ครึ่งชั่วโมงต่อมา...คุ้มแสนรัก
ช่อเอื้องขับรถเข้าไปจอดใกล้ๆ กับรถของเพื่อนสาวและพี่รหัส จากนั้นก็รีบก้าวลงจากรถ ไปชื่นชมความงดงามของคุ้มแสนรัก ซึ่งร่มรื่นไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ โอบล้อมบ้านหลังใหญ่สไตล์ยุโรป ทำให้ดูอบอุ่นและมีมนต์เสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก
“เป็นไงบ้างครับบ้านพี่” ภีมรภัทรเอ่ยถามเมื่อเห็นน้องรหัสคนสวยหันไปมองรอบๆ แล้วฉีกยิ้มออกมาบางๆ
“สวยมากๆ เลยค่ะ” ช่อเอื้องเอ่ยชมจากใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้มาก ราวกับว่า...ตัวเองนั้นเคยอยู่ที่นี่มาก่อน
“ถือเป็นบุญตามากๆ เลยค่ะพี่ภีม ขอบคุณนะคะที่ชวนพวกหนูมาเที่ยว” แฮปปี้รีบล้วงมือถือออกมากดบันทึกภาพตรงหน้าอย่างอดใจไม่ไหว
“ยินดีครับ ว่าแต่เราเข้าไปข้างในกันเถอะครับ” ภีมรภัทรเอ่ยชวนสามสาว เพราะใกล้จะได้เวลาทานข้าวแล้ว
“ค่ะ/ค่ะ” สาวสามขานรับแล้วเดินตามเข้าไปข้างในคุ้มอย่างรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความงดงามอันวิจิตรตระการตา
ผกามาศ หญิงวัยหกสิบห้าปีที่นั่งอยู่หัวโต๊ะภายในห้องอาหารขนาดใหญ่ ฉีกยิ้มหวานออกมาอย่างดีใจที่เห็นหลานชายสุดที่รัก เดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าระรื่นพร้อมกับสาวๆ จึงเอ่ยแซว “อ้าว! พาสาวมาด้วยเหรอภีม”
“เอ่อ...รุ่นน้องที่มหาลัยครับคุณยาย คนนี้ชื่อแฮปปี้ คนนี้ชื่อเอ็นจอยเป็น ฝาแฝดกันครับ ส่วนน้องคนนี้ชื่อน้องช่อเอื้อง” ภีมรภัทรรีบแนะนำทันใด
“สวัสดีค่ะ” สาวสามยกมือไหว้อย่างรู้สึกเกร็งนิดๆ
“สวัสดีจ้ะ เข้ามานั่งสิหนู” ผกามาศรับไหว้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะหันไปถามหลานชายอย่างอยากรู้ “คนไหนแฟนเราล่ะ?”
“คุณยายครับ” ภีมรภัทรมองค้อนผู้เป็นยาย ที่ทำเหมือนกระซิบ แต่เอ่ยออกมาเสียงดังราวกับจงใจให้สามสาวได้ยินการสนทนานี้ด้วย
“อ้าว! ก็ปกติเราไม่พาสาวมาที่นี่ แสดงว่า...หนึ่งในนี้ต้องมีคนที่พิเศษอยู่แน่ๆ” ผกามาศยิ้มยั่วหลานชายที่ตอนนี้หน้าแดงก่ำมาจนถึงใบหู
“ย่าครับ” ภีมรภัทรรีบปรามอีกครั้งอย่างใจคอไม่ดี กลัวว่าผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมาก่อน จะอ่านสายตาท่าทีของตนออก แล้วเผยสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในใจออกมาต่อหน้าสามสาว
“เอ้...หรือว่าจะเหมาสามนะ?” ผกามาศบอกพลางทำท่าครุ่นคิด
“คิกๆๆ/คิกๆๆ” ช่อเอื้อง แฮปปี้และเอ็นจอยพากันเราะออกมาเบาๆ อย่างขบขันกับถ้อยคำหยอกล้อของผู้ใหญ่
“ฉันล้อเล่นจ้ะ ว่าแต่...หนูเอื้องหน้าเหมือนกับเพื่อนของลูกสาวฉันเลยนะ” ผกามาศบอกหลังจากแอบมองอยู่นาน
“น้าดาหลันใช่ไหมครับ?” ภีมรภัทรบอกยิ้มๆ เพราะตนก็แอบคิดอยู่เหมือนกันว่าช่อเอื้องกับเพื่อนรักของมารดามีส่วนที่คล้ายกันอย่างบอกไม่ถูก
“ใช่ ดาหลันเขาเป็นเจ้าของคุ้มแสนรักคนก่อนน่ะ เดี๋ยวทานเสร็จแล้วภีมพาน้องเขาไปดูรูปของดาหลันหน่อยสิ” ผกามาศบอกด้วยสีหน้าเป็นการเป็นงาน
“ครับ” ภีมยิ้มรับ ก่อนจะหันไปชวนสามสาวลงมือทานชาบูน้ำดำสูตรเด็ดจากร้านดังที่ผู้เป็นย่ามักจะโทร. สั่งมาทานเป็นประจำด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ชั่วโมงต่อมา...หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ช่อเอื้องก็เดินดูรูปต่างๆ ที่แขวนอยู่บนผนังบ้านกับพี่รหัสอย่างเพลิดเพลิน ก่อนจะสะดุดเข้ากับสาวคนหนึ่งซึ่งทำเอาช่อเอื้องถึงกับชะงักนิ่งไปทันใด
“คนนี้ไงครับ น้าดาหลันเจ้าของคุ้มแสนรักคนก่อนที่ยายของพี่บอกว่าหน้าเหมือนน้องเอื้อง”
“พี่ภีมว่าเหมือนไหมคะ” ช่อเอื้องแกล้งหันไปเอ่ยถาม
“มีส่วนคล้ายครับ” ภีมรภัทรออกความเห็น
“คุณดาหลันขายคุ้มนี้ให้กับครอบครัวของพี่ภีมเหรอคะ”
“ครับ ขายเสร็จก็ย้ายไปอยู่อังกฤษกับสามี เปิดร้านอาหารไทยอยู่ใกล้ๆ กับมหาลัยที่พี่ไปเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนมา”
“พี่ให้อยู่ตลอดไปเลยครับ” แม่ทัพบอกพร้อมกับกดจูบลงที่หน้าผากมนเบาๆ อย่างปลอบประโลม เดาว่าเรื่องเรียนคงจะหนัก เลยทำให้นางฟ้าคนสวยเครียดแบบนี้
ช่อเอื้องกระชับอ้อมกอดแน่น อย่างรู้สึกสับสนและขุ่นเคืองบิดาที่ไม่ยอมบอกความจริงให้รู้ ทิ้งไว้แค่รูปถ่ายเพียงใบเดียว ที่ทำให้เธอต้องมานั่งคาดเดาเหตุการณ์ไปต่างๆ นานา ว่าเพราะอะไร ผู้หญิงคนนั้นถึงได้ขายคุ้มแสนรัก แล้วย้ายไปอยู่อังกฤษกับผู้ชายอีกคน ทำไมถึงได้ทิ้งให้เธออยู่กับพ่อเพียงลำพัง และหากได้เจอหน้ากันอีกครั้ง จะยังจำเธอได้หรือเปล่า จำเด็กทารกที่ตัวเองเคยอุ้มเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนได้หรือเปล่า
หญิงสาวปล่อยให้น้ำตาไหลเป็นทางอย่างรู้สึกเจ็บปวดใจ ที่ไม่ว่าจะนึกไปถึงเหตุผลข้อใด เธอก็เจ็บทุกทาง แต่กระนั้น...ก็ทำให้ยิ่งรักและขอบคุณบิดาที่ไม่เคยทอดทิ้งเธอเหมือนกับใครอีกคน
อาทิตย์ต่อมา...
“เอื้อง! สนใจไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศไหม?” เอ็นจอยหันไปถามเพื่อนสาวที่หลายวันมานี้เอาแต่นั่งเหม่อลอยแปลกๆ คล้ายกับคนมีเรื่องอะไรในใจที่คิดไม่ตก
“เหมือนพี่ภีมน่ะเหรอ” ช่อเอื้องฝืนส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้
“ใช่! ฉันกับแฮปปี้คิดว่าจะไปเรียนแลกเปลี่ยนที่อังกฤษน่ะ แล้วก็จะขอให้ พี่ภีมช่วยติวให้ก่อนไปสอบ” เอ็นจอยบอกแผนของตนกับฝาแฝดให้เพื่อนสาวทราบ
“ไปไหมเอื้อง อย่างน้อยเราก็ขอคำปรึกษากับพี่ภีมได้ เขารู้จักคนไทยที่อยู่อังกฤษหลายคนเลย” แฮปปี้ชักนำต่อ
“ไปนะ” เอ็นจอยคะยั้นคะยอเพิ่ม
“อืม...ถ้าสอบชิงทุนได้ ค่อยว่ากันอีกที” ช่อเอื้องบอกยิ้มๆ
“ได้อยู่แล้ว ช่อเอื้องซะอย่าง” แฮปปี้มองค้อนคนเรียนเก่งที่คะแนนออกมาดีเว่อร์ อย่างรู้สึกหมั่นไส้นิดๆ
“นั่นสิ! ถ้าได้...ไปด้วยกันนะ” เอ็นจอยคาดคั้นในคำตอบ
“ดูก่อน” ช่อเอื้องตอบอย่างสองจิตสองใจ ยอมรับว่าหลังจากที่ไปคุ้มแสนรักเมื่ออาทิตย์ก่อน ก็ทำให้เธอเกิดแรงกระตุ้นในการอยากไปเรียนแลกเปลี่ยนที่อังกฤษอยู่ไม่น้อย หากจะเอ่ยขอคุณมาลีนกับแม่ทัพ เธอก็เกรงใจ เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองรบกวนทั้งสองมามากพอแล้ว จึงคิดเอาเองว่า...ถ้าสามารถสอบชิงทุนไปเรียนแลกเปลี่ยนได้ ก็คงจะดี อย่างน้อยสักครั้งในชีวิต เธอก็อยากจะไปเห็นหน้าผู้หญิง คนนั้น คนที่ทอดทิ้งเธอกับบิดาไปอย่างเลือดเย็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)