เช้าวันต่อมา แสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาในห้องเป็นเหมือนกับนาฬิกาปลุกให้ฉันลืมตาตื่นขึ้น
วันนี้ไม่มีอาการคลื่นไส้อะไร แต่แปลกที่เมื่อวานมันแสดงอาการออกมาแบบนั้น แถมยังเป็นต่อหน้าพี่เลย์
ฉันก้มลงแล้วใช้มือลูบท้องตัวเองไปมา คงเป็นฝีมือของตัวแสบในท้องแน่ๆ
“หนูคงไม่คิดจะทำให้พ่อเขารู้หรอกนะว่าแม่ไม่ได้แท้งจริงๆ”
“ที่ผ่านมาแม่เจ็บ เจ็บเพราะเขา…แม่จะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้หนูเองนะลูก”
ฉันนั่งบ่นกับลูกสักพักก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว เมื่อทำอะไรเสร็จแล้วก็ลงมาชั้นล่าง และเพิ่งคิดได้ว่าพี่เลย์พูดไว้เมื่อวานว่าเขาจะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน
“พี่โจ้คะ” ฉันเรียกพี่โจ้เพราะเห็นว่าเขาเดินผ่านมาพอดี
“ว่าไงครับคุณหนู”
“เขากลับไปหรือยังคะ” เขาที่ฉันพูดถึงคือพี่เลย์ แต่ไม่อยากจะพูดชื่อ ฉันเลยแทนว่าเขาและพี่โจ้ก็เข้าใจ
“ยังครับ นอนอยู่ในรถ”
เมื่อได้ยินคำตอบของพี่โจ้ก็ทำให้ฉันถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่
“ไปจัดคนคอยเฝ้ามันไว้อย่าให้คลาดสายตา ถ้ามันเข้ามาวุ่นวายกับน้องกูเมื่อไหร่ ยิงมันทิ้งได้เลย” เสียงของเฮียออกคำสั่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของฉัน
“เฮียจะไปบริษัทเหรอคะ” ที่ฉันถามแบบนี้ก็เพราะว่าเห็นเฮียสวมใส่ชุดสูทสำหรับเข้าบริษัท
“วันนี้มีประชุม ต้องเคลียร์งานที่บริษัทกว่าจะกลับมาบ้านคงดึก” เฮียเดินมาหยุดตรงหน้าของฉัน ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบศีรษะเบาๆ “ห้ามออกไปนอกบ้าน รู้ใช่ไหม ?”
“รู้ค่ะ หนูจะอยู่แค่ในบ้าน จะไม่ออกไปไหน”
เฮียพยักหน้า จากนั้นก็เดินออกไปจากบ้าน ส่วนฉันก็เดินเลี่ยงมาที่ห้องนั่งเล่นแล้วเปิดทีวีดูแก้เบื่อ พร้อมกับคุยแชตกับเมลไปด้วย เมลรู้เรื่องที่ฉันเลิกกับพี่เลย์ แต่ไม่รู้ว่าฉันท้อง เพราะฉันยังไม่ได้บอกเรื่องนี้รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมกว่านี้ก่อนคงจะดีกว่า ฉันขี้เกียจต้องมาคอยตอบคำถามมากมายในเวลานี้
“คุณหนูจะกินอะไรไหมครับ ผมจะสั่งพ่อครัวให้” พี่โจ้เดินมาถามฉัน
“ขอเป็นข้าวต้มกุ้งแล้วกันค่ะ ขอกุ้งเยอะๆ เลยนะคะ ขอชามใหญ่ๆ ด้วย ^_^”
“เจริญอาหารจังเลยนะครับช่วงนี้”
“ลูกแย่งกินหมดต่างหากค่ะ ^_^”
“เอาอย่างเดียวนะครับ ?”
“ขอพวกผลไม้เปรี้ยวๆ ด้วยนะคะ วันนี้รู้สึกอยากกินอะไรเปรี้ยวๆ เป็นพิเศษ”
“ได้ครับ”
พอรับคำสั่งแล้วพี่โจ้ก็เดินไป สวนทางกับคุณจอแดนที่เดินมาพอดี
“คุณจอแดน จะเข้ามาไม่เห็นบอกกันเลยคะ”
“ผมต้องบอกก่อนเหรอครับ ก่อนหน้านี้ผมก็มาได้ไม่เห็นต้องบอก” คุณจอแดนพูดเหมือนกำลังไม่พอใจฉันอยู่
“ไอริสทำอะไรให้ไม่พอใจหรือเปล่าคะ”
“ทำไมถึงยอมให้มันอยู่ที่นี่ครับ”
แน่นอนว่า ‘มัน’ ที่ว่าคงไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากพี่เลย์
“ใจเย็นๆ ก่อนสิคะ ไอริสกับเฮียไล่เขาไปแล้วแต่เขาไม่ยอมกลับ”
“ไม่ใช่ว่ายอมใจอ่อนให้มันหรอกนะครับ”
วันนี้คุณจอแดนเขาอารมณ์ร้อน และเกรี้ยวกราดมากกว่าทุกครั้งที่ฉันเคยเห็น ปกติเขาจะเป็นคนใจเย็นมากๆ แต่วันนี้ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ถึงได้หงุดหงิดมากขนาดนั้น
“ถ้ามันมาเฝ้าแบบนี้โดยไม่สนใจที่ไอริสบอกว่าจะแต่งงานกับผม ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องแต่งงานกันจริงๆ แล้วนะครับ มันจะได้เลิกวุ่นวาย”
“……”
“ผมอยากช่วยทำให้มันไปให้พ้นๆ และไม่สนว่าคนอื่นจะมองยังไง”
“ขอบคุณนะคะ แต่เรื่องแต่งงานมันเป็นเรื่องใหญ่ อีกอย่างตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าคุณจอแดนกับไอริสไม่ได้จะแต่งงานกันจริงๆ เขารู้ว่าเราโกหก”
“มันรู้ ?”
“ค่ะ ไอริสก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขารู้ได้ยังไง”
“แต่เราก็ยังแต่งงานกันได้ไม่ใช่เหรอครับ ถ้าแต่งงานจริงๆ ยังไงมันก็ต้องเชื่อ ถึงตอนนั้นมันเลิกยุ่งกับไอริสแน่ๆ”
ฉันรู้แล้วว่าทำไมคุณจอแดนถึงหงุดหงิดแบบนี้ คงเป็นเพราะเขายังรู้สึกกับฉันมากกว่าน้องสาว
“ไอริสรู้นะคะว่าคุณจอแดนโกรธที่เห็นเขาอยู่ที่นี่ ถึงได้เป็นแบบนี้”
“สมุดฝากครรภ์ที่ลืมไว้ครับ ผมลืมเอามาคืนให้” คุณจอแดนเอาสมุดฝากครรภ์ยื่นมาให้ฉัน ทำให้ฉันคิดขึ้นมาได้ว่าลืมไว้ที่รถของคุณจอแดนนานแล้ว นี่ถ้าไม่เอามาให้ฉันก็ยังคิดไม่ได้นะเนี่ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ว่าที่ 'เมีย' | Hate love Nc20+