คำพูดของพี่เลย์ทำให้ฉันหยุดดิ้น ไม่มีทางปล่อยฉันไป อย่างนั้นเหรอ สุดท้ายแล้วเราก็ต้องถอนหมั้นกันอยู่ดีไม่ใช่หรือไง หรือพี่เลย์จะอยู่กับฉันไปจนกระทั่งแก่เฒ่า อยู่แบบไม่ได้รักกันเลยน่ะเหรอ
ไม่สิ เขาต่างหากที่ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลย
พี่เลย์อุ้มตัวฉันขึ้น แล้ววางให้ฉันให้นอนราบไปกับเตียง จากนั้นก็ขึ้นมาคร่อม
มือหนายกขึ้นมาปัดไรผมของฉันออก แล้วก้มหน้าลงมาใกล้ๆ ทำให้ฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ร้อนผ่าวของพี่เลย์ และรับรู้ได้ถึงกลิ่นของแอลกอฮอล์จางๆ จากลมหายใจของเขา
“เหม็นเหล้าค่ะ”
ฉันเบือนหน้าหนี แต่ก็ถูกจับหน้าให้หันกลับมาที่เดิมอยู่ดี
“เหม็นเหล้าหรือไม่อยากมองหน้าฉันกันแน่ ?” พี่เลย์ใช้สายตาข่มขู่ฉันอยู่
“ทั้งสองค่ะ อื้อ~”
พอตอบไปแบบนั้นริมฝีปากของฉันก็ถูกริมฝีปากหนาของพี่เลย์กดทับลงมา เขาบดขยี้จูบเบาๆ
“อื้อ~” ฉันร้องท้วงในลำคอพร้อมกับใช้มือทุบๆ บนแผงอกแกร่งเบาๆ จนกระทั่งพี่เลย์ยอมปล่อยให้ริมฝีปากของฉันเป็นอิสระ
“ฉันชอบ…” สายตาของพี่เลย์จ้องมองมาที่ริมฝีปากของฉัน “น่าสัมผัส”
เขาพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง แล้วเรื่องก่อนหน้านี้ที่มีปากเสียงกันล่ะ ทำไมอารมณ์ถึงได้เปลี่ยนไปมาแบบนี้กัน
“หวังว่าฉันจะไม่เห็นอะไรแบบวันนี้อีก” เมื่อออกคำสั่งเสร็จแล้ว สายตาของพี่เลย์ก็เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว “จะยุ่งกับใครก็คิดถึงหน้าผัวเอาไว้บ้างก็ดี”
‘ผัว’ เขาแทนคำนี้กับตัวเองอย่างนั้นเหรอ
“ไอริสขอกลับไปนอนที่บ้านนะคะ”
“ไม่ได้!!” พี่เลย์ลุกขึ้นไปจากตัวของฉัน แล้วเอ่ยบอกเสียงแข็ง
“มันจะดีกว่านี้นะคะถ้าพี่เลย์ไม่เอาแต่ออกคำสั่ง”
“มันจะดีกว่านี้ถ้าเธอเชื่อฟังฉัน” พี่เลย์พูดสวนคำพูดของฉันขึ้นมาทันควัน
ฉันทำหน้าบึ้งใส่เขา พี่เลย์ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาถอดเสื้อออกแล้วหันหลังให้เดินไปทางห้องน้ำ
หัวใจดวงน้อยมันกระตุกวูบเมื่อฉันมองเห็นรอยนั่นแดงบนแผ่นหลังของพี่เลย์ รู้ได้ทันทีว่ามันคือลอยเล็บ เป็นรอยไม่ยาวมากและไม่ชัดมากเท่าไหร่ แต่พอสังเกตได้
ไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาไปทำอะไรมา ทำยังไงดี ทำยังไงฉันถึงจะห้ามความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองเอาไว้ได้
หลังจากที่พี่เลย์เดินเข้าไปในห้องน้ำ ฉันก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมตัว สิ่งเดียวที่จะหยุดความคิดฟุ้งซ่านของฉันได้คือการนอนหลับ
ฉันพยายามข่มตานอนครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่หลับ เวลาผ่านไปนานพอสมควร จนกระทั่งพี่เลย์เดินออกมาจากห้องน้ำ ฉันจึงแสร้งหลับตาลงทำเหมือนคนที่หลับไปแล้ว
กริ๊ง~ เสียงโทรศัพท์ของพี่เลย์ดังขึ้น ก่อนที่พี่เลย์จะกดรับสาย
( มีอะไร ) เสียงทุ้มเข้มเอ่ยถามปลายสาย
ฉันตั้งใจฟังว่าพี่เลย์จะพูดอะไร อยากรู้ว่าใครโทรมา
( ถ้าฉันต้องการ ฉันจะเป็นคนบอกเอง ไม่ต้องมาเสนอ )
ฉันค่อยๆ เม้มปากเข้าหากันแน่นเมื่อได้ยินคำพูดของพี่เลย์ คนที่โทรมาคงจะเป็นผู้หญิงสักคนของเขานั่นแหละ
หลังจากที่ทุกอย่างกลับมาเงียบสนิทอีกครั้ง ที่นอนมันก็ยวบยาบพี่เลย์คงจะขึ้นมานอนแล้ว ในตอนนี้ฉันกำลังนอนตะแคงข้างอยู่
แต่!! ฉันก็ต้องตกใจเมื่อถูกพี่เลย์สวมกอด แถมยังขยับตัวมาแนบชิดติดกับตัวฉันเอามากๆ
“ฉันรู้ว่าเธอยังไม่หลับ”
“…..” เมื่อถูกท้วงแบบนี้มันก็ทำให้ฉันขยับตัวหนีออกมาจากอ้อมกอดของพี่เลย์ แต่ถูกเขารั้งเอาไว้
“จะขยับหนีทำไม” ริมฝีปากหนากดทับลงมาบนต้นคอของฉัน ทำให้ขนมันลุกซู่ไปทั้งตัว
“จะกอดทำไมล่ะคะ”
“ปกติฉันชอบนอนกอดหมอนข้าง”
“แต่ไอริสไม่ใช่หมอนข้าง”
“ก็แล้วเธอมานอนตรงที่ฉันวางหมอนข้างไว้ทำไม”
“ถ้าอย่างนั้นไอริสไปนอนที่อื่นก็ได้”
พูดจบฉันก็จะลุกขึ้น แต่!! พี่เลย์ไม่ยอมปล่อยให้ฉันลุกขึ้นได้เหมือนเดิม
“มันดึกแล้วนอนตรงนี้แหละ อย่าเรื่องมาก” ฉันกำลังจะอ้าปากตอบ แต่ถูกขัดขึ้นมาซะก่อน “ถ้าเธอไม่ยอมนอน ก็ไม่ต้องนอนทั้งคืน”
คำพูดนี้ทำเอาฉันต้องปิดปากเงียบเพราะเข้าใจความหมายของคำว่า ‘ไม่ต้องนอนทั้งคืน’
ระหว่างทางไปมหาวิทยาลัยฉันกับพี่เลย์ต่างเงียบ จนกระทั่งฉันเห็นพี่เลย์ขับเลยทางเลี้ยวเข้ามหาวิทยาลัย จึงหันไปถามเขา
“จะพาไปไหนอีกคะ ไอริสมีเรียนเช้านะ”
“ไปที่บ้านเธอ แป๊บเดียวไม่นานหรอก”
“ไปทำไมคะ ?”
คำถามของฉันไม่ได้รับการตอบกลับ แต่ฉันก็ไม่ได้วุ่นวายถามอะไรต่อ เพราะพี่เลย์บอกจะพาไปที่บ้านจึงไม่ได้คิดอะไรมาก
#บ้านของฉัน
พอมาถึงที่บ้านพี่เลย์ก็เดินขึ้นชั้นบนไปยังห้องนอนของฉัน ทำให้ฉันต้องรีบวิ่งตามเขาไป
“ขะ เข้ามาในห้องไอริสทำไมคะ”
“เธอเก็บแหวนหมั้นไว้ตรงไหน ?” พี่เลย์ขมวดคิ้วถาม
“อยากรู้ทำไมคะ” ฉันถามกลับ
“บอกมา !!” พี่เลย์เห็นว่าฉันไม่ยอมบอกเขาจึงกระชากเสียงใส่
“ไม่ค่ะ ไอริสไม่บอก”
“ได้!! ฉันหาเองก็ได้”
พี่เลย์เดินไปค้นของบนโต๊ะเครื่องแป้ง เขาค้นของจนมันกระจัดกระจายไปหมด
“พี่เลย์ ทำบ้าอะไรหยุดนะคะ” ถึงจะห้ามแต่พี่เลย์ก็ไม่ยอมฟัง
พี่เลย์เดินค้นหาไปจนทั่วห้องแถมยังรื้อข้าวของกระจัดกระจายเต็มไปหมด ฉันห้ามก็ไม่ฟัง จนกระทั่งพี่เลย์เดินมาหยุดตรงโต๊ะข้างๆ กับเตียง เขาเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักออก ด้านในนั้นมีแหวนหมั้นที่ฉันถอดเอาไว้วางอยู่ พี่เลย์หยิบมันขึ้นมา
ฉันถอยหลังหนีช้าๆ เมื่อเห็นสายตาอำมหิตของพี่เลย์ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นอะไร จู่ๆ ถึงได้เหมือนหมาบ้าคลั่งขนาดนี้
หมับ!! ถอยหนียังไงสุดท้ายพี่เลย์ก็พุ่งมาคว้าจับมือของฉันเอาไม้ได้อยู่ดี มือของฉันถูกยกขึ้นมา จากนั้นพี่เลย์ก็ยัดแหวนหมั้นใส่นิ้วให้ฉัน แถมยังยัดใส่แบบแรงเอามากๆ รอยขูดจากแหวนทำให้นิ้วของฉันมีรอยแดง
“ถ้าฉันเห็นว่าเธอถอดมันออก ได้เห็นดีกันแน่!!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ว่าที่ 'เมีย' | Hate love Nc20+