หลังประตูลิฟต์ปิดลง...
คนขี้หึงที่เห็นใครต่อใครพากันหลงเสน่ห์ของสาวเจ้า ทั้งนักมวยในค่าย ทั้งฌอห์ณ และพนักงานชายในบริษัท ก็เริ่มพาลหาเรื่อง
“ถามจริงๆ เถอะ ใจคอจะอ่อยผู้ชายทุกคนที่เจอหน้าเลยหรือไง?”
“...” ช่อเอื้องได้ฟังคำกล่าวหาก็ถึงกับสตั๊นไปทันใด
“เมื่อวานที่ค่ายมวยก็ทีหนึ่งแล้ว วันนี้ก็ยังจะมาอ่อยพนักงานในบริษัท อีก อยากเหรอ?” คนที่กำลังเดือดจัด ต่อว่าอย่างไม่พอใจ เพราะหลังจากที่ขับรถไปส่งสาวเจ้าเสร็จ ก็ต้องกลับไปนั่งปั้นเรื่องโกหกว่าเด็กฝึกงานปวดท้องโรคกระเพาะเลยพาไปส่งที่โรงพยาบาล และเมื่อเช้าเขาก็ยังต้องมาปั้นเรื่องโกหกต่อว่าเธอมีคู่หมั้นแล้ว แต่ฌอห์ณก็ยังหน้าด้านเอานามบัตรมายัดใส่มือของช่อเอื้องอีก ซึ่งนั่นทำให้เขาหงุดหงิดจนแทบจะเป็นบ้า
“เอื้องไม่ได้ทำ” เธอตอกกลับอย่างขุ่นเคือง เพราะเมื่อเช้าก็ถูกกล่าวหาว่าอยากจะเป็นชู้กับฌอห์ณ ตอนนี้ก็มากล่าวหาว่าเธออ่อยพนักงาน ทั้งๆ ที่เธอแค่ไปกินข้าวเท่านั้น
“อยากก็บอกมาสิ คืนนี้จะสนองให้จนถึงใจเลย” แม่ทัพดึงร่างบางเข้ามากอด แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดๆ
ช่อเอื้องได้ฟังก็โมโห ตวัดฝ่ามือลงที่ใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างทันที
เพียะ!
แม่ทัพที่ถูกตบเข้าอย่างเต็มแรง ถึงกับหน้าชาไปทั้งซีก เขาหันกลับมาแล้วดึงผู้หญิงที่เคยเรียกว่า...เมีย อย่างเต็มปากเต็มคำ เข้ามาบดขยี้จูบ
“อะ...อื้อ...” ช่อเอื้องที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ทั้งทุบและผลักอีกฝ่ายออก แต่ก็เหมือนเอาไม้ซีกไปงัดกับไม้ซุง
ติง ติ่ง ติ้ง
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก แม่ทัพก็รีบถอนจูบ แล้วดันแม่สาวเสน่ห์แรงให้ไปยืนอยู่นอกลิฟต์ พร้อมเอ่ยกำชับด้วยน้ำเสียงดุๆ
“อย่าร่านให้มันมากนัก ไปนั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่น เดี๋ยวจะให้เด็กยกอาหารขึ้นมาให้” คนที่โมโหหึงจนลืมตัว รีบกดลิฟต์ลงไปที่ชั้นล่างทันที
“ฮึก...ฮือๆๆ” ช่อเอื้องทรุดนั่งลงกับพื้นแล้วร้องไห้ออกมาอย่างเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ไม่นึกไม่ฝันว่าอีกฝ่ายจะใช้ถ้อยคำที่หยาบคายถึงเพียงนี้ แถมยังดึงเธอเข้าไปจูบ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็คบหาอยู่กับสาวอื่นไปแล้ว
ด้านคนที่รู้ตัวว่าทำเกินเหตุ...พอออกจากลิฟต์ของผู้บริหารเสร็จ ก็สั่งให้บอดี้การ์ดซื้ออาหาร แล้วเอาไปให้ช่อเอื้องที่ชั้นบน จากนั้นก็โทร. ไปสั่งหลิน ให้พาผู้ช่วยเลขาทั้งสองออกไปซื้อขนมเค้กและน้ำปั่นผลไม้มาทานซึ่งอยู่ห่างไปหกช่วงตึก เพื่อที่ช่อเอื้องจะได้มีเวลานั่งทานข้าวนานๆ
ส่วนตน...ที่ตอนนี้มีรอยนิ้วทั้งห้าของสาวเจ้าประทับตราอยู่บนใบหน้า ก็รีบขับรถกลับไปยังเพนต์เฮาส์ เพื่อจะจัดการกับอารมณ์อันขุ่นมัว และคิดหาวิธีสกัดผู้ชายคนอื่น ไม่ให้เข้าใกล้หรือพบเจอกับช่อเอื้องอีก
วันต่อมา...ชื่อเสียงของช่อเอื้องก็โด่งดังไปทั่วทั้งบริษัท ไม่ว่าแม่ทัพจะเดินผ่านไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนเอ่ยถึงสาวเจ้าไม่หยุด น้องเอื้องอย่างนั้น น้องเอื้องอย่างนี้ บลาๆๆ ทำให้แม่ทัพแทบทนไม่ไหว สั่งให้เลขาใหญ่และผู้ช่วยเลขาอีกสองคน รวมไปถึงช่อเอื้อง ให้นั่งทานข้าวกันในห้องนั่งเล่นแทนการไปนั่งทานข้าวที่ห้องอาหารของบริษัท
ขณะเดียวกันก็โทร. ชวนนางแบบดังให้มานั่งเล่นที่ห้องทำงานเพื่อจะได้กอบกู้ใบหน้าช้ำๆ ของตนที่ถูกตบเมื่อวาน และต้องการให้ช่อเอื้องเห็นว่าคนอย่างแม่ทัพ อินธิรากรณ์ มีแต่สาวๆ มารอถวายตัวให้ แค่เพียงกระดิกนิ้วเรียกเท่านั้น
พักเที่ยง...ช่อเอื้องนั่งทานข้าวกับจูนและแจงในห้องนั่งเล่น โดยมีอาจารย์ใหญ่ เอ๊ย! เลขาใหญ่อย่างคุณหลิน นั่งเป็นประธานอยู่ตรงหัวโต๊ะ พร้อมกับบอกว่าช่วงสามเดือนต่อจากนี้ ทุกคนจะมานั่งทานมื้อเที่ยงในห้องนั่งเล่น ไม่ลงไปรับประทานอาหารปะปนกับพนักงานคนอื่นที่ด้านล่าง
เนื่องจาก...หากมีสายเรียกเข้าติดต่องาน จะได้ลุกไปรับสายได้ทัน และเป็นการประหยัดเวลาในการขึ้น-ลงลิฟต์อีกด้วย แถมค่าอาหารทุกอย่างบอสจะเป็นคนออกให้ทั้งหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)