จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 181

จางกั๋วเหาตกตะลึงไปทั้งตัว สีหน้าขาวซีด สั่นไปทั้งสองขา เหงื่อแตกเต็มหน้า ยืนอยู่กับที่ไม่กล้าขยับแม้แต่นิดเดียว

คนอื่นที่เหลือก็มีความรู้สึกสัมผัสถึงกลิ่นอายความตายที่น่ากลัวนั้นด้วย สถานการณ์ทุกอย่างเปลี่ยนเป็นเงียบสงัดทันที

ทุกคนต่างตกใจเบิกตาโต มองไปยังหลุมที่ซูหนันตกลงไป

หลินหยุนทำตาหรี่ลง ใช้สายตาจ้องมองไปยังหลุมนั้นด้วยความสนใจ ในที่สุดก็หลบซ่อนไม่ไหวแล้วใช่ไหม?

ทันใดนั้น มีมือที่เหี่ยวแห้งเหมือนเปลือกไม้ข้างหนึ่ง ยื่นออกมาจากหลุมนั้นแล้วจับขอบของหลุมนั้นไว้

โอ๊ย!

พวกบรรดาลูกพี่ใหญ่และลูกน้องทั้งหลายพร้อมใจกันถอยหลัง ส่งเสียงตกใจออกมามองไปยังมือที่ยื่นออกมานั้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เชิ่ง!

มีเงาร่างคนโผล่ออกมาจากหลุมดินนั้น ยืนอยู่บนพื้น สายตามืดดำทั้งคู่จ้องมองไปยังหลินหยุน ราวกับว่าเป็นสัตว์ร้ายที่หลบหนีออกมาจากขุมนรก

รูปร่างของเขาน่าเกลียดมาก ทั่วทั้งร่างกายเต็มไปด้วยเกล็ดสีเขียว หน้าตาดูไม่ได้ แต่ดูจากรูปทรงแล้ว ก็ยังสามารถจำได้ว่าเป็นซูหนันนั่นเอง

ทุกคนตกใจสีหน้าขาวซีด ถอยหลังไปอีกหลายก้าว

“นี่มันคือผีอะไร? ปีศาจเหรอ?”

พวกลูกพี่ใหญ่ทั้งหลายแอบปาดเหงื่อ สิ่งที่ได้รับรู้วันนี้ครอบคลุมความรู้ทั้งหมดที่พวกเขาเคยเรียนรู้มาในโลกใบนี้

ทุกคนไม่เคยคิดฝันมาก่อน เดิมทีโลกที่เรียบง่ายใบนี้ กลับปรากฏมีนักรบฝีมือยอดเยี่ยมที่เหาะเหินเดินอากาศปีนกำแพงอย่างเช่นในนวนิยายกำลังภายใน อีกทั้งยังมีปีศาจปรากฏขึ้นอีกด้วย

ใบหน้าของหลินหยุนก็ยังเรียบเฉย มองดูสภาพหลังเกิดการเปลี่ยนแปลงของซูหนันอย่างไม่รีบเร่ง หัวเราะเสียงเบาแล้วพูดว่า “ออกมาแล้วเหรอ?”

นี่เป็นคำพูดสองแง่สองง่าม ไม่รู้ว่ากำลังถามซูหนันออกมาจากหลุมนั้น หรือว่ามีความหมายอย่างอื่นแฝงอยู่

“ไอ้หนูน้อย แกก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง ถึงกับสามารถบีบให้ฉันออกมาได้!” เสียงของซูหนันแหบแห้งมาก แต่ทุกคนก็ฟังออกว่า นั่นเป็นเสียงของผู้หญิง

กลุ่มพวกลูกพี่ใหญ่และพวกลูกน้องทั้งหลายตกตะลึงอีกครั้งหนึ่ง

สถานการณ์เป็นอย่างไร? ทำไมกลายเป็นเสียงผู้หญิงไปแล้ว!

ก่อนหน้านั้นในการสนทนาระหว่างหลินหยุนกับซูหนัน เคยพูดออกมาคำหนึ่งว่าคุณไม่ใช่คุณ ซึ่งตอนนั้น หลินหยุนก็ดูออกแล้วว่าในร่างของซูหนันนั้นยังมีร่างของอีกคนหนึ่งแอบแฝงอยู่ด้วย

หลินหยุนรู้สึกเกิดความสนใจขึ้นแล้วถามขึ้นว่า “จะบอกฉันได้ไหมเกี่ยวกับที่มาที่ไปของคุณ?”

“ฮิฮิ แกกำลังจะตายอยู่แล้ว ยังคิดอยากจะรู้ความเป็นมาของฉันอีก น่าขำจริง!” เสียงผู้หญิงนั้นฟังแล้วน่าเกลียดมาก เหมือนเสียงที่เกิดจากเล็บกรีดลงบนกระจก

หลินหยุนสีหน้าเรียบเฉย “คุณคิดว่าคุณสามารถฆ่าฉันได้เหรอ?”

“ไอ้หนูน้อย ฉันยอมรับว่าแกมีพลังแข็งแกร่งมาก แต่ว่า แกคิดว่าแค่อาศัยการสืบทอดเศษเล็กเศษน้อยจากผู้ฝึกชี่ ก็สามารถต่อกลอนกับฉันได้เหรอ?”

“ฝันไปเถอะ!” ซูหนันแหงนหน้าขึ้นแล้วหัวเราะเสียงดัง ท่าทางยโสโอหัง

“ผู้ฝึกชี่?”

เป็นครั้งแรกที่หลินหยุนได้ยินคำศัพท์คำนี้

เมื่อชาติที่แล้ว เขาบรรลุการฝึกจิตปฐม จากสำนักต้าเต๋ากลับมายังโลกมนุษย์ ในโลกมนุษย์ก็บังเอิญได้ค้นพบร่องรอยของผู้บำเพ็ญเซียนจำนวนมากมาย

หลินหยุนจึงสงสัยว่า สมัยโบราณที่ผ่านมานานแสนนานในโลกใบนี้ จะต้องมีผู้บำเพ็ญเซียนปรากฏอยู่อย่างแน่นอน

แต่เสียดายที่หลินหยุนค้นหาไปทั่วโลกใบนี้แล้ว ก็ยังไม่พบผู้บำเพ็ญเซียนที่แข็งแกร่งเลย

หลินหยุนรู้สึกว่า อาจจะเป็นเพราะว่าผู้บำเพ็ญเซียนรู้สึกถึงพลังชี่ทิพย์ในโลกใบนี้ยิ่งมายิ่งเบาบางลงไปทุกที ดังนั้นจึงลาจากไป

โลกบู๊ในปัจจุบันนี้ ทำได้เพียงแค่ต่อยอดในส่วนที่ได้รับการสืบทอดจากผู้บำเพ็ญเซียนบางส่วนที่ทิ้งเอาไว้ให้

เมื่อคราวที่เขาเห็นซูหนันนั้น ก็พบว่าในร่างของซูหนันมีดวงวิญญาณอีกดวงหนึ่ง แอบแฝงอยู่ด้วย

สามารถที่จะใช้วิธีวิญญาณแอบแฝงอยู่ในร่างที่มีชีวิตได้นั่น ชาติก่อนอย่างน้อยก็ต้องได้รับฝึกจิตปฐมมาก่อน

แต่ว่า วิญญาณที่อยู่ในร่างซูหนันนั้น อย่างมากก็เป็นแค่วิญญาณเร่ร่อน พลังตอนนี้ยังไม่น่ากลัวเท่าไหร่

แต่ว่า สถานภาพของวิญญาณเร่ร่อนนี้ กลับทำให้หลินหยุนเกิดความสนใจอย่างมาก

อาจไม่แน่จากเรื่องของเธอ สามารถสืบค้นได้ว่าบนโลกใบนี้ในสมัยอดีตกาลที่ผ่านมานานแสนนานนั้น มันมีลักษณะเป็นอย่างไรกันแน่

ถ้าหากชาติที่แล้วหลินหยุนไม่ได้ถูกพาไปยังสำนักต้าเต๋า ไม่มีโอกาสใกล้ชิดกับพวกผู้บำเพ็ญเซียน หลินหยุนอาจจะไม่เชื่อเลยว่าในโลกใบนี้ยังมีผู้บำเพ็ญเซียนซึ่งเป็นเรื่องฝืนธรรมชาติเช่นนี้ปรากฏอยู่จริง

แต่ว่า ในเมื่อตัวหลินหยุนเองก็เป็นผู้บำเพ็ญเซียนคนหนึ่ง ดังนั้นทุกครั้งที่ศึกษาเกี่ยวกับเทพนิยายโบราณของโลกใบนี้ หลินหยุนมักจะมองเห็นสิ่งที่มันอยู่ในชั้นที่ลึกลงไปอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์