ซอนย่ามองตามจนกระทั่งประตูห้องปิดลง จึงเอ่ยกับหนุ่มหล่อที่นั่งอยู่ข้างๆ “นักศึกษาฝึกงานที่นี่หน้าตาสวยไม่เบาเลยนะคะ”
“เหรอครับ?” แม่ทัพยกยิ้มที่มุมปากขึ้นนิดๆ ก่อนจะแสร้งทำเป็นหันไปมองวิวทิวทัศน์ข้างนอกผ่านกระจกใส
“ค่ะ ถ้าเข้าวงการคงได้เป็นนางเอกแน่ๆ” ซอนย่าเอ่ยเย้า พลางสังเกตอาการของคนข้างๆ ซึ่งขึ้นเรื่องเจ้าชู้มาแต่ไหนแต่ไร แถมช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาก็มีข่าวกับดารา-นางแบบมานับไม่ถ้วน ทุกคนล้วนแต่เป็นข่าวซุบซิบไม่เกินหนึ่งเดือน แต่เธออยากจะเป็นไปตลอดชีวิตในฐานะคุณนายอินธิรากรณ์
“หึๆ งานเดินแบบของคุณเป็นยังไงบ้าง” แม่ทัพหัวเราะก่อนจะเปลี่ยน เรื่องคุย
“ก็เรื่อยๆ ค่ะ ว่าแต่เมื่อไหร่คุณทัพจะชวนซอนย่าออกเดตสักทีคะ” คนที่ยังไม่มีรูปถ่ายคู่ให้ปาปารัสซี่เอาไปเขียนข่าวถามอย่างมีความหวัง
แม่ทัพนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถาม “คืนนี้คุณว่างหรือเปล่าครับ?”
“ว่างค่ะ เราไปดินเนอร์กันไหมคะ”
“ที่ไหนดีครับ”
“โรงแรมมะลิฉัตร แกรนด์ค่ะ”
“ได้ครับ”
“งั้นเจอกันตอนสองทุ่มครึ่งนะคะ” ซอนย่าบอกเวลานัดหมาย
“เยี่ยมเลยครับ” แม่ทัพพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย ก่อนจะหันไปมองที่ประตูห้องหลังได้ยินเสียงเคาะดังขึ้นสองครั้ง
ก๊อกๆ
“กาแฟมาแล้วค่ะ” ช่อเอื้องยกแก้วกาแฟเข้ามาเสิร์ฟด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณครับ” แม่ทัพเหลือบมองใบหน้างามครู่หนึ่ง แล้วหยิบแก้วกาแฟร้อนพร้อมกับจานรองส่งให้นางแบบดัง
“ขอบคุณค่ะ” ซอนย่ารับมาถือพร้อมกับเป่าเบาๆ อย่างอารมณ์ดี
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ” ช่อเอื้องเอ่ยก่อนจะหมุนตัวกลับ เตรียมจะเดินออกจากห้อง
“เดี๋ยว! ช่วยจองโต๊ะที่ห้องอาหารของโรงแรมมะลิฉัตรแกรนด์ตอนสองทุ่มครึ่งให้หน่อย” แม่ทัพยกยิ้มมุมตรงปากขึ้นนิดๆ ราวกับผู้ชนะที่ได้เอ่ยประโยคนี้
“ได้ค่ะบอส” ช่อเอื้องขานรับเบาๆ
“สองที่นะคะ” ซอนย่ารีบเสริม
“ค่ะ” ช่อเอื้องพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไปด้วยหัวใจร้าวๆ หากรู้สักนิดว่าบริษัทนี้เป็นของแม่ทัพ เธอจะไม่มีวันมาฝึกงานที่นี่อย่างเด็ดขาด ความรู้สึกโมโหตอนที่วิ่งไปซื้อขนมเค้กเมื่อครู่ ยังไม่เท่ากับตอนที่รู้ว่าเขาให้ไปซื้อมาเอาใจนางแบบดัง
ยี่สิบนาทีต่อมา...หลังจากที่ซอนย่ากลับไปเรียบร้อยแล้ว เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น ช่อเอื้องสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะรับสาย
“ค่ะบอส”
“จองห้องสวีตที่วิวดีๆ ให้ด้วยนะ อ้อ! ถ้าได้ห้อง 2909 จะดีมาก”ปลายสายบอกจบก็กดวางไปทันที ตู๊ดๆ
ช่อเอื้องถือสายค้างนิ่งอยู่กับที่ ไม่คิดว่าเจ้าชายของเธอจะใจร้ายถึงขั้นให้โทร. ไปจองห้องพัก ห้องเดียวกับที่เขาและเธอเคยเช็กอินพักด้วยกันมาก่อน ‘ให้ตายสิ! นี่มันนรกบนดินชัดๆ ไม่เข้าใจว่าคุณมาลีนต้องการให้เธอมาเจอะเจอกับความเจ็บปวดใจนี้ หรือเป็นความต้องการของเขา ที่อยากให้เธอชดเชยต่อเรื่องในครั้งนั้น’
ขณะที่ช่อเอื้องกำลังจะกดต่อสายจองห้องสวีตให้กับเจ้าชายบ้ากาม เอ๊ย! เจ้าชายมาดดุ แต่ทว่า...อยู่ๆ ก็มีเสียงเรียกเข้าจากสายของเพื่อนสาวดังขึ้น เธอจึงรีบกดรับทันใด
[ว่าไงชบา?]
[เอื้อง! เราต้องตามคุณโดมไปดูงานที่เชียงใหม่]
[อะไรนะ?]
[เราต้องไปดูงานที่เชียงใหม่กับคุณโดมน่ะ น่าจะอีกหลายวันกว่าจะได้กลับมาที่กรุงเทพ]
[เอ่อ...เดินทางปลอดภัยนะ]
[เฮ้อ...นึกว่าเราจะได้ทำงานด้วยกันซะอีก]
[นั่นสิ! แต่ไม่เป็นไรหรอก อีกเดี๋ยวก็คงจะได้กลับมาเจอกัน]
[จ้ะ เราต้องออกเดินทางแล้วนะ]
[โอเค ไว้เจอกัน] ช่อเอื้องตอบก่อนจะกดวางสายไปอย่างรู้สึกเดือดนิดๆ เธอไม่อยากจะคิดว่านี่คือแผนแยกเธอกับเพื่อนสาว แต่มันใช่! และใช่ อย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด มีอย่างที่ไหนให้เด็กฝึกงานติดตามคนสนิทไปดูงานที่ต่างจังหวัดอย่างไม่กำหนดแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)