อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก) นิยาย บท 42

ด้านคนที่เดินเลี่ยงออกมารับสายของเจ้าชายมาดดุที่ข้างนอก เอ่ยถามอย่างรู้สึกเป็นกังวลนิดๆ เพราะมือถือของเธอมีแอปติดตามที่เชื่อมกับมือถือของเขาอยู่ เลยกลัวว่าหากแม่ทัพแอบขับรถตามมาเช็คแล้วเห็นว่าภายในบ้านมีรุ่นพี่หนุ่มหน้าตาหล่อเหลาอยู่ อาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้

[ว่าไงคะ]

[รับสายพี่ช้าจัง]

[ขอโทษด้วยค่ะ พอดีเอื้องคุยกับเพื่อนอยู่]

[วันนี้จะกลับกี่โมงครับ]

[อืม...น่าจะทุ่มนิดๆ ค่ะ]

[โอเค! งั้นพี่จะทำราดหน้าทะเลรอนะ] ปลายสายบอกอย่างอารมณ์ดี

[ค่ะ] ช่อเอื้องขานรับก่อนจะกดวางไปอย่างรู้สึกผิดนิดๆ เพราะว่าเขาดีกับเธอทุกอย่าง และเธอไม่อยากจะทำลายความไว้ใจที่มี จึงคิดว่าจะนั่งทำรายงานต่ออีกครู่หนึ่ง แล้วจะแกล้งเนียนขอตัวกลับก่อน

แฮปปี้ที่เห็นเพื่อนสาวเดินเข้ามาในบ้าน จึงรีบเอ่ยเรียก “เอื้อง! ช่วยเรายกเครื่องดื่มกับจานออกไปข้างนอกหน่อยสิ”

“ได้จ้ะ วันนี้เรากลับทุ่มหนึ่งนะ” ช่อเอื้องรีบบอกเพื่อนสาว

“อืม! ว่าแต่...พี่ภีมนี่รุกน่าดูเนาะ” แฮปปี้เอ่ยแซวยิ้มๆ

“บ้า! เขามาทำความรู้จักกับพวกเธอต่างหาก” ช่อเอื้องบอกพลางส่ายหน้าอย่างขำๆ

“ไม่จริง! เขาเห็นรถเธอจอดอยู่หน้าบ้านฉันต่างหากล่ะ” แฮปปี้เอ่ยแก้ทันใด

“เฮ้อ...อย่ามาจับโยงเลย รีบๆ ตามมานะ เรายังต้องหาข้อมูลทำรายงานกันอีกเยอะ” ช่อเอื้องทำทีเป็นดุเพื่อนสาวแล้วรีบยกถาดใส่ของเดินออกไปที่ด้านนอก

“กลัวอะไร เรามีรุ่นพี่คนเก่งอันดับหนึ่งอยู่ด้วยทั้งคน” แฮปปี้เดินตามหลังเพื่อนสาวออกไปอย่างอารมณ์ดี

ช่อเอื้องกลอกตา ก่อนจะตีหน้ามึนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นสายตาของพี่รหัสที่ขยันหันมามองเธออยู่บ่อยๆ

เวลา 19:11 น.

“น้องเอื้องรีบกลับจังเลยครับ เพิ่งจะทุ่มเอง” ภีมรภัทรเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสาวเจ้าเก็บของต่างๆ ลงใส่ในกระเป๋า เตรียมพร้อมจะกลับบ้าน

“ค่ะ พอดีนัดกินข้าวกับคนที่บ้านเอาไว้” ช่อเอื้องบอกพร้อมกับฝืนส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้พี่รหัส

“ถึงว่า...กินไปนิดเดียว พี่ก็นึกว่าไว้หุ่นซะอีก” ภีมรภัทรเอ่ยแซว

“เปล่าค่ะ ขอบคุณพี่ภีมมากๆ นะคะ ที่ช่วยติวให้” ช่อเอื้องยกมือไหว้คนหล่อใจดีที่ช่วยติวให้เธอกับเพื่อนอย่างรู้สึกเกรงใจ

“ไม่เป็นไรครับ หากต้องการความช่วยเหลือ หรือต้องการให้พี่มาติวให้อีก ก็บอกได้นะครับ พี่ยินดีเสมอ”

“ค่ะ” ช่อเอื้องขานรับ ก่อนจะลุกเดินออกไปที่หน้าบ้าน

“เอื้อง! ขับรถดีๆ นะ” แฮปปี้ตามออกไปส่ง

“ใช่! ถึงแล้วโทรมาบอกด้วยล่ะ เป็นห่วง” เอ็นจอยเอ่ยพลางโบกมือให้เพื่อนสาว

“รับทราบจ้ะ ไปก่อนนะ” ช่อเอื้องโบกมือตอบ แล้วเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ จากนั้นก็ค่อยๆ ขับออกไปตามทางอย่างระมัดระวัง

ภีมรภัทรที่เดินตามออกมาก็เอ่ยขอตัวด้วยสีหน้ายิ้มๆ “เอ่อ...ตอนนี้แม่บ้านคงจะทำความสะอาดเสร็จแล้ว พี่ขอตัวกลับก่อนนะครับ”

“แต่เนื้อย่างยังไม่หมดนะคะ” เอ็นจอยแอบขำในใจที่รุ่นพี่ขอตัวกลับตามหลังเพื่อนสาว

“ตามสบายได้เลยครับ” ภีมรภัทรบอกก่อนจะเดินกลับไปที่บ้านของตัวเอง

“ค่ะ/ค่ะ” สองสาวขานรับก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน แล้วจัดการกับเนื้อย่างต่ออย่างเอร็ดอร่อย

รีสอร์ตอินธิรากรณ์...เวลา 19:32 น.

“กลับมาแล้วค่ะ” ช่อเอื้องก่อนจะเดินเข้าไปหาเจ้าชายที่กำลังจัดโต๊ะเตรียมอาหาร

“อาหารพร้อมแล้วครับ” แม่ทัพหันไปมองนางฟ้าคนสวย แล้วอ้าแขนรอรับเหมือนเช่นทุกครั้ง

จุ๊บ! จุ๊บ!

ช่อเอื้องเข้าไปกอดและหอมแก้มทั้งสองข้างของเขาเบาๆ “ขอบคุณนะคะ”

“อ๊ะ! แอบไปกินปิ้งย่างมาหรือเปล่าเนี่ย?” คนจมูกไวถามอย่างสงสัย

“คือ...เพื่อนหนูซื้อเนื้อมาย่างกินที่บ้านน่ะค่ะ” ช่อเอื้องหน้าเจื่อนไปทันใด

“ว้า...แบบนี้ก็แสดงว่า...”

“หนูกินไปนิดหน่อยพอเป็นมารยาทค่ะ”

“จริงเหรอ? ถ้าอิ่มแล้วไม่ต้องกินก็ได้ครับ”

“ไม่อิ่มค่ะ เพิ่งกินได้แค่ 10% ของกระเพาะเอง”

“หลอกพี่หรือเปล่าเนี่ย?”

“จะหลอกทำไมคะ พี่ทัพอุตส่าห์เข้าครัวทำราดหน้าทั้งที หนูไม่ยอมพลาดแน่นอนค่ะ” ช่อเอื้องบอกด้วยสีหน้าจริงจัง

“อ้อนพี่เก่งนะเรา”

“หนูพูดเรื่องจริงค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองในรอบหนึ่งปีที่พี่ทัพทำ”

“จำแม่น!” แม่ทัพมองค้อนแม่สาวความจำดี

“คุณแม่ล่ะคะ” ช่อเอื้องถามหาผู้ใหญ่อย่างคิดถึง เพราะเมื่อวานยังไม่ได้มีโอกาสถามไถ่อะไรเลย อีกฝ่ายก็รีบหนีกลับซะก่อน

“ไปต่างประเทศแล้วครับ” แม่ทัพบอกตามตรง

[มีอะไร] ปลายสายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

[แหม...น้ำเสียงห่างเหินจังเลยนะครับ] แม่ทัพรับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่ยังไม่หายขุ่นมัวของมารดาได้ดี

[เอื้องบอกให้โทรมาใช่ไหม]

[แม่รู้ได้ยังไงครับ?]

[รู้สิ! ฉันรู้จักลูกชายของตัวเองดีว่าต่อให้ผิดยังไงก็ไม่มีทางสำนึกหรือโทรมาง้อฉันเด็ดขาด]

[แม่ครับ! ถ้าการที่ผมหวงเอื้องแล้วมันผิด หรือทำให้แม่ไม่พอใจ ผมก็ขอโทษด้วยครับ]

[นี่พูดต่อหน้าเอื้องอยู่ใช่ไหม]

[เปล่าครับ เอื้องไปอาบน้ำ]

[หึ! มีผลประโยชน์ทับซ้อนแน่ๆ]

[ฮ่าๆ แม่นี่อารมณ์ขันจริงๆ]

[แสดงว่ามี]

[เอ่อ...เอาเป็นว่าผมขอโทษแม่แล้วกัน สำหรับทุกๆ เรื่องเลย]

[ฉันไม่รับคำขอโทษ แล้วก็จะโทรไปบอกเอื้องด้วยว่า ข้อแลกเปลี่ยนเป็นโมฆะ] ปลายสายพูดจบก็กดวาง

แม่ทัพยืนนิ่งอย่างไปไม่ถูกที่อยู่ๆ มารดาก็กดตัดสายทิ้งไปดื้อๆ

“คุณแม่ว่าไงบ้างคะ?” ช่อเอื้องที่เปิดน้ำใส่อ่างทิ้งไว้ แล้วรีบเดินออกมาเอามือถือ เพราะนึกขึ้นได้ว่าลืมแชตไปบอกเพื่อนสาวว่าเธอกลับมาถึงบ้านแล้ว แต่พอเดินออกมาก็เห็นเจ้าชายของเธอกำลังคุยสายกับคุณมาลีน เลยจึงคิดว่าทั้งสองน่าจะปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว

“พี่เคลียร์กับคุณแม่แล้วครับ” แม่ทัพรีบโกหก เพราะไม่อยากให้โปรโมชั่นดีๆ ของค่ำคืนนี้หายไป

“ดีแล้วค่ะ” ช่อเอื้องฉีกยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างดีใจ

“เอ่อ...มือถือหนูอยู่ไหนครับ?” แม่ทัพถามพร้อมกับมองหา กลัวว่ามารดาจะโทร. เข้ามาบอกสาวเจ้า เหมือนกับที่ขู่ตนเมื่อครู่

“อยู่ในกระเป๋าค่ะ พี่ทัพมีอะไรเหรอคะ?”

“ไม่มีครับ พี่แค่จะเอามาชาร์จให้” คนที่ตั้งใจจะปิดเสียงเรียกเข้าของสาวเจ้า บอกยิ้มๆ

“ขอบคุณค่ะ แต่หนูเอาไปชาร์จเองดีกว่า” เธอบอกอย่างเกรงใจ เพราะอีกฝ่ายชาร์จให้เธอแทบจะทุกวัน

“ไม่ต้องครับ หนูไปรอพี่ที่ห้องน้ำเถอะ” คนหื่นบอกอย่างใจดี

“ค่ะ” ช่อเอื้องขานรับ และหมุนตัวเตรียมจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอนแต่ทว่า...ก็มีเสียงข้อความไลน์ดังขึ้นติดๆ กัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)