลักไทร์อย่างดุร้ายและเดินจากไป

“คุณยาย คุณจะไปไหน” แบลร์เพิ่งกลับมากับเจคอบหลังจากไปเดินเล่น ได้วิ่งชนกันที่ประตู

“หลีกทาง เจ้าสัมภาระส่วนเกิน ฉันไม่อยากคุยกับเธอตอนนี้!”

***

ปัง ปัง ปัง...ปัง ปัง ปัง...

เสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้งที่ประตูรักษาความปลอดภัยของบ้านอีธาน เมื่อประตูเปิดออก อีธานที่ถือบุหรี่อยู่ยิ้มให้เฮเลนที่กำลังฉุนเฉียว “นี่มันซิสเตอร์โคล ไม่ใช่เหรอ? นับตั้งแต่พี่สาม ถูกปลดออกจากอำนาจ เราก็ไม่ได้พบกันมาหลายปีแล้ว มา มา มา เข้ามานั่งก่อนเถอะ”

เฮเลนคว้าคอเสื้อของอีธานด้วยความโกรธ “อีธาน ลินช์ ตอนที่เจคอบของฉันยังอยู่ในบริษัท เขาดูแลนายเป็นอย่างดีใช่ไหม? ทำไมนายถึงใส่ร้ายวินนี่เฟรดของฉัน”

สีหน้าของอีธานมืดลงในทันที เขาปัดมือของเฮเลนออกและพูดอย่างดุเดือดว่า “เฮเลน โคลวันนี้คุณมาที่นี่เพื่อแสดงตลกเหรอ? มันเป็นความผิดของวินนี่เฟรดของคุณ แล้วคุณจะมาโทษฉันได้ยังไง”

“วินนี่เฟรดของฉันไม่ใช่คนแบบนั้น” เฮเลนเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ เธอเพิ่งด่าวินนี่เฟรดที่บ้านแต่ตอนนี้เธออยู่ที่นี่ เพื่อตามหาอีธานและต่อสู้เพื่อลูกสาวของเธอ เฮเลนดึงอีธานเข้ามาอีกครั้งแล้วพูดว่า “อีธาน ลินซ์ ไอ้เลวเนรคุณ! ถุย! ไอริสให้อะไรนายงั้นเหรอ? นายควรไปกับฉันที่บริษัทเพื่อชี้แจงเรื่องนี้และเรียกชื่อเสียงของลูกสาวของฉันคืนมา ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ปล่อยนายไปง่าย ๆ แน่!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ