“คุณทัพก็สำคัญค่ะ เอื้องขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่างที่ผ่านมา ถ้าไม่มีคุณทัพกับคุณมาลีน เอื้องก็คง...”
“ก็คงไม่รีบทิ้งฉันไปเรียนที่อังกฤษสินะ” แม่ทัพเอ่ยตัดบทอย่างรู้สึกเจ็บปวด ใช่! แม้ว่าเรื่องมันจะผ่านมาปีกว่า แต่ความรู้สึกในวันนั้นมันยังอยู่ครบทุกอย่าง ความรู้สึกที่ถูกทิ้งอย่างไม่ใยดี
“เอื้องไม่ได้ทิ้งคุณทัพค่ะ แค่ไปเรียนแลกเปลี่ยนเท่านั้น” ช่อเอื้องบอกน้ำตาคลอ แม้จะรู้ว่าถูกอีกฝ่ายตัดสินทุกอย่างไปแล้วก็ตาม
“เลิกเสแสร้งได้แล้วเอื้อง ยอมรับมาเถอะว่าเธอมันก็แค่ผู้หญิงทะเยอทะยานคนหนึ่ง” แม่ทัพเอ่ยเยาะ และจ้องมองหญิงสาวที่ตนเคยนอนกกกอดมาหลายปี ด้วยสายตาเหยียดๆ
“ถ้าหากมันจะทำให้คุณทัพสบายใจ เอื้องยอมรับก็ได้ค่ะ” ช่อเอื้องยกมือขึ้นปาดหยดน้ำตาที่กำลังจะไหลอาบแก้มทิ้งอย่างรู้สึกเจ็บจี๊ดไปทั้งหัวใจ
“หึ! ไม่ต้องร้องไห้หรอก น้ำตาของเธอมันไม่ส่งผลใดๆ กับตรงนี้ของฉัน อีกต่อไปแล้ว” แม่ทัพบอกพร้อมกับชี้ที่หน้าอกข้างซ้ายของตนด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“โกศของคุณพ่อยังอยู่ในห้องเดิมใช่ไหมคะ” ช่อเอื้องกลั้นใจถามเรื่องสำคัญอีกครั้ง
“ถามจริง! ถ้าไม่มีโกศของพ่อ ชาตินี้เธอจะกลับมาเหยียบที่นี่อีกไหม?” แม่ทัพเอ่ยถามด้วยหัวใจที่แหลกสลาย
“ฮึก...” ช่อเอื้องที่โดนจี้จุดก็ถึงกับหลั่งน้ำตา
“จะไปไหนก็ไปเถอะ ฉันไม่อยากจะเห็นหน้าของเธออีกแม้แต่วินาทีเดียว” แม่ทัพบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
ช่อเอื้องยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา แล้วรีบเดินตรงไปยังห้องที่เก็บโกศของบิดาแต่ทว่า...พอเปิดประตูเข้าไปเธอกลับพบเพียงแค่ความว่างเปล่า จึงเดินแกมวิ่งกลับมาหาคนที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ด้วยสีหน้าตื่นๆ
“คุณทัพคะ โกศของพ่อเอื้องอยู่ไหนคะ”
“ก็อยู่ในห้องเดิมนั่นแหละ” คนเมาบอกพลางยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มอย่างไม่สนใจ
“ไม่มีค่ะ” เธอส่ายหน้าปฏิเสธหลังเห็นดอกไม้ธูปเทียนวางอยู่ครบเหมือนเพิ่งมีคนเข้ามาเปลี่ยนเมื่อวาน แต่โกศของพ่อเธอกลับไม่อยู่
“ไม่รู้สิ! ถ้างั้นแม่บ้านคงเอาไปทิ้งมั้ง หรือไม่ก็อยู่ที่เชียงราย” แม่ทัพหันไปบอกอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า ใช่! เขารอวินาทีนี้มานานแล้ว วินาทีที่จะสั่งสอนนางฟ้าใจร้ายให้รู้จักสำนึกถึงสิ่งสำคัญที่มีอยู่
“คุณทัพ” ช่อเอื้องน้ำตาไหลอาบแก้มเป็นทาง หลังได้ยินคำพูดที่ไม่แยแสของอีกฝ่าย
“ใครจะไปรู้ล่ะ! ก็ตอนที่เธอจะไปไม่เห็นจะไยดีอะไรสักอย่าง แล้วจะมาร้องห่มร้องไห้เอาอะไรตอนนี้ฮะ” แม่ทัพเอ่ยสวนกลับอย่างรู้สึกสะใจ ‘หึ! ร้องเลยร้องออกมาเยอะๆ ร้องให้มันสาสมกับเธอกล้าทิ้งฉันไป’
ช่อเอื้องเดินเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่ แล้วคุกเข่าลงพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ขอความเห็นใจจากอีกฝ่าย “คืนโกศของพ่อมาให้เอื้องเถอะค่ะ เอื้องขอร้อง”
“นี่เธอ” แม่ทัพรีบขยับตัวหนี เมื่อเห็นสาวเจ้ากำลังจะก้มลงกราบที่เท้าของตน
“คืนให้เอื้องเถอะนะคะพี่ทัพ ฮือๆๆ” ช่อเอื้องปล่อยโฮออกมาทันใด
“อย่ามาแตะตัวฉัน เธอไม่มีสิทธิ์นั้นอีกต่อไปแล้ว” แม่ทัพปัดข้อมือบางที่เอื้อมมาแตะมือของตนออกทันทีทันใด
“ฮึก...จะให้เอื้องทำยังไงคุณทัพถึงจะคืนโกศของพ่อให้เอื้อง” เธอเช็ดน้ำตา แล้วจ้องมองคนตรงหน้านิ่ง รู้ดีว่าเขาแอบเอาโกศของบิดาไปซ่อน และจะไม่ยอมคืนให้ง่ายๆ ตราบใดที่เขายังไม่ได้ลงทัณฑ์เธอจนสาแก่ใจ
“...” แม่ทัพยกยิ้มที่มุมปากอย่างเข้าทาง
“บอกมาเถอะค่ะ เอื้องยินดีทำทุกอย่าง” ช่อเอื้องกัดฟันยื่นข้อเสนอ แม้จะรู้ว่ามันฟังดูโง่ แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ
“เป็นนางบำเรอให้ฉันจนกว่าฉันจะพอใจ แล้วจะคืนโกศของพ่อให้เอง”แม่ทัพเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ฮึก...” ช่อเอื้องน้ำตาไหลทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตกหลังได้ฟังคำตัดสิน
“ถ้าไม่ตกลงก็กลับไป แล้วก็ไม่ต้องเสนอหน้ามาเหยียบที่นี่อีก” คนที่ถือไพ่ตายเอาไว้ในมือบอกพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“ก็ได้ค่ะ” ช่อเอื้องขานรับข้อเสนอทั้งน้ำตา
“งั้นก็ขึ้นไปรอที่บนเตียง” แม่ทัพยิ้มเยาะที่มุมปากอย่างรู้สึกขำ ที่ในที่สุดก็ถึงเวลาลงโทษนางฟ้าใจร้ายสักที
กึก!
“อ๊ะ!” ช่อเอื้องสะดุ้งสุดตัว รู้สึกปวดหนึบกับขนาดที่ใหญ่โตจนน้ำตาเล็ด ถึงแม้ว่าเธอจะเคยสัมผัสมันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ช่วงเวลาที่ห่างหายไปปีกว่าๆ กลับทำให้รู้สึกเจ็บเหมือนกับครั้งแรกไม่มีผิด
แม่ทัพกระแทกความเป็นชายใส่ร่องของดอกไม้งามที่อวบอูมแรงๆ อย่างระบายอารมณ์ขุนเคือง หญิงสาวกัดปากตัวเองแน่น แม้จะทั้งจุกและปวดตุบๆ ตรงความเป็นหญิง แต่เธอก็ไม่ยอมให้เสียงเล็ดลอดออกไป
“เป็นอะไร ไม่ชอบเหรอ ทีเมื่อก่อนยังร้องครางระงมอยู่เลย” แม่ทัพต่อว่า หลังเห็นปฏิกิริยาที่นิ่งเฉยของนางฟ้าใจร้าย ซึ่งทำให้ตนเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมานิดๆ
ช่อเอื้องไม่ตอบ แต่ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินต่อไปตามแต่ความต้องการของอีกฝ่าย เพราะก่อนจะมาที่นี่ เธอเองก็ได้เตรียมใจเอาไว้ส่วนหนึ่งแล้วว่าจะต้องเจอกับเหตุการณ์นี้ ใช่! สิ่งเดียวที่เธอสามารถตอบแทนหรือชดเชยเขาได้ มีเพียงแค่เรื่องบนเตียงเท่านั้น
วันต่อมา...เวลา 12:37 น.
แม่ทัพที่ตื่นก่อน จึงออกไปทำกับข้าวที่ด้านนอก พอทำเสร็จก็เดินกลับเข้ามาปลุกคนที่ยังคงนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง
“ไปอาบน้ำได้แล้ว ฉันให้ 20 นาทีไปเจอกันที่โต๊ะทานข้าว”
“ค่ะ” คนที่สะดุ้งตื่นขานรับอย่างมึนๆ พร้อมกับจ้องมองร่างสูงที่เดินออกไปอย่างรู้สึกเวียนหัวนิดๆ เพราะอีกฝ่ายเพิ่งจะหยุดกิจกรรมเข้าจังหวะกับเธอเมื่อตอนเช้า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาไปเอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหน ถึงได้คึกราวกับคนที่ตายอดตายอยากเรื่องบนเตียงมานาน
25 นาทีต่อมา...ช่อเอื้องเดินเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับเจ้าชายหื่น ซึ่งกำลังส่งสายตาพิฆาตมาให้ ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
“รีบๆ กินซะเดี๋ยวจะต้องนั่งเครื่องบินกลับเชียงราย โกศของพ่อสินน่าจะอยู่ที่นั่น” แม่ทัพบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ค่ะ” ช่อเอื้องก้มมองอาหารบนโต๊ะ พลัน! น้ำตาก็แทบจะไหลออกมาเมื่อเห็นไข่เจียวใส่เนื้อปูที่แกะเป็นก้อนๆ กับผัดกะเพราเนื้อบด และไข่ดาวกรอบนอกข้างในเยิ้มๆ ที่สำคัญ...มันคือไข่เป็ดที่เธอชอบ
“จ้องอยู่นั่นแหละ รีบๆ กินซะ”
“ค่ะ” ช่อเอื้องยกมือขึ้นปาดน้ำที่หางตาก่อนจะลงมือทานอาหาร แม้น้ำเสียงและสายตาของเขาจะเย็นชาราวกับซาตานร้าย แต่เธอรู้ว่าเบื้องหลังการกระทำนั้นยังมีเจ้าชายคนเดิมที่แสนดีซ่อนอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)