การกระทำของไอริสเป็นการดูถูกเหยีดยหยามอย่างมาก อย่างไรก็ตามจอร์จกำลังหลงไหลไปกับชิ้นส่วนของโสมป่า ที่เขานั้นไม่เคยตั้งใจจะใช้เงินซื้อมันมา มันเหมือนกับว่าเขายินยอมอย่างเงียบ ๆ กับกระทำของไอลิส
วินนี่เฟรดงุนงง หยั่งรากลึกไปถึงแก่นและรู้สึกกระวนกระวาย นั่นมันคือของขวัญที่เธอและไทร์พิถีพิถันเลือกมาสำหรับจอร์จ แต่ของพวกนั้นกลับถูกมองว่าเป็นขยะ
"กินข้าวกันเถอะ" เมื่อทุกคนมาถึง จอร์จก็ประกาศว่าได้เวลาเริ่มรับประทานอาหาร
ทั้งตระกูลนั่งลง วินนี่เฟรดและไทร์ได้นั่งโต๊ะร่วมกับจอร์จ เธอนั้นคือเชื้อสายโดยตรงของครอบครัวสมาชิกตระกูลซีดังนั้นมันจีงเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะนั่งตรงนี้
อย่างไรก็ตาม สักพักหนึ่งหลังจากที่พวกเขานั่งลง ไอริสเอามือมาบังปิดจมูกในท่าทางเสียดสี ขณะเธอบ่น "ทำไมโต๊ะนี้มันมีกลิ่นสาปแปลก ๆ ? กลิ่นเหมือนกับถังขยะ"
ทันใดนั้นทุกคนต่างมองไปที่ไทร์ การกล่าวขึ้นมาลอย ๆ แบบนี้ มันชัดเจนที่หมายถึงว่าไทร์นั้นเป็นขอทาน และไม่มีใครอยากจะร่วมโต๊ะอาหารกับขอทาน
"วินนี่เฟรด พาไทร์ไปกับเธอและไปกินตรงนู้น" จอร์จกล่าวและชี้ไปที่โต๊ะเล็ก ๆ นั่นมันเป็นโต๊ะของเหล่าคนรับใช้เพื่อรับประทานอาหาร
วินนี่เฟรดขุ่นเคืองแต่ไม่ได้กล่าวอะไร และนำไทร์ไปนั่งที่โต๊ะเล็ก ๆ ถึงอย่างไรเธอก็ชินชากับการถูกกลั่นแกล้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเธอเป็นกังวลกับความรู้สึกของไทร์มากกว่า "ไทร์ถ้านายรู้สึกว่านี่มันมากเกินไป นายกลับไปก่อนก็ได้"
ไทร์ยักไหล่อย่างเรียบเฉย และกล่าว "ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน ฉันก็จะอยู่เคียงข้างเธอ"
จากนั้นจอร์จก็ดื่มอวยพรให้กับทราวิส มันคือการแสดงถึงความเคารพที่ดีที่มีให้กับอนาคตหลานเขย ในทางกลับกันเทียบกับไทร์ที่ไม่ได้รับความสนใจอยู่ที่โต๊ะเล็ก แม้กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลซี ยังมีสีหน้าที่หยามเหยียด
หลังจากดื่มไวน์ไปไม่กี่รอบ จอร์จก็กล่าวถามไปที่ลูกชายคนโต แจ็คสัน "แจ็คสัน ฉันได้ยินมาว่าชายผู้ที่ใช้เงินเป็นสิบล้านเพื่อครอบครองศูนย์กลางเมืองนั้น ได้มาอยู่ที่นี่ในเมืองคานห์ มันคือเรื่องจริงเหรอ?"
แจ็คสันรีบพยักหน้า "ใช่แล้วครับคุณพ่อ ผมก็ได้ยินข่าวเหมือนกัน"
"ฉันคิดได้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อวาน ฉันกระทั่งได้ยินว่าเจ้าของใหม่เป็นชายหนุ่ม เขาจะต้องเป็นนายน้อยที่รวยล้นฟ้าผู้มาจากสมาคมใหญ่ในชนบท"
ชายหนุ่มและรวยล้นฟ้า! ในคำกล่าวถึงนี้ต่างทำให้หญิงสาวพึมพัมอุทานออกมา แม้กระทั่งไอลิสก็ยังมีดวงตาเป็นประกาย ในตอนนี้พวกเขาอยากจะเห็นหน้านายน้อยผู้ซึ่งใช้เงินสิบล้านซื้อศูนย์กลางเมืองได้อย่างง่ายดาย
จอร์จถาม "ศูนย์กลางเมืองนั้นมันจะเปิดให้นักลงทุนต่างประเทศลงทุนเร็ว ๆ นี้ไหม?"
แจ็คสันพยักหน้าและกล่าว "ใช่ หากเรามีคุณสมบัติได้เข้ารับเลือก เราก็สามารถใช้ช่องทางนั้นเพื่อค้นหาพันธมิตรที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นหากทำได้สำเร็จภายในห้าปี กลุ่มเครือซีของเราจะบรรลุมาตรฐานสากล"
หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น ทั้งตระกูลซีก็ปลาบปลื้มใจมีเพียงไทร์ที่นั่งถอนหายใจอยู่มุมห้อง มันเป็นเพียงแค่ศูนย์กลางของเมืองเล็ก ๆ และเป็นจุดเล็ก ๆ ภายในพื้นที่ เพียงแค่เท่านี้ก็ทำให้คนเหล่านี้ตื่นเต้นกันใหญ่โต พวกเขานั้นเป็นเพียงแค่มดปลวกจริง ๆ
"แต่คุณพ่อ ทั่วทั้งเมืองคานห์และหลาย ๆ บริษัทเครื่องแต่งกาย จากทางใต้ต่างให้ความสนใจไปที่ศูนย์กลางเมือง มันคงจะไม่ง่ายสำหรับ กลุ่มเครือซีที่จะได้ถือครองสิทธินั้น"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ
รอๆๆๆฟ...
ไม่อัพเดสเลย...
ไม่มีต่อแล้วหรือครับ...พอดีรอมา 2 วันแล้วครับ...