ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 7

สรุปบท บทที่ 7 ไม่ว่าเธอจะอยู่ทึ่ไหน ฉันก็จะขออยู่เคียงข้างเธอ: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ

สรุปตอน บทที่ 7 ไม่ว่าเธอจะอยู่ทึ่ไหน ฉันก็จะขออยู่เคียงข้างเธอ – จากเรื่อง ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ โดย บัณฑิตติดบ้าน

ตอน บทที่ 7 ไม่ว่าเธอจะอยู่ทึ่ไหน ฉันก็จะขออยู่เคียงข้างเธอ ของนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ โดยนักเขียน บัณฑิตติดบ้าน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

การกระทำของไอริสเป็นการดูถูกเหยีดยหยามอย่างมาก อย่างไรก็ตามจอร์จกำลังหลงไหลไปกับชิ้นส่วนของโสมป่า ที่เขานั้นไม่เคยตั้งใจจะใช้เงินซื้อมันมา มันเหมือนกับว่าเขายินยอมอย่างเงียบ ๆ กับกระทำของไอลิส

วินนี่เฟรดงุนงง หยั่งรากลึกไปถึงแก่นและรู้สึกกระวนกระวาย นั่นมันคือของขวัญที่เธอและไทร์พิถีพิถันเลือกมาสำหรับจอร์จ แต่ของพวกนั้นกลับถูกมองว่าเป็นขยะ

"กินข้าวกันเถอะ" เมื่อทุกคนมาถึง จอร์จก็ประกาศว่าได้เวลาเริ่มรับประทานอาหาร

ทั้งตระกูลนั่งลง วินนี่เฟรดและไทร์ได้นั่งโต๊ะร่วมกับจอร์จ เธอนั้นคือเชื้อสายโดยตรงของครอบครัวสมาชิกตระกูลซีดังนั้นมันจีงเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะนั่งตรงนี้

อย่างไรก็ตาม สักพักหนึ่งหลังจากที่พวกเขานั่งลง ไอริสเอามือมาบังปิดจมูกในท่าทางเสียดสี ขณะเธอบ่น "ทำไมโต๊ะนี้มันมีกลิ่นสาปแปลก ๆ ? กลิ่นเหมือนกับถังขยะ"

ทันใดนั้นทุกคนต่างมองไปที่ไทร์ การกล่าวขึ้นมาลอย ๆ แบบนี้ มันชัดเจนที่หมายถึงว่าไทร์นั้นเป็นขอทาน และไม่มีใครอยากจะร่วมโต๊ะอาหารกับขอทาน

"วินนี่เฟรด พาไทร์ไปกับเธอและไปกินตรงนู้น" จอร์จกล่าวและชี้ไปที่โต๊ะเล็ก ๆ นั่นมันเป็นโต๊ะของเหล่าคนรับใช้เพื่อรับประทานอาหาร

วินนี่เฟรดขุ่นเคืองแต่ไม่ได้กล่าวอะไร และนำไทร์ไปนั่งที่โต๊ะเล็ก ๆ ถึงอย่างไรเธอก็ชินชากับการถูกกลั่นแกล้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเธอเป็นกังวลกับความรู้สึกของไทร์มากกว่า "ไทร์ถ้านายรู้สึกว่านี่มันมากเกินไป นายกลับไปก่อนก็ได้"

ไทร์ยักไหล่อย่างเรียบเฉย และกล่าว "ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน ฉันก็จะอยู่เคียงข้างเธอ"

จากนั้นจอร์จก็ดื่มอวยพรให้กับทราวิส มันคือการแสดงถึงความเคารพที่ดีที่มีให้กับอนาคตหลานเขย ในทางกลับกันเทียบกับไทร์ที่ไม่ได้รับความสนใจอยู่ที่โต๊ะเล็ก แม้กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลซี ยังมีสีหน้าที่หยามเหยียด

หลังจากดื่มไวน์ไปไม่กี่รอบ จอร์จก็กล่าวถามไปที่ลูกชายคนโต แจ็คสัน "แจ็คสัน ฉันได้ยินมาว่าชายผู้ที่ใช้เงินเป็นสิบล้านเพื่อครอบครองศูนย์กลางเมืองนั้น ได้มาอยู่ที่นี่ในเมืองคานห์ มันคือเรื่องจริงเหรอ?"

แจ็คสันรีบพยักหน้า "ใช่แล้วครับคุณพ่อ ผมก็ได้ยินข่าวเหมือนกัน"

"ฉันคิดได้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อวาน ฉันกระทั่งได้ยินว่าเจ้าของใหม่เป็นชายหนุ่ม เขาจะต้องเป็นนายน้อยที่รวยล้นฟ้าผู้มาจากสมาคมใหญ่ในชนบท"

ชายหนุ่มและรวยล้นฟ้า! ในคำกล่าวถึงนี้ต่างทำให้หญิงสาวพึมพัมอุทานออกมา แม้กระทั่งไอลิสก็ยังมีดวงตาเป็นประกาย ในตอนนี้พวกเขาอยากจะเห็นหน้านายน้อยผู้ซึ่งใช้เงินสิบล้านซื้อศูนย์กลางเมืองได้อย่างง่ายดาย

จอร์จถาม "ศูนย์กลางเมืองนั้นมันจะเปิดให้นักลงทุนต่างประเทศลงทุนเร็ว ๆ นี้ไหม?"

แจ็คสันพยักหน้าและกล่าว "ใช่ หากเรามีคุณสมบัติได้เข้ารับเลือก เราก็สามารถใช้ช่องทางนั้นเพื่อค้นหาพันธมิตรที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นหากทำได้สำเร็จภายในห้าปี กลุ่มเครือซีของเราจะบรรลุมาตรฐานสากล"

หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น ทั้งตระกูลซีก็ปลาบปลื้มใจมีเพียงไทร์ที่นั่งถอนหายใจอยู่มุมห้อง มันเป็นเพียงแค่ศูนย์กลางของเมืองเล็ก ๆ และเป็นจุดเล็ก ๆ ภายในพื้นที่ เพียงแค่เท่านี้ก็ทำให้คนเหล่านี้ตื่นเต้นกันใหญ่โต พวกเขานั้นเป็นเพียงแค่มดปลวกจริง ๆ

"แต่คุณพ่อ ทั่วทั้งเมืองคานห์และหลาย ๆ บริษัทเครื่องแต่งกาย จากทางใต้ต่างให้ความสนใจไปที่ศูนย์กลางเมือง มันคงจะไม่ง่ายสำหรับ กลุ่มเครือซีที่จะได้ถือครองสิทธินั้น"

หลังจากเขากล่าวเช่นนี้ดวงตาของแต่ละคนส่องเป็นประกาย นี่มันเป็นโอกาสชั้นเลิศ เพื่อที่จะได้ขึ้นเงินเดือนและเลื่อนขั้น แต่ภายในพริบตาเดียวแสงประกายก็ต้องดับวูบลงในดวงตาพวกเขา พวกเขารู้ตัวดีว่าไม่มีเส้นสายที่จะไปจังจองสิทธิในศูนย์กลางเมือง นี่มันชัดเจนว่าเป็นวธีที่ชายชรากล่าวใช้เพื่อกู้หน้าของตัวเองและปกปิดให้กับไอลิส

ในเวลาเดียวกัน ไทร์สังเกตุเห็นความปราถนาบนสีหน้าของวินนี่เฟรด อย่างไรก็ตามมันปรากฏขึ้นมาแค่ชั่วครู่ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง จากการสำรวจของเขาไทร์ก็เข้าใจได้ทันทีอย่างง่ายดายว่าวินนี่เฟรดกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ "วินนี่เฟรด เธอมีตำแหน่งอะไรอยู่ในบริษัท?"

วินนี่เฟรดตอบ "ฉันคือหัวหน้าทีมในแผนกออกแบบ"

"อะไรที่อยู่เหนือไปกว่าหัวหน้าทีมออกแบบ?"

"ก็ต้องเป็นประธานแผนกสิ"

เทียร์ยิ้มแฉ่ง "เอาล่ะ วินนี่เฟรดเธออยากขึ้นไปเป็นประธานแผนกไหม?"

"ขึ้นไปเป็นประธานแผนก..." วินนี่เฟรดขนลุก แน่นอน ว่าเธอต้องจะเลื่อนตำแหน่งแต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร? วินนี่เฟรดได้ทำงานยืดหยุ่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและมีความสามารถที่โดดเด่น เธอนั้นมีคุณสมบัติเพรียบพร้อมที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกแต่จอร์จไม่เคยที่จะให้โอกาสเธอ เพราะเธอเป็นที่น่าอับอายของตระกูลซี

"ไทร์เบาเสียงลงหน่อย อย่าพูดจาไร้สาระ" วินนี่เฟรดกล่าวกับไทร์ ด้วยสีหน้าร้อนรน เธอกลัวว่าจะมีคนได้ยิน เพราะว่าถ้าหากมีใครได้ยินเข้า ก็คงจะถูกล้อเลียนอีกรอบ

อย่างไรก็ตามไทร์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เขากล่าวต่อ "วินนี่เฟรด เธอก็ได้ยินคุณปู่พูดไว้ชัดเจนแจ่มแจ้ง นี่มันก็แตกต่างกันเพียงแค่ขั้นเดียวจากหัวหน้าทีม ไปเป็นประธานแผนก มันก็คงจะถือได้ว่าเป็นการเลื่อนขั้นที่สมเหตุผล"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ