อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก) นิยาย บท 71

“รู้อะไรไหม การที่เราเป็นฝาแฝดกันไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องเห็นด้วยกับทุกๆ การตัดสินใจของแกโอเค้?”

“โอเค! แต่นี่มันของงานหมู่บ้านนะ จะให้ปฏิเสธหญิงวัยห้าสิบกว่าที่อุตส่าห์ปั่นจักรยานมาขอ ก็ยังไงๆ อยู่ปะ?”

“ครั้งหน้าเธอต้องปรึกษาฉัน”

“อืม! ไปกินก๋วยเตี๋ยวกันเถอะ” แฮปปี้ยิ้มแล้วเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงสดใส

ช่อเอื้องกับเอ็นจอยกลอกตา ก่อนจะพากันไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นรสเด็ดของหมู่บ้าน ที่เปิดขายตั้งแต่เช้า

ช่วงค่ำ...หลังจากที่ทานข้าวเสร็จ สามสาวก็พากันไปที่ศาลาหมู่บ้าน ซึ่งมีทั้งวัยรุ่นวัยกลางคนและผู้อาวุโสในหมู่บ้าน มารวมตัวกันตั้งขบวนแถวรออยู่ก่อนแล้ว

“ป้ายเจ้าคุณเอื้อง” คำหล้ารีบส่งป้ายหมู่บ้านไปให้สาวสวย จากนั้นก็หันไปหยิบไม้คทาส่งให้กับสองสาวฝาแฝดด้วยสีหน้ายิ้มๆ “นี่เจ้าคุณแฮปปี้ คุณเอ็นจอย”

“ค่ะ/ค่ะ” สองสาวขานรับ แล้วเริ่มฝึกท่วงท่าต่างๆ ตามที่สาวประเภทสองกำกับอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพากันเดินไปที่หัวขบวน เพื่อตั้งแถว

ช่อเอื้องจับป้ายตามที่ภรรยาผู้ใหญ่บ้านสอน จากนั้น...ขบวนแห่ของหมู่บ้านก็เริ่มบรรเลงเครื่องดนตรีขึ้นกันอย่างคึกคัก

สามชั่วโมงต่อมา...สามสาวกลับมาถึงบ้านพัก แล้วนั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนานถึงเรื่องเปิ่นๆ ฮาๆ ในการฝึกซ้อมเดินขบวนที่กว่าจะลงตัวและพร้อมเพรียงก็ปาเข้าไปเกือบจะสี่ทุ่ม

“แยกย้ายไปเข้านอนกันเถอะ พรุ่งนี้ต้องไปลองชุดที่ในเมืองกันแต่เช้า” เอ็นจอยบอกอย่างรู้สึกง่วงและเหนื่อย

“เอื้องโอเคไหม ทำไมหน้าซีดจัง” แฮปปี้ถามอย่างเป็นห่วง หลังเห็นเพื่อนลุกขึ้นแล้วเซนิดๆ

“เราเวียนหัวนิดหน่อยน่ะ” ช่อเอื้องบอกด้วยสีหน้าเจื่อนๆ

“พักผ่อนเยอะๆ นะรู้ไหม เรื่องอะไรก็ตามที่ทำให้เอื้องต้องหลบมาอยู่ที่นี่ ก็ทิ้งมันไว้ตรงนั้น อย่าเอาความทุกข์ที่เกิดจากใครก็ตามมาเป็นกังวลอีกเลย” เอ็นจอยเอ่ยปลอบ แม้ว่าเพื่อนสาวจะไม่เคยพูดถึงเรื่องของแม่ทัพ อินธิรากรณ์ให้ฟังเลย แต่เธอก็รู้ว่าทั้งสองคบหากันมานานแล้ว

“ใช่! เธออยู่ที่นี่ได้เท่าที่ต้องการ หรือหากเบื่อที่นี่ก็ไปอยู่กรุงเทพกับพวกเราได้นะ” แฮปปี้รีบเอ่ยเสริม

“ขอบอกว่าคอนโดใหม่ของเรา ยิ่งใหญ่มาก” เอ็นจอยถือโอกาสคุยโวให้เพื่อนสาวฟัง เพราะหนึ่งเดือนที่ผ่านมาหลังจากที่ซื้อคอนโดทั้งชั้นเสร็จ ก็พากันออกแบบและตกแต่ง จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยไป85% จึงพากันเดินทางมาที่เชียงราย

“พวกเราซื้อทั้งชั้นไว้วิ่งเล่นล่ะ” แฮปปี้บอกยิ้มๆ หลังฝึกงานเสร็จมารดาก็แบ่งเงินให้มาใช้ก้อนหนึ่ง พวกเธอก็เลยเอาไปซื้อคอนโดหรูไว้อยู่ด้วยกันสองคน ตั้งใจว่าจะใช้เป็นที่พักและออฟฟิตในวันข้างหน้า หากทำธุรกิจของตัวเอง

“แม่เจ้า!” ช่อเอื้องอุทานอย่างดีใจกับเพื่อนสาว ซึ่งหากรวมคะแนนของแต่ละเทอมเสร็จแล้ว ก็ว่าที่เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ทั้งเธอ แฮปปี้ เอ็นจอย รวมไปถึง...ชบาอีกคน

“สี่ปีในรั้วมหาลัย ความรู้สึกของฉันกับเอ็นจอยที่มีต่อเอื้อง มันเกินคำว่าเพื่อนรักไปไกลแล้ว เธอคือครอบครัวของเรานะ” แฮปปี้บอกน้ำตาคลอส่วนหนึ่งที่มารดายอมแบ่งเงินก้อนใหญ่ให้นำมาใช้ ก็เป็นเพราะเพื่อนสาวตรงหน้า ที่คอยดึงและประคับประคองเธอกับเอ็นจอยให้ลุกขึ้นมาขยันตามจนกลายเป็นเด็กเรียนเก่งคะแนนดีไปอย่างมึนๆ

ทั้งที่จริงแล้วเธอกับฝาแฝดแทบจะไม่อยากดิ้นรนอะไร เพราะยังไงฐานะทางก็บ้านร่ำรวยแบบมีกินมีใช้ไปตลอดชาติ แต่พอได้รู้จักกับช่อเอื้อง ความคิดต่างๆ ก็เริ่มเปลี่ยนไป กลายเป็นคนที่ต้องคิดและวางแผนเตรียมพร้อมเกี่ยวกับอนาคตเอาไว้อย่างมากมาย

“ใช่! หากไม่อยากเจอหน้าใครก็ไปอยู่กับพวกเรา” เอ็นจอยบอกด้วยสีหน้าจริงจัง

“ฮึก...ขอบคุณพวกเธอมากๆ นะ ขอบคุณจริงๆ” ช่อเอื้องร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

“ยัยบ้า! ร้องไห้เป็นเด็กไปได้” แฮปปี้บอกทั้งๆ ที่ตัวเองก็น้ำตาไหลอาบแก้มเป็นทางเช่นกัน

“แกก็ร้องนะแฮปปี้” เอ็นจอยเอ่ยแซวคู่แฝดอย่างขำๆ

“ชิ! แกก็เหมือนกัน” แฮปปี้มองค้อน ก่อนจะเอ่ยกับเพื่อนสาวที่ยังคงร้องไห้ไม่หยุด “รู้อะไรไหม พวกเราไม่อยากกลับกรุงเทพแล้วทิ้งเธอไว้ที่นี่คนเดียว”

“ใช่! หากเกิดเรื่องแย่ๆ ขึ้นกับเธอ พวกคงจะเกลียดตัวเองไปจนตาย” เอ็นจอยบอกพร้อมกับยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลเอ่อทิ้ง

“จบงานกีฬาสีของหมู่บ้านแล้ว กลับกรุงเทพด้วยกันนะ” แฮปปี้กล่อมเพื่อนสาวต่อ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)