อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก) นิยาย บท 79

บ้านน้อยในสลัม...ช่อเอื้อง ดาหลัน นิลยากับคงศักดิ์นั่งล้อมวงกินหมูกระทะด้วยกัน และพูดคุยถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้เกี่ยวกับบิดาของช่อเอื้องกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่ลืมจุดธูปบอกกล่าว พร้อมกับตักอาหารแบ่งจัดไว้ให้กับดวงวิญญาณของอีกฝ่าย 1 ชุด

ขณะที่นั่งกินหมูกระทะกับผู้ใหญ่เพลินๆ สองสาวแฮปปี้กับเอ็นจอยก็ส่งคลิปการแถลงข่าวของซอนย่ามาให้ช่อเอื้องดู

หญิงสาวแกล้งเอ่ยขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แล้วแอบไปเปิดดูคลิปอย่างรวดเร็ว

{นักข่าว : มีข่าวหลุดออกมาเมื่อเช้าว่านางแบบดังถูกโทรมาบอกเลิก ไม่ทราบว่าข่าวนี้ใช่คู่ของคุณซอนย่ากับคุณแม่ทัพหรือเปล่าครับ

ซอนย่า : ไม่ใช่ค่ะ ซอนย่ากับคุณทัพเราห่างกันมาได้สักพักแล้ว

นักข่าว : หมายถึงเลิกกันแล้วเหรอครับ

ซอนย่า : ใช่ค่ะ

นักข่าว : อ้าว! แต่สองเดือนก่อนยังเห็นไปดินเนอร์ด้วยกันอยู่เลยนี่ครับ

ซอนย่า : แหม...เลิกกันแล้วเป็นเพื่อนกัน ไปทานข้าวด้วยกันไม่ได้เหรอคะ

นักข่าว : แต่ข่าววงในบอกมาว่าคุณทัพเตรียมตัวจะสละโสด ซึ่งใครๆ ต่างก็คิดว่าเจ้าสาวน่าจะเป็นคุณซอนย่า

ซอนย่า : อืม...ซอนย่าคิดว่าหากซอนย่าเป็นผู้หญิงที่ใช่สำหรับคุณทัพ ป่านนี้เขาก็คงจะขอซอนย่าแต่งงานไปแล้ว แต่ถ้าไม่ใช่ ซอนย่าก็พร้อมจะอวยพรให้คุณทัพและว่าที่เจ้าสาวในอนาคตมีความสุขค่ะ ส่วนพาดหัวข่าวในเช้าของวันนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับซอนย่าและคุณทัพ เพราะเราจากกันด้วยดี จบกันด้วยดี รบกวนพี่ๆ นักข่าวช่วยแก้ข่าวให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ}

ช่อเอื้องดูสัมภาษณ์จบ ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่ซอนย่าใจดีช่วยเบี่ยงประเด็นออกไปไกลพอที่ใครๆ จะไม่ตามขุดเรื่องของเธอต่อ

สองชั่วโมงต่อมา...หลังจากนั่งกินหมูกระทะจนอิ่มแล้ว ช่อเอื้องก็ช่วยนิลยาเก็บของ จากนั้นก็พามารดากลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วนอนคุยเรื่องน่ารักๆ ของบิดา รวมไปถึงสิ่งที่บิดาทำเป็นประจำในวันแม่ของทุกปี

ดาหลันได้ฟังวีรกรรมของเกริกพลก็กอดบุตรสาวร้องไห้ ทั้งรู้สึกขอบคุณที่อีกฝ่ายเลี้ยงดูบุตรสาวมาเป็นอย่างดี ขนาดคุณมาลีนเองก็ยังเอ่ยชมเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟังอยู่ไม่ขาดปาก ทำให้เธอรู้สึกตื้นตันในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก

ช่อเอื้องกอดมารดาร้องไห้ อยากให้ในทุกๆ ช่วงที่ผ่านมา มีทั้งพ่อและแม่อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าเหมือนกับคนอื่น ไม่ใช่กอดได้แค่ใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้น

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...ช่อเอื้องและดาหลันตื่นมาใส่บาตรตอนเช้าให้เกริกพลทุกวัน และยังไปนั่งรถเล่นตามรอยที่เกริกพลเคยพาบุตรสาวไปเที่ยวในวันแม่ พร้อมกับถ่ายรูปตามจุดต่างๆ อย่างสนุกสนาน

“แม่คะ เอื้องไปซื้อของที่สี่แยกตรงกลางซอยนะคะ” ช่อเอื้องตะโกนบอกมารดาที่กำลังทำกับข้าวอยู่หลังบ้าน

“จ้ะ” ดาหลันขานรับพลางนึกไปถึงเกริกพล ที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ แม้จะไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่เธอเชื่อว่า...อีกฝ่ายคงจะมีความสุขดี และเธอกำลังซึมซับสิ่งเหล่านั้นอยู่

“ค่ะ” ช่อเอื้องตอบก่อนจะหิ้วตะกร้าเดินไปซื้อของ เพื่อจะใส่บาตรให้กับบิดาในเช้าวันรุ่งขึ้น แต่ทว่า...พอเดินผ่านร้านกาแฟโบราณที่อยู่ข้างทาง เธอก็ถึงกับตกใจ ที่เห็นใครบางคนนั่งอยู่

“ลุงขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม” ภลัมเอ่ยพลางส่งยิ้มบางๆ ไปให้เด็กสาว

“ค่ะ” ช่อเอื้องส่งยิ้มตอบ แล้วเดินเข้าไปนั่งในร้านกาแฟกับอีกฝ่ายที่ดูจะโทรมไปจนผิดหูผิดตา

“นี่เป็นยา ที่ดาต้องทานหากมีอาการวูบหรือป่วย”

“ขอบคุณค่ะ คุณภลัมอยากไปเจอแม่ไหมคะ”

“รู้อะไรไหม ต่อให้หนูไม่ใช่ลูกของลุงกับดา แต่ลุงก็พร้อมจะรักและเลี้ยงดูหนูเหมือนลูกแท้ๆ เมื่อ 24 ปีก่อน ลุงได้เจอกับหญิงสาวคนหนึ่ง ปั่นจักรยานด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ ลุงก็บอกกับตัวเองว่า..ลุงเจอนางฟ้าเข้าให้แล้ว แต่ไม่ว่าจะทำดีขนาดไหน ดาก็ไม่เคยสนใจลุง และด้วยความเห็นแก่ตัว ลุงจึงบีบให้ดาแต่งงานด้วย ที่ผ่านมาลุงเองก็ไม่ได้มีความสุขนะ แต่อยู่ด้วยความหวัง หวังลมๆ แล้งๆ ว่าวันหนึ่งดาจะรักลุงขึ้นมาบ้าง แต่วันนี้ลุงได้รู้แล้ว...ว่าลุงคิดผิดมาตลอด” ภลัมเอ่ยสารภาพความ ในใจทั้งน้ำตานองหน้า

“คุณภลัม” ช่อเอื้องส่งกระดาษทิชชูให้อย่างรู้สึกแน่นไปทั้งหน้าอก

“ลุงขอโทษนะ ที่ทำให้หนูต้องกำพร้าพ่อกับแม่ในช่วงเวลาที่ต่างกัน” คนที่หมดทางจะไปต่อบอกพร้อมกับปาดน้ำตาทิ้งอย่างรู้สึกผิด

“ภลัม!” เสียงเรียกที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ช่อเอื้องและภลัมหันไปมองพร้อมๆ กัน

“ดา! ผะ...ผมแค่เอายามาให้คุณ” ภลัมบอกด้วยสีหน้าเศร้าๆ

ดาหลันจ้องมองถุงยาที่มีชื่อของเธอติดอยู่ จำนวน 3 เดือน ก็ถึงกับ น้ำตาคลอ

“ไม่ต้องห่วงนะ หากคุณต้องการอิสรภาพคืน ผมก็จะเซ็นหย่าให้” ภลัมบอกภรรยาจบ ก็หันไปเอ่ยกับเด็กสาว “ลุงขอตัวก่อนนะหนูเอื้อง”

“เดี๋ยวสิคะคุณภลัม” ช่อเอื้องรีบเอ่ยเรียกคนที่กำลังจะลุกเดินจากไปอย่างรู้สึกสงสาร

ดาหลันรีบคว้าแขนของอีกฝ่าย แล้วบอกด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณให้เวลาฉันได้ไหม?”

“หมายถึง...?” ภลัมหันไปถามน้ำตาคลอ

“ให้เวลาฉันซึมซับทุกสิ่งทุกอย่างของเกริกก่อน แล้วสัญญาว่าต่อจากนี้ จะรักคุณเหมือนที่คุณรักฉัน” ดาหลันบอกด้วยสายตาแดงก่ำ

“ฮึก...ได้สิ ผมจะรอ” ภลัมบอกพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างดีใจ เพราะตลอดยี่สิบกว่าที่ผ่านมา มันมีเส้นกั้นบางๆ ระหว่างเขากับเธออยู่เสมอ

ช่อเอื้องยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม แล้วฉีกยิ้มที่ผู้ใหญ่ทั้งสองปรับความเข้าใจกันได้ เธอไม่โกรธหากมารดาจะกลับไปหาคุณภลัม เพราะเชื่อว่าอีกฝ่ายนั้นก็รักมารดามาก ไม่อย่างนั้นคงไม่นั่งเครื่องบินตามมาเพียงแค่จะเอาถุงยาให้ แบบนี้หรอก

ชั่วโมงต่อมา...หลังจากที่ภลัมกับดาหลันปรับความเข้าใจกันเสร็จ ช่อเอื้องก็เอ่ยชวนภลัมให้มานอนพักที่บ้านของเธอ โดยให้อีกฝ่ายไปนอนในห้องของบิดา

ภลัมยิ้มรับอย่างไม่กลัว แถมยังจุดธูปบอกกล่าวความในใจและขอให้ดวงวิญญาณของเกริกพลอโหสิกรรมในสิ่งที่ผ่านมา พร้อมกับรับปากว่านับจากนี้ไปจะดูแลทั้งดาหลันและช่อเอื้องให้ดีที่สุด

เช้าวันต่อมา...มาลีนนั่งรถตู้คันใหญ่มารับดาหลันไปขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของบุตรชาย เพื่อจะเดินทางไปทำบุญที่เชียงใหม่ตามที่ได้ตกลงกันไว้ แต่พอมาถึงกลับพบภลัมยืนหิ้วกระเป๋ารออยู่ด้วย มาลีนก็ถึงกับทำหน้าไม่ถูก

แม่ทัพที่เดินทางมาถึงก่อน รีบเข้าไปกระซิบบอกมารดา หลังได้ฟังจากช่อเอื้องคร่าวๆ ผ่านทางแชตไลน์เมื่อคืนว่า...คุณดาหลันกับคุณภลัมได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว และตน...ที่เผลอเล่นใหญ่ไปเมื่อครั้งก่อน ก็ต้องรีบเข้าไปกราบขอขมา แล้วปรับความสัมพันธ์ใหม่ เพื่อจะได้เดินหน้ากันต่ออย่างราบรื่น

มาลีนได้ฟังที่บุตรชายบอกก็รีบฉีกยิ้มกว้างให้กับอีกฝ่าย แล้วชวนนั่งเครื่องบินไปเที่ยวเชียงใหม่ด้วยกัน

ภลัมยิ้มรับอย่างเขินๆ ก่อนจะหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ส่งให้กับคนขับรถ ช่อเอื้องเข้าไปเอ่ยร่ำลาผู้ใหญ่เสร็จ ก็ยืนมองกระทั่งรถตู้คันใหญ่แล่นออกไปจนลับตา

“เรากลับเพนต์เฮาส์กันเถอะครับ” แม่ทัพเอ่ยชวนด้วยสายตากรุ้มกริ่ม แม้ว่าช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาจะถูกสั่งห้ามเข้าใกล้ช่อเอื้อง แต่ถึงอย่างนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะแอบมาเฝ้าดูอยู่ห่างๆ โดยไม่ให้เธอรู้ตัว

“ค่ะ” ช่อเอื้องขานรับก่อนจะเดินไปขึ้นรถกับอีกฝ่ายอย่างรู้สึกเขินๆ กับสายตาที่มองมา

ครึ่งชั่วโมงต่อมา...ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในเพนต์เฮาส์ ช่อเอื้องก็เห็นเพื่อนสาวทั้งสาม คนสนิทของแม่ทัพ นั่งรออยู่ที่โต๊ะทานอาหารตัวใหญ่อย่างพร้อมหน้า

“เซอร์ไพรส์!!!” แฮปปี้ เอ็นจอยและชบา เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าสดใส

“นี่อะไรกันเนี่ย?” ช่อเอื้องถึงกับสตั๊นไปทันใด

“กระชับความสัมพันธ์ครับ” แม่ทัพรีบพานางฟ้าคนสวยเข้าไปนั่งร่วมรับประทานอาหารกับทุกคน

“คุณทัพไปเชิญพวกเรามาน่ะ” เอ็นจอยเอ่ยกระซิบเพื่อนสาว

“คืนดีกันแล้วสินะ” แฮปปี้อดแซวไม่ได้

“ชิ!” ช่อเอื้องมองค้อนอย่างเขินๆ ก่อนจะส่งยิ้มให้กับชบาที่นั่งติดกับคนสนิทของเจ้าชายมาดดุ

“เอ่อ...ผมมีเรื่องจะบอกทุกคนครับ” โดมลุกขึ้นบอกด้วยสีหน้าตื่นๆ

“เรื่องอะไรคะ?” ช่อเอื้องขมวดคิ้วถามยิ้มๆ

“ผมกับชบาเราได้กัน เอ๊ย! เราคบหากันครับ” คนที่ประหม่าเกินเหตุ เผลอพูดผิด ก่อนจะรีบเอ่ยแก้ด้วยสีหน้าแดงก่ำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)