อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก) นิยาย บท 78

“สวัสดีค่ะคุณนิล ขอบคุณนะคะที่ช่วยดูแลลูกสาวของดิฉันมาตั้งแต่เด็ก ขอบคุณมากๆ ค่ะ” ดาหลันเอ่ยทักทายและยกมือไหว้ขอบคุณอีกฝ่ายอย่างซาบซึ้งใจ

“คุณสวยจัง ถึงว่า...หนูเอื้องสวยเหมือนคุณนี่เอง” นิลยาไหว้ตอบ ก่อนจะเอ่ยชมอย่างรู้สึกเขินๆ

“ขอบคุณค่ะ เอ่อ...เย็นนี้ทานข้าวด้วยกันนะคะ ดากับหนูเอื้องคุยกันไว้ว่าจะทำหมูกระทะค่ะ” ดาหลันรีบเอ่ยชวน

“ได้จ้ะ แล้วเอื้องไปซื้อของหรือยัง?” นิลยาตอบรับคำเชิญ ก่อนจะหันไปถามเด็กสาวที่อยู่ๆ ก็หายไป ทำให้เธอเป็นห่วงจนแทบจะเป็นบ้า ดีที่เมื่อครู่แม่ทัพโทร. มาบอกว่าตอนนี้ช่อเอื้องกลับมาที่บ้าน เธอจึงรีบวิ่งหน้าตื่นมาจากสี่แยกกลางซอย

“ยังค่ะ เอื้องกำลังจะชวนแม่ไปที่ตลาด” ช่อเอื้องบอกก่อนจะหันไปหยิบกระเป๋าถือที่เจ้าชายมาดดุยัดเงินสดใส่มาให้จำนวนห้าหมื่นบาทพร้อมกับบัตรเครดิตต่างๆ อีก 5 ใบ

“งั้นไปพร้อมกันเลยไหม ป้าก็กำลังจะไปตลาดพอดี” นิลยาเอ่ยชวน

“ค่ะ” ช่อเอื้องขานรับแล้วชวนมารดาไปตลาดสดซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากชุมชนแห่งนี้

ในรถ...ระหว่างทางกลับบ้าน มาลีนหันไปบอกบุตรชายตัวดีที่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ราวกับคนบ้า ทั้งที่วันนี้ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ

“แม่เห็นข่าวแล้วนะทัพ”

“ข่าวอะไรครับ?” คนที่โลกทั้งใบกลับมาเป็นสีชมพู หันกลับไปถามมารดากลับอย่างสงสัย

“อ้าว! นี่ลูกยังไม่เห็นข่าวของตัวเองงั้นเหรอ?” มาลีนส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ไม่ครับ ยังไม่เห็น” แม่ทัพเริ่มสังหรณ์ใจแปลกๆ

“เฮ้อ...งานนี้ลูกต้องจัดการเคลียร์ข่าวด่วนเลยนะ ไม่งั้นอย่าหวังว่าจะได้แต่งงานกับหนูเอื้อง” มาลีนส่งมือถือไปให้บุตรชายดู

แม่ทัพกวาดสายตาไล่อ่านข่าวอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถอนหายใจอย่างรู้สึกหงุดหงิด “ข่าวออกมาแบบนี้ได้ยังไง? เมื่อวานผมโทรไปบอกเลิกซอนย่า พร้อมกับเปิดลำโพงให้น้องเอื้องฟังไปด้วยครับ”

“ในข่าวไม่เอ่ยชื่อ แต่ในคอมเมนต์ชี้ชัดว่าเป็นลูก ถ้าหากประกาศเรื่องงานแต่งออกไปตอนนี้ หนูเอื้องต้องเสียหายแน่ๆ” มาลีนบอกสิ่งที่กำลังจะตามมา

แม่ทัพที่กำลังขบคิดว่าจะจัดการกับปัญหานี้ยังไง อยู่ๆ เสียงเรียกเข้าของมือถือก็ดังขึ้น

ตู๊ด...ตู๊ด...

“ใครโทรมา?” มาลีนขมวดคิ้วถามอย่างสนใจ

“ไอ้ขุนครับแม่” แม่ทัพบอกก่อนจะกดรับสายของเพื่อนรัก

[ว่าไง]

[ทัพ! มึงขึ้นหน้าหนึ่งอะ]

[มึงโทรมาเพื่อจะบอกแค่นี้เนี่ยนะ?] คนที่กำลังเครียดๆ ตอกกลับอย่างไม่สบอารมณ์

[หึ! ถ้ามึงอยากจะรู้เยอะกว่านั้นกูก็จะบอกเพิ่ม]

[อะไร]

[เมื่อคืนซอนย่าไปดื่มที่คลับแล้วร้องไห้บอกว่าถูกมึงทิ้ง จากนั้นก็บอกว่าสาวที่แย่งมึงไปคือเด็กฝึกงาน ซึ่งเคยยกกาแฟเข้าไปเสิร์ฟให้ทุกครั้งตอนไปหามึงที่บริษัท]

[บ้าจริง!] แม่ทัพสบถออกมาอย่างหัวเสีย ไม่คิดว่าซอนย่าจะกล้าพูดถึงเพียงนี้

[นี่แหละ! ผลของการเที่ยวสำส่อนไปทั่ว] ปลายสายบอกด้วยน้ำเสียงสมน้ำหน้า

[ไอ้เชี่ยขุน] แม่ทัพต่อว่าอย่างรู้สึกโกรธที่ถูกเพื่อนซ้ำเติม

[ถ้ามึงไม่ทำอะไรสักอย่างนะ พรุ่งนี้มีคนขุดคุ้ยเรื่องของน้องเอื้องแน่ ไม่เชื่อมึงก็รอดูได้เลย] ขุนพันบอกจบก็กดวางสายไปทันที ทิ้งให้คนที่เพิ่งจะซึ้งในผลของการกระทำที่ผ่านมาของตัวเอง ถึงกับใบ้แดก เอ๊ย! ใบ้กินไปชั่วขณะ

“ที่ขุนพูดก็ถูกนะ นี่แหละผลของการเที่ยวสำส่อนไม่เลือก” มาลีน บอกอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของเพื่อนบุตรชาย

“แม่!” แม่ทัพกลอกตาอย่างเพลียๆ

“อะไรล่ะ ก็มันจริงไหม มีอย่างที่ไหนให้เมียตัวเองยกกาแฟเข้าไปเสิร์ฟให้กิ๊ก หึ! ลองแม่เป็นหนูเอื้องนะ จะเอาถาดใส่กาแฟตบทั้งกิ๊กแล้วก็ผัวชั่วๆ เลยคอยดู”

“แม่ก็รู้ว่าที่ผมทำแบบนั้นเพราะอยากจะเรียกร้องความสนใจจากเอื้อง”แม่ทัพออกรีบออกตัว

“เฮ้อ...ผู้ชายนี่เป็นอะไรที่เข้าใจยากจริงๆ บางครั้งก็ดูฉลาด ดูเป็นผู้นำแต่บางครั้งก็ทำตัวปัญญาอ่อน ประชดนู่นนั่นนี่เหมือนเด็ก บ้าบอจริงๆ”

“โธ่! ผมก็มนุษย์คนหนึ่งนะครับ ไม่ใช่ว่าเป็นผู้ชายแล้วจะเสียใจหรืออ่อนไหวไม่เป็น”

“ครั้งหน้าหากมีเรื่องอะไรก็หัดเคลียร์กันตรงๆ ไม่ใช่เอะอะก็ควงสาวประชดเมีย กลั่นแกล้งเขาสารพัด พอเขาหนีไปตัวเองก็อยู่ไม่ได้”

“ผมขอโทษครับ ผมจะไม่ทำมันอีก” แม่ทัพบอกอย่างสำนึกผิด

“รู้ไหม...ครั้งหนึ่งพ่อของลูกก็เคยพูดแบบนี้กับแม่ตอนที่มีข่าวว่ากิ๊กกับนางแบบ แม่เสียใจมาก แม้ว่าจะให้อภัยพ่อ และหลังจากนั้นเขาไม่เคยมีเรื่องทำนอง ชู้สาวอีก แต่บาดแผลนั้นมันยังคงติดอยู่ในใจของแม่เสมอ” คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนบอกพลางถอนหายใจ

แม่ทัพได้ฟัง ก็นิ่งเงียบไปทันใด ใช่! สิ่งเหล่านี้เขาได้ฟังมารดาพูดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็เพิ่งจะเข้าถึงทุกอย่างในวันที่มันเกิดขึ้นกับตัวเอง

“หนูเอื้องเป็นเด็กน่ารัก กิริยามารยาทก็น่าเอ็นดู หากเลิกกับลูกไปวันไหน แม่เชื่อว่าจะมีผู้ชายดีๆ มารอรับช่วงต่อ และพร้อมจะมอบชีวิตดีๆ ให้กับหนูเอื้องอย่างแน่นอน ส่วนลูกก็อาจจะมีสาวๆ มากมายเรียงหน้าเข้ามาถวายตัวให้ เพราะความหล่อ รวย แต่ลูกจะหาใครที่เป็นเหมือนกับหนูเอื้องอีก คงไม่เจอแล้ว”

“ครับแม่” แม่ทัพขานรับด้วยสีหน้าเศร้าๆ

“ไปจัดการปัญหาที่ตัวเองก่อซะ อีกอาทิตย์หนึ่งแม่จะเปิดทางให้ลูกได้ปรับความเข้าใจกับหนูเอื้องอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าเมื่อคืนคงไม่ได้คุยอะไรกันเลย นอกเสียจาก...”

“ขอบคุณครับ จุ๊บ!” แม่ทัพรีบหอมแก้มของมารดาแก้เขิน หลังท่านเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานได้อย่างแจ่มแจ้ง

แม่ทัพลงจากรถตู้ของมารดาเสร็จ ก็ขับรถสปอร์ตสุดหรูของตนตรงไปยังบริษัท แล้วเรียกเลขาใหญ่กับผู้ช่วยเลขามาสั่งกำชับห้ามให้ข่าวใดๆ ของช่อเอื้อง กับสื่อ ไม่เช่นนั้นตนจะไล่ออก เพราะถือว่าละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย

พอสั่งการเสร็จ แม่ทัพก็กดต่อหาไปหานางแบบดัง ที่ไม่รู้ว่าป่านนี้จะหายจากอาการเมาค้างหรือยัง

ตู๊ด...ตู๊ด...

[วะ...ว่าไงคะคุณทัพ] ปลายสายเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

[ผมไม่คิดว่าคุณจะให้คนเขียนข่าวแบบนั้น] แม่ทัพบอกด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนจะเย็นชา

[ซอนย่าไม่รู้ว่าข่าวหลุดออกไปได้ยังไง]

[ก็ถ้าคุณไม่เมาเละแล้วคุยให้คนนั้นคนนี้ฟังไปทั่วทั้งคลับ มันก็คงจะไม่เกิดขึ้น]

[เอ่อ...] คนที่เมาแล้วชอบพร่ำเพ้อ ถึงกับสะอึกไปทันใด

[ทุกครั้งที่คุณมาเจอผมที่บริษัท เราพูดคุยกันไม่ถึงยี่สิบนาที มีออกไปทานข้าวตอนกลางวัน 2 ครั้ง ดินเนอร์มื้อค่ำอีก 4 ครั้ง และมันไม่ได้จบที่บนเตียง แม้ว่าคุณจะพยายามพาผมไปสู่จุดนั้น แต่ผมก็ทำไม่ได้เพราะหัวใจของผมอยู่กับผู้หญิง อีกคน]

[ฮึก...] ซอนย่าได้ฟังถึงกับหน้าชาไปทั้งซีก

[การที่ผมโทรไปบอกยุติความสัมพันธ์กับคุณตรงๆ มันถือเป็นเรื่องดีแล้ว ดีกว่าที่เราจะเกินเลยไปไกลกว่านี้ แต่การที่มีข่าวหลุดออกมาว่าคุณถูกเด็กฝึกงานแย่งคนรัก และเธอกำลังตั้งท้อง เป็นเรื่องที่ผมรับไม่ได้]

[คุณทัพคะ...คือว่า...]

[คุณเองก็ไม่ได้คบหากับผมเพียงคนเดียวนะซอนย่า อย่าให้ผมต้องพูดเลยว่าทั้งบ้าน ทั้งรถ รวมไปถึงกระเป๋าแบรนด์เนมต่างๆ มีที่ไปที่มายังไง] แม่ทัพปล่อยหมัดฮุคใส่อย่างไม่ไว้หน้า

[ฮึก...ซอนย่าจะไม่พูดเรื่องของคุณอีกค่ะ] ซอนย่ารีบบอกอย่างรู้สึกกลัว ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะทราบเรื่องราวในเชิงลึกของเธอมากถึงขนาดนี้

[ผมหวังให้เราจบกันดีๆ แบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น แต่หากคุณยังไม่หยุดใช้เท้ากวนน้ำ ผมคงต้องออกมาพูดอะไรสักหน่อยแล้ว]

[ฮือๆๆ ซอนย่ายอมแล้วค่ะ ต่อไปนี้จะอยู่เงียบๆ เลย] ซอนย่าเอ่ยอ้อนวอนทั้งน้ำตา กลัวว่าเรื่องที่เธอรับงานนอกกับนักธุรกิจหรือนักการเมืองที่มีครอบครัวแล้วหลุดออกไป จะถูกสังคมประณามอย่างไม่มีชิ้นดี

[ผมว่าตอนนี้คุณควรจะออกไปแก้ข่าวก่อนที่เรื่องราวมันจะบานปลายนะ] แม่ทัพเอ่ยแนะ

[ได้ค่ะ เย็นนี้ซอนย่าจะแถลงข่าวแก้ให้]

[ผมจะรอดู] แม่ทัพกดวางสายแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ สาบานกับตัวเองว่า...ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ตนจะชักศึกเข้ามาในชีวิตคู่ เพราะตลอดเวลาที่กลั่นแกล้งช่อเอื้อง ตัวเขาเองก็ไม่ได้มีความสุขเลยสักนิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)