อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก) นิยาย บท 64

ชั่วโมงต่อมา...ช่อเอื้องเปิดดูมือถือของตัวเองระหว่างนั่งรถไปสนามบินกับเจ้าชายเอวดุ เอ๊ย! มาดดุ ก็เปิดอ่านแชตที่ป้านิลส่งกลับมาหาเธอ...ว่าขอให้เดินทางปลอดภัย เป็นข้อความที่ถูกส่งมาเมื่อคืน จึงเลื่อนขึ้นไปอ่านข้อความก่อนหน้าก็พบว่า...มีคนส่งข้อความไปบอกป้านิลว่า...เธอต้องเดินทางไปกับชบา เพราะต้องส่งรายงานสรุปการเข้าฝึกงานกับอาจารย์ที่มหา’ลัยด่วน ซึ่งคนที่ส่งข้อความนั้นไป...ก็คงจะมีแค่คนเดียวเท่านั้น

“ถึงแล้ว” แม่ทัพบอกคนที่มองตนคล้ายกับจะหาเรื่องเสร็จ จึงรีบก้าวออกจากรถไปทันที

ช่อเอื้องถอนหายใจอย่างรู้สึกเพลียๆ เดาว่าตอนที่เธอหลับไปเขาคงจะแอบมาเปิดดูมือถือของเธอแน่ๆ

ก๊อกๆ

แม่ทัพเคาะกระจกเรียกคนที่ยังไม่ออกมา ด้วยน้ำเสียงกวนๆ “จะให้เข้าไปอุ้มลงจากรถไหม?”

ช่อเอื้องกลอกตา ก่อนจะรีบเปิดประตูรถแล้วก้าวออกไป ก็เห็นเครื่องบินลำใหญ่ใหม่กริบจอดรออยู่เบื้องหน้า โดยมีคำว่า DDT อินธิรากรณ์ สกรีนอยู่ด้านข้างของลำ ‘ว้าว! นี่พี่ทัพซื้อเครื่องบินตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?’

“จะให้นักบินรอไปถึงพรุ่งนี้เหรอไง?” แม่ทัพเอ่ยเร่งคนที่เอาแต่มองสำรวจเครื่องบิน

“ไปแล้วค่ะ” ช่อเอื้องยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะเดินตามร่างสูงเข้าไปในเครื่องบิน ที่มีกัปตันและบอดี้การ์ดยืนรออยู่ เธอกวาดตามองการตกแต่งภายในเครื่องบินอย่างรู้สึกทึ่ง เพราะมันดูหรูหราเช่นเดียวกับเครื่องบินส่วนตัวของเหล่าเซเลบ (celebrity) คนดังทางฝั่งยุโรป ที่มักจะถ่ายรูปลงคลิปอวดความรวยบนโซเชียลอยู่บ่อยๆ

สองชั่วโมงต่อมา...รีสอร์ต อินธิรากรณ์ (เชียงราย)

ช่อเอื้องก้าวลงจากรถสปอร์ตสุดหรู ก็เห็นรถ Audi TTS สีขาว ที่เธอเคยใช้งานมาได้ปีกว่าๆ ถูกทุบจนพังยับไปทั้งคัน ‘บ้าจริง! ทำไมพี่ทัพต้องทำขนาดนี้ด้วย’

“จะยืนบื้ออยู่ตรงนั้นอีกนานไหม” แม่ทัพต่อว่าก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ด้วยสีหน้าตึงๆ

“ค่ะ” ช่อเอื้องขานรับเสียงเบาหวิว แล้วรีบเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในบ้านที่คุ้นเคย แต่ความรู้สึกกลับเคว้งคว้างและหดหู่ ไม่คิดว่าเขาจะโกรธจนถึงขั้นทุบรถคันละหลายล้านซะจนแทบจำสภาพเดิมไม่ได้

“เธออยากจะทำอะไรก็ไปทำ ถ้าฉันมีอารมณ์เมื่อไหร่จะเรียกหาเอง” แม่ทัพบอกก่อนจะเดินตรงไปยังห้องนอนทางปีกซ้าย แล้วปิดประตูห้องตามหลัง เสียงดังสนั่น

ช่อเอื้องถอนหายใจแล้วเดินไปในห้องนอนใหญ่ทางปีกขวาที่เคยเป็นห้องนอนของเขากับเธอ จ้องมองข้าวของเครื่องใช้และเสื้อผ้าต่างๆ ทั้ง กระเป๋า เครื่องสำอาง น้ำหอม เสื้อผ้าจากแบรนด์ดัง ล้วนเป็นสิ่งที่เขาประเคนให้ จนเธออดรู้สึกไม่ได้ว่าตัวเองคือเจ้าหญิงที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมไปหมด

หญิงสาวทรุดลงบนเตียงคิงไซซ์ที่เคยนอนกอดแม่ทัพคืนแล้วคืนเล่าอย่างเป็นสุขใจ แต่ตอนนี้เธอกลับเป็นเพียงแค่คนที่เขาอยากจะระบายอารมณ์โกรธเท่านั้น และหากสิ่งนี้มันพอจะชดเชยต่อความรู้สึกดีๆ ที่เขาสูญเสียไป เธอก็พร้อมจะชดใช้ให้อย่างเต็มใจ เพราะอย่างน้อย...ในวันที่แย่ที่สุดในชีวิตของเธอ ก็เคยมีเขาคอยจับมืออยู่ข้างๆ

หกชั่วโมงต่อมา...

หลังจากที่ช่อเอื้องล้มตัวลงนอนบนเตียงคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา จนกระทั่งหลับลึกไป พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็มืดค่ำ เธอจึงรีบลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็เตรียมจะออกไปหาอะไรทานที่ด้านนอก แต่พอก้าวพ้นประตูห้องนอนมาได้เพียง 4 ก้าว เสียงเรียกเข้าของมือถือก็ดังขึ้น จึงล้วงออกมาดูก็เห็นว่าเป็นเบอร์ของโดม เลยรีบกดรับสาย

[สวัสดีค่ะคุณโดม]

[คุณเอื้องครับ ช่วยไปรับบอสที่ไนต์คลับด้วยครับ]

[เอ่อ...ที่ไหนเหรอคะ] ช่อเอื้องถามอย่างมึนงง

[ที่คลับ XXX ครับ ตอนนี้ผมติดงานที่เชียงใหม่ พนักงานในร้านเพิ่งจะโทรมาบอกเมื่อครู่ว่าบอสนั่งดื่มไปเยอะพอสมควร และไม่น่าจะขับรถกลับไหว ยังไงก็ฝากคุณเอื้องดูแลบอสด้วยนะครับ]

[ค่ะ แต่ว่าเอื้องไม่มีรถขับไปหา...]

[คุณเอื้องเข้าไปเอารถที่บ้านคุณมาลีนมาใช้ได้เลยครับ ผมโทรไปบอกคนที่บ้านแล้ว อ้อ! ผมต้องวางสายแล้วนะครับ พอดียังประชุมไม่เสร็จ]

[ค่ะ] ช่อเอื้องกดวางสายแล้วรีบวิ่งไปยังบ้านพักของคุณมาลีน ก็เห็นสาวใช้ออกมายืนรอ พร้อมกับยื่นกุญแจรถลัมโบร์กินีสีแดงเจิดจรัสมาให้

เธอจึงค่อยๆ ขับออกไปตามเส้นทางที่โดมบอกอย่างใจคอไม่ดี กลัวว่าเจ้าชายมาดดุจะเมาแล้วขับรถไปเที่ยวที่อื่นต่อ

ชั่วโมงต่อมา...ไนต์คลับ XXX

“นั่นเพราะหนูไม่อยากให้ท่านไม่สบายใจ”

“ไม่จริง! เธออยากโดนฉันเอามากกว่า” แม่ทัพบอกด้วยน้ำเสียงเหยียดๆ

“...” ช่อเอื้องได้ฟังก็ถึงกับสตั๊นไปทันใด

“เป็นไง! เธอพอจะหายอยากบ้างหรือยัง?” คนเมายังคงยิงคำถามกวนๆ ต่อ

“คุณจะคิดยังไงก็สุดแล้วแต่เถอะค่ะ แค่สุดท้ายแล้วคืนโกศของพ่อให้กับเอื้องก็พอ” ช่อเอื้องตอบด้วยน้ำเสียงตึงๆ

“หึ! ข้ออ้างเยอะนะเรา” แม่ทัพเบ้ปากนิดๆ ก่อนจะยกแก้วบรั่นดีขึ้นมาจิบ

“เอื้องขอตัวไปเข้าห้องน้ำนะคะ” ช่อเอื้องบอกก่อนจะลุกขึ้นยืน

“ตามสบาย ห้องน้ำอยู่ชั้นล่าง” แม่ทัพตอบก่อนจะหันไปมองบรรยากาศที่ชั้นล่าง ซึ่งมีแต่เหล่าผีเสื้อราตรี แต่งตัวเย้ายวน ร่ายรำด้วยท่วงท่าที่แสนจะเซ็กซี่

ช่อเอื้องมองตามก็ถึงกับกลอกตาที่อีกฝ่ายหันไปสนใจสาวๆ ข้างล่าง จึงเดินลงบันไดไปยังชั้นล่างด้วยสีหน้าเซ็งๆ ตั้งแต่ที่มาถึงเชียงราย เขาก็ไม่เอ่ยถึงเรื่องโกศของบิดา ครั้นจะถามก็คิดว่าคงไม่เหมาะ เพราะอีกฝ่ายกำลังเมา

ขณะที่เธอกำลังเดินผ่านโต๊ะต่างๆ ไปยังห้องน้ำ ตามที่พนักงานเสิร์ฟบอกเมื่อครู่ อยู่ๆ ก็มีเสียงเรียกชื่อของเธอดังขึ้นที่ด้านหลังแข่งกับเสียงเพลงของนักร้องบนเวที

“เอื้อง! นั่นเอื้องใช่ไหม?”

“ไอวี่ มากับใคร” ช่อเอื้องหันไปมองก็ถึงกับตกใจที่เห็นเพื่อนสาวซึ่งเรียนอยู่คณะเดียวกันเข้ามาทัก

“ฉันมากับเพื่อนๆ น่ะ แล้วเธอล่ะ?” ไอวี่ยังไม่หายอึ้งหลังเห็นเด็กเรียนมา เที่ยวสถานบันเทิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)