สิบสองวันต่อมา...หลังจากจบทริปล่องเรือสำราญ The Lion Seaกับเพื่อนสาวทั้งสอง ช่อเอื้องก็ต้องตกใจเพราะเจอชบานั่งยิ้มอยู่ในห้องพักของนักศึกษาหญิง
“อะไรกัน” เอ็นจอยอุทานอย่างรู้สึกช็อกนิดๆ
“ไม่จริงอะ?” ช่อเอื้องส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
“นี่เราตาฝาดไปหรือเปล่า?” แฮปปี้ขยี้ตาแล้วเพ่งมองอีกครั้งอย่างไม่มั่นใจ
“พอเลยทั้งสามคน พวกเธอแอบหนีไปเที่ยวที่ไหนกันมาเนี่ย” ชบาต่อว่ากับท่าทีของเพื่อนๆ ที่ดูจะโอเว่อร์แอคติ้งเกินเหตุ
“ไปล่องเรือสำราญมาจ้ะ ถ้ารู้ว่าเธอก็มาเรียนที่นี่พวกเราคงได้ไปเที่ยวด้วยกันแล้ว” เอ็นจอยวางกระเป๋าลง และบอกด้วยสีหน้าดีใจ
“ชิ! ฉันไม่มีเงินซื้อตั๋วลงเรือหรอก ได้ข่าวว่าแพงหูดับเลยไม่ใช่เหรอ” ชบามองค้อนกับคำปลอบใจของเพื่อนสาว
“พวกเราได้ตั๋วมาฟรีน่ะชบา” แฮปปี้บอกพร้อมกับเข้าไปกอดอีกฝ่าย
“สรุปพวกเธอมาเรียนแลกเปลี่ยนหรือมาเที่ยวฮะ?” คนที่ต้องเดินทางมาแบบกะทันหัน ต่อว่าอย่างขุ่นเคือง นึกว่ามาถึงแล้วจะเจอกับเพื่อนสาวทั้งสาม ที่ไหนได้!! เจอแต่ห้องที่ว่างเปล่า ทำให้คนที่เพิ่งจะเคยมาเหยียบอังกฤษเป็นครั้งแรก รู้สึกเคว้งคว้างและหลอนนิดๆ ที่ต้องนอนคนเดียวมาสองคืนเต็มๆ แถมอาหารมื้อแรกตั้งแต่ลงจากเครื่องบิน จนถึงตอนนี้คือแฮมเบอร์เกอร์จากร้านที่ขายอยู่ข้างๆ มหา’ลัย
“คิกๆๆ” สามสาวพากันหัวเราะขึ้นอย่างขบกับน้ำคำตัดพ้อของเพื่อนสาว ที่ดูจะงอนหนักกว่าทุกครั้ง
“ดีใจจังที่ชบามา” ช่อเอื้องเข้าไปกอดปลอบและโยกตัวเบาๆ
“นี่ตัดสินใจวินาทีสุดท้ายหรือไง” เอ็นจอยถามอย่างสงสัย เพราะก่อนหน้าไม่เห็นชบาจะพูดหรือบอกว่าจะมาเรียนแลกเปลี่ยนเลย
“เปล่า! ตอนแรกตั้งใจจะไปฝรั่งเศส แต่ทางนั้นตอบรับช้าก็เลยเบี่ยงมาทางนี้ดีกว่า อย่างน้อยก็มีพวกเธอสามคนอยู่” ชบาบอกอย่างไม่หายเคือง
“หมูกระทะสักหน่อยไหม?” แฮปปี้เสนอเมนูเอาใจ
“มีกระทะหรือเปล่าล่ะ?” คนที่กระหายอาหารไทย ถามกลับอย่างสนใจ
“มีสิ! นี่ไง” เอ็นจอยรีบเดินไปหยิบกระทะไฟฟ้าออกมาจากตู้เสื้อผ้า แล้วโชว์ให้กับเพื่อนสาวดู
“งั้นพวกเราออกไปซื้อของกันเถอะ” ช่อเอื้องเอ่ยชวนด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“โอเค” สามสาวขานรับก่อนจะพากันเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ช่อเอื้องรีบเดินตามเพื่อนๆ ออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้า The Diamond R ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหา’ลัย เท่าไหร่นัก
สามเดือนต่อมา...ประเทศไทย
แม่ทัพยังคงยุ่งกับงานที่ค่ายมวย บริษัทขนส่ง ฟาร์มโคขุน และงานต่างๆ ในรีสอร์ตทั้งหกสาขา แม้จะมีโดมคอยช่วย แต่กระนั้นก็ต้องเดินทางไปนั่นมานี่อยู่ไม่ขาด ทำให้ไม่มีเวลาเดินทางไปเคลียร์ปัญหาหัวใจกับช่อเอื้องเหมือนที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก ยิ่งพอเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ความตั้งใจที่แรงกล้า มันก็ค่อยๆ ลดลง และถูกแทนที่ด้วยความขุ่นเคือง ที่จนถึงวันนี้สาวเจ้าก็ยังไม่เคยติดต่อกลับมา
ด้านช่อเอื้องก็เรียนหนัก เพราะอยากทำคะแนนที่นี่ให้ดีเหมือนกับที่ไทย ทั้งค้นคว้าหาข้อมูลมาทำรายงานกลุ่มที่เมื่อก่อนจะทำกับแฮปปี้และเอ็นจอย แต่ที่นี่...เธอก็ต้องเข้าทำงานกับนักศึกษาต่างชาติ ที่มีทั้งโซนยุโรปและเอเชีย ทำให้ได้แลกเปลี่ยนความคิดกันอย่างเปิดว้าง ในหลากหลายมุมมอง ทั้งในเรื่องวิถีชีวิต วัฒนธรรม ความเป็นอยู่และอาหาร จนแทบจะหลงลืมไปว่า...ความตั้งใจแรกที่อยากจะทำให้มาเรียนที่นี่คืออะไร?
อาทิตย์ต่อมา...
ช่อเอื้องทำเป็นเดินผ่านร้านอาหารไทยที่มีชื่อว่า...วิภาดา แล้วแอบส่งสายตามองหาผู้หญิงที่ชื่อดาหลัน แต่ก็ไม่เคยเห็นอีกฝ่ายอยู่ในร้านเลยสักครั้ง ครั้นจะให้เดินเข้าไปนั่งสั่งอะไรทานก็ไม่กล้า ความรู้สึกก่อนมา...กับตอนที่มาถึงแล้ว มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าทุกอย่างจะอยู่เพียงแค่เอื้อมมือ แต่เธอก็ไม่มีความกล้าพอที่จะเดินเข้าไปค้นหาความจริงเกี่ยวกับชาติกำเนิดของตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)