ด้วยความที่ฉันดิ้นไปมาจึงทำให้เสียหลักล้มลงบนเตียง และในตอนนี้พี่เลย์ก็กำลังคร่อมร่างของฉันอยู่
ฉันรีบใช้มือดันแผงอกแกร่งเอาไว้เพื่อกันไม่ให้พี่เลย์โน้มตัวลงมา
“ลุกขึ้น!!”
ฉันบอกออกไปเสียงแข็ง แต่พี่เลย์กลับยิ้มระรื่นอยู่ ทำเหมือนไม่ได้ยินที่ฉันสั่ง
“ฉันบอกให้ลุกขึ้นไปไง!!” ฉันตวาดเบาๆ จะพูดเสียงดังก็ไม่ได้เดี๋ยวเฮียได้ยินเรื่องได้ยุ่งแน่ๆ
“ทำไม กลัวหวั่นไหวกับฉันหรือไง” พี่เลย์ยิ้มแล้วพูดออกมาอย่างไม่อายปาก
“คนเลวๆ แบบคุณฉันไม่เสียเวลาไปหวั่นไหวด้วยหรอก”
“เธอก็เคยรักฉัน หลงฉัน….”
“หยุดเอาเรื่องอดีตมาพูดสักที”
จู่ๆ พี่เลย์ก็โน้มใบหน้าลงมา เขาใช้มือประคองศีรษะของฉันเอาไว้เพื่อไม่ให้เบือนหน้าหนีไปไหนได้
“ฉันเลิกนิสัยแบบนั้นแล้วจริงๆ เธอไม่ต้องเชื่อก็ได้ แค่เปิดโอกาสให้ฉันได้พิสูจน์ว่าที่ฉันพูด ฉันจริงจัง”
“……”
ฉันไม่ได้ตอบอะไร เมื่อจ้องมองไปที่ดวงตาคู่นั้นก็เหมือนว่าตอนนี้ตัวฉันกำลังตกอยู่ในวังวนอะไรบางอย่าง ทั้งที่อยากผลักไสแท้ๆ แต่มือกลับไม่ยอมดันเขาออกไป
พี่เลย์ค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมา ในตอนนี้ริมฝีปากของฉันกับเขามันแทบจะชนกัน ฉันได้แต่นอนตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับ
“อึก~”
พี่เลย์ผละตัวออก เขารีบยกมือขึ้นมาปิดปาก จากนั้นก็วิ่งไปเข้าห้องน้ำแล้วอ้วกออกมา เสียงอ้วกของพี่เลย์ทำให้ฉันเป็นกังวลกลัวว่าเฮียจะได้ยินเข้า
ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งแล้วเอามือลูบใบหน้าของตัวเองไปมาเพราะรู้สึกว่ามันกำลังร้อนผ่าว เมื่อกี้ฉันเกือบจะจูบกับพี่เลย์อย่างนั้นเหรอ ทำไมถึงยอม ทั้งที่ควรผลักเขาออกไป บ้าที่สุด
พี่เลย์อ้วกประมาณห้านาทีได้ เขาเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างคนที่หมดสภาพ ใบหน้าซีดเผือด
“ฉันหิวข้าว ตั้งแต่เมื่อวานยังไม่ได้กินอะไร แถมเอาแต่อ้วก” น้ำเสียงของพี่เลย์มันแผ่วเบา เขาพูดเหมือนคนไม่ค่อยมีแรงก่อนจะทรุดตัวนั่งกอดหมอนที่หน้าห้องน้ำ
“หิวข้าวแล้วมาบอกฉันทำไม” ฉันทำเสียงแข็งตอบกลับไป
“เธอช่วยเอาข้าวมาให้ฉันกินหน่อยได้ไหมไอริส ฉันหิวจริงๆ” ไม่พูดเปล่าครั้งนี้พี่เลย์เอามือลูบๆ ท้องของตัวเองเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขานั้นหิวขนาดไหน
“จ้างให้ฉันก็ไม่มีทางไปเอาข้าวมาให้คุณกินแน่ๆ อดตายไปเถอะ ใครใช้ให้มาอยู่ที่นี่”
“ใจร้าย”
พี่เลย์ค่อยๆ ล้มตัวลงนอน เขานอนหน้าห้องน้ำตามคำสั่งของฉัน ฉันมองสักพักก่อนจะลุกขึ้นไปปิดไฟ แต่ยังไม่ทันที่นิ้วจะแตะสวิตช์ไฟเสียงท้องร้องก็ดังขึ้นมา ทำให้ฉันหันมองพี่เลย์ทันที
“…ฉันหิวจริงๆ นะ”
ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างรำคาญ ก่อนจะออกคำสั่ง “ไปหลบในตู้เสื้อผ้า ฉันจะออกไปเอาข้าวให้”
พี่เลย์ทำตามอย่างว่าง่าย พอเห็นว่าเขาเข้าไปในตู้เสื้อผ้าแล้วฉันจึงเปิดประตูเดินลงมายังชั้นล่าง พอมาถึงครัวฉันก็ตักข้าวใส่จานแล้วก็ตักกับข้าวราดๆ
“ทำอะไร”
“ฮะ เฮีย…” ฉันสะดุ้งโหยงจานข้าวในมือแทบจะหล่นลงพื้นเมื่อเห็นว่าเฮียกำลังยืนมองอยู่
“คะ คือหนู หนูหิวข้าวค่ะ”
“ทำไมไม่สั่งให้คนจัดโต๊ะอาหาร จะตักใส่จานแบบนั้นทำไม ?”
“หนูอยากเอาขึ้นไปกินบนห้องมากกว่านี่คะ”
“กินข้าวในห้อง ?” เฮียขมวดคิ้วอย่างไม่เชื่อ แหงสิ ปกติฉันไม่เคยกินข้าวบนห้อง ยิ่งตักใส่จานแบบนี้ยิ่งไม่เคยเลย
“หนูแพ้ท้องนี่คะ รู้สึกเบื่อที่ต้องนั่งกินที่โต๊ะอาหาร” เมื่อรู้ว่าเฮียกำลังสงสัยฉันจึงรีบเอาลูกมาอ้าง เพราะมันจะทำให้เฮียคลายความสงสัยได้ แต่ก็ได้ผล “ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจ”
“หนูขึ้นห้องแล้วนะคะ”
“อื้ม” เฮียพยักหน้าตอบ ฉันจึงรีบขึ้นห้องทันที
เมื่อมาถึงในห้องฉันก็จัดการล็อกให้เรียบร้อยพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก พี่เลย์คงได้ยินเสียงเขาจึงเปิดตู้เสื้อผ้าออกมา
“เอาไปกิน” ฉันยื่นจานข้าวให้พี่เลย์
“ขอบคุณนะ” พี่เลย์ยิ้ม จากนั้นเขาก็นั่งลงกินข้าวกับพื้น นี่คือครั้งแรกที่ฉันได้เห็นสภาพแบบนี้ของเขา
“แล้วเธอล่ะ กินข้าวหรือยัง”
“กินแล้ว” ฉันโกหกเพราะไม่อยากถูกถามจู้จี้
“เมื่อไหร่ ?” พี่เลย์ขมวดคิ้วถามกลับอย่างไม่เชื่อ
“บอกว่ากินแล้วก็กินแล้ว จะถามมากทำไม รีบๆ กินฉันจะนอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ว่าที่ 'เมีย' | Hate love Nc20+