แฮปปี้มองเพื่อนสาวคนสวยที่เดินมาหาอย่างรู้สึกอิจฉาในความสวยสมบูรณ์แบบของอีกฝ่ายที่เจิดจรัสแสงสว่างจ้า ฆ่าสาวๆ ในรัศมีหนึ่งร้อยเมตรตายเรียบทุกคน “สวัสดีจ้าเพื่อนสาว”
“รถสวยไม่เบานะเอื้อง” เอ็นจอยบอกก่อนจะหันไปมองรถของเพื่อนสาว อีกครั้งอย่างชื่นชม
“แฮ่ๆ” ช่อเอื้องหัวเราะแห้งๆ อย่างไม่รู้จะตอบยังไง
“ขากลับแวะไปเที่ยวบ้านใหม่ของพวกเราก่อนนะ” เอ็นจอยเอ่ยชวน
“ได้สิ!” ช่อเอื้องรีบพยักหน้ารับ
“ยัยดรีมมา” แฮปปี้รีบถือกระเป๋าที่วางอยู่ขึ้นเตรียมพร้อมจะเดินหนี
“เอื้อง ปิดเทอมไปเที่ยวที่ไหนมาบ้างเหรอ?” ดรีมฉีกยิ้มหวานเอ่ยถาม เพื่อนสาวที่ตอนนี้กลายเป็นคนดังในมหา’ลัย ที่รุ่นพี่รุ่นน้องต่างพากันให้ความสนใจอย่างล้นหลาม ชนิดที่ดาวมหา’ลัย ยังเทียบไม่ติด ขนาดเธอเป็นเน็ตไอดอลยังสู้ไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายมีคนติดตามในไอจีเป็นหมื่น
“เอ่อ...เรากลับกรุงเทพน่ะ แล้วดรีมล่ะ” ช่อเอื้องถามกลับยิ้มๆ
“ฉันไปเที่ยวญี่ปุ่นมา มีของฝากพวกเธอด้วยนะ” ดรีมบอกพร้อมกับส่งของฝากที่บ่งบอกถึงการเยือนญี่ปุ่นมาให้อดีตรูมเมททั้งสาม
“แหม...ไม่น่าลำบากเลย ที่ร้านไดจิโซะก็มีขายเยอะแยะไปขนมแบบนี้น่ะ” เอ็นจอยอ่านออกถึงเจตนาของคนหิวแสง หลังเห็นรุ่นพี่รุ่นน้องหลายคนที่ได้รับของฝากต่างพากันโพสต์ขอบคุณและแท็กอีกฝ่ายไป แต่เธอ...จะไม่มีวันทำแบบนั้นอย่างเด็ดขาด
“เอ็นจอย ดรีมเขาให้ก็รับไว้เถอะ” แฮปปี้กลอกตาในความตรงทะลุมิติของคู่แฝด จึงยื่นมือไปรับขนมแทนอีกฝ่ายอย่างแกนๆ “ขอบใจนะ”
“ขอบคุณจ้ะดรีม” ช่อเอื้องรับขนมมาถือด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เป็นไรจ้ะ ว่าแต่เอื้องได้หอพักหรือยัง?” ดรีมถามเข้าเรื่องสำคัญ หากสามารถดึงช่อเอื้องมาอยู่ด้วยได้ เธอก็จะได้นั่งรถหรูมาเรียนที่มหา’ลัย ทุกวัน เผลอๆ อาจจะขอยืมรถไปขับอวดคนอื่นๆ ได้อีกด้วย
“ดะ...ได้แล้ว” ช่อเอื้องตอบเสียงสั่น แอบกลัวว่าอีกฝ่ายจะขอไปเที่ยวที่ห้องพัก ถ้าเป็นแบบนั้นเธอคงจะแย่แน่ๆ
“เอื้องพักกับพวกเรา” เอ็นจอยตอบด้วยสีหน้าตึงๆ คนอื่นจะคิดยังไงไม่รู้ แต่สำหรับเธอหากตัดแล้วจบ ต่อให้จะดูน่ารังเกียจแค่ไหนก็จะทำ
“แหม...เสียดายจัง เราว่าจะชวนเอื้องไปพักด้วยน่ะ” ดรีมบอกอย่างรู้สึกเซ็งๆ พลางคิดไปว่า...หากครั้งนั้นไม่โพสต์ดราม่าใส่ช่อเอื้อง บางทีอาจจะยังพอมีหวังดึงอีกฝ่ายกลับมาสนิทด้วยเหมือนกับเมื่อก่อน
“อืม...น่าเสียดายเนาะ” ช่อเอื้องกลั้นใจเอ่ยสมทบตามยิ้มๆ
“โอเค! งั้นเราไปก่อนนะ” ดรีมบอกก่อนจะเดินไปหาเพื่อนๆ อีกกลุ่มด้วยความรู้สึกผิดหวังนิดๆ
“นี่คงเพราะเห็นรถใหม่ของเอื้องแน่ๆ ถึงได้เข้ามาทัก” เอ็นจอยบอกหลังเห็นอีกฝ่ายเดินไปไกล
“นั่นสิ! ครั้งก่อนยังโพสต์แขวะอยู่เลย” แฮปปี้บอกอย่างขำๆ
“มีพรายแอบกระซิบมาว่าที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นน่ะ จริงๆ แล้วยืมบัตรเครดิตของยัยส้มไปรูดซื้อตั๋วเครื่องบิน” เอ็นจอยบอกความลับที่รู้มา
“จริงเหรอ?” ช่อเอื้องขมวดคิ้วถามอย่างรู้สึกอึ้ง คิดว่าเธอเป็นคนเดียวที่พบเจอเหตุการณ์นั้นเสียอีก
“ก็จริงน่ะสิ! ฉันนี่แหละเป็นคนบอกเอ็นจอยเอง” ชบาเอ่ยขึ้นด้านหลังของสามสาวเสียงดัง
“ชบา!!” ช่อเอื้องและสองฝาแฝดหันไปมองอย่างตกใจ
“ฉันน่ะเรียนมัธยมปลายที่เดียวกับดรีมมา รู้ตื้นลึกหนาบางนางดี” ชบาบอกพลางหยิบขนมที่แฮปปี้ถืออยู่มาแกะทาน
“อ้าว! แล้วทำไมต่อหน้าเขาถึงไม่ทักเธอล่ะ” แฮปปี้ถามอย่างข้องใจ
“ก็ฉันมันนักเรียนทุนที่ฐานะทางบ้านยากจนไง ใครจะอยากคบเป็นเพื่อน” ชบาบอกก่อนจะกัดชิมขนมอย่างเนียนๆ
“โอ๊ย! แล้วที่ยืนหัวโด่กันอยู่สามคนนี่เป็นหมาหรือไง” เอ็นจอยต่อว่าอย่างรู้สึกขุ่นเคือง ทำเอาช่อเอื้องถึงกับหัวเราะจนตัวสั่น
“แฮ่ๆ ขอโทษจ้า” ชบาหัวเราะอย่างเก้อเขิน
“แล้วฐานะทางบ้านของดรีมเป็นยังไงเหรอ?” แฮปปี้ถามอย่างอยากรู้
“อื้อ...พี่ทัพเข้าครัวอยู่เหรอคะ?” ช่อเอื้องครางท้วงแล้วหันไปจ้องมองคนที่สวมเสื้อกันเปื้อนอยู่ด้วยรอยยิ้ม ใครนะใครกันที่บอกว่าเขาเป็นคนเย็นชา เธอขอเถียงสุดใจขาดดิ้นเลยว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้เป็นคนที่น่ารักและอบอุ่นที่สุดที่เธอเคยเจอมา
“ครับ พี่เพิ่งทำกับข้าวเสร็จ ไปกินข้าวกันครับ” แม่ทัพพาสาวเจ้าออกเดินไปยังโต๊ะทานข้าวในห้องครัว แล้วหันมาถามต่อด้วยรอยยิ้ม “พรุ่งนี้เช้ามีเรียนไหม?”
“อืม...มีเรียนช่วงบ่ายค่ะ เลิกเรียนสี่โมงเย็น แต่มีนัดทำรายงานกับเพื่อนต่อ” ช่อเอื้องรายงานแผนของวันพรุ่งนี้
“เพื่อนผู้หญิงหรือว่าผู้ชายครับ” คนขี้หวงเลิกคิ้วถามทันใด
“แฮปปี้กับเอ็นจอยค่ะ พวกเขาซื้อบ้านอยู่ใกล้ๆ กับมหาลัย”
“อืม...งั้นก็ถ่ายรูปส่งให้พี่ดูหน่อยแล้วกัน” แม่ทัพบอกก่อนจะขยับเก้าอี้ออกให้นางฟ้าคนสวยเข้าไปนั่ง
“ได้ค่ะ” ช่อเอื้องนั่งลงแล้วจ้องมองอาหารที่วางเรียงอยู่บนโต๊ะอย่างรู้สึกหิวขึ้นมานิดๆ
“ไปเรียนวันแรกเป็นไงบ้าง มีหนุ่มๆ มาจีบไหม?” แม่ทัพยิงคำถามต่อ
“ไม่มีค่ะ” ช่อเอื้องรีบส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะไม่อยากให้เจ้าชายของเธอไม่สบายใจหรือคิดมากในเรื่องนี้
“จริงเหรอ?” แม่ทัพหรี่ตามองอย่างจับสังเกต
“จริงค่ะ” ช่อเอื้องเอ่ยยืนยันเสียงหนักแน่น
“ถ้าพี่รู้นะว่ามีคนจีบหนู พี่จะส่งนักมวยในค่ายไปจัดการมัน เอาให้นอนหยอดน้ำข้าวต้มเป็นเดือนเลยคอยดู” คนขี้หวงบอกทีเล่นทีจริง
“อย่าพูดแบบนี้สิคะ” ช่อเอื้องเอ่ยเสียงอ่อน รู้ดีว่าหากเจ้าชายของเธอไม่พอใจขึ้นมาล่ะก็ เขาสามารถทำได้มากกว่าที่พูดออกมาซะอีก
“ก็พี่หวงนี่ คนอะไร นับวันก็ยิ่งสวยขึ้นเรื่อยๆ” แม่ทัพบอกอย่างเป็นกังวล
ช่อเอื้องอมยิ้มแล้วลุกเดินเข้าไปหาเจ้าชายมาดดุ จากนั้นก็เขย่งเท้าขึ้นหอมที่แก้มของอีกฝ่ายทั้งสองข้างเบาๆ ก่อนจะชี้มาที่ตำแหน่งหัวใจของตัวเอง แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องหวงค่ะ เพราะตรงนี้ของหนูเป็นของพี่ทัพแค่คนเดียว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)