ความแค้นกับความตายแตกต่างกัน
ความตายเหมือนหมึกเข้มที่ไม่ละลายหนาจนไม่สามารถเทียบได้ ทำให้คนรู้สึกกดดัน เพียงแค่ตายคนถึงจะปรากฏเป็นจำนวนมาก
ส่วนความแค้นก็หมายถึงคนตายที่ตายโหง
สำหรับคนที่ตายแบบนี้วิญญาณของพวกเขาไม่สามารถอยู่เหนือความตายได้ พอนานเข้าก็จะกลายเป็นแรงแค้นแรงอาฆาต
แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นความตายหรือความแค้นคนทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้ มีแค่คนที่ผู้เชี่ยวชาญพิเศษถึงจะมองเห็น
สีหน้าเยี่ยชิวเคร่งขรึมเล็กน้อย
เท่าที่ตาสามารถมองเห็นได้
ที่เขาเห็นคือแรงแค้นแรงอาฆาตเต็มไปหมด ซึ้งนี้หมายความว่าตามทางหุบเขาลึกนี้มีวิญญาณที่ตายโหงเป็นจำนวนมาก
ถึงแม้ว่าในแม่น้ำจะมีวิญญาณเป็นเรื่องปกติเพราะทุกปีก็มักจะมีคนไม่ระวังตกน้ำและจมน้ำตายแต่ว่าแรงอาฆาตเยอะขนาดนี้เยี่ยชิวพึ่งจะเคยเห็นครั้งแรก
โดยเฉพาะบริเวณมุมของหุบเขาตรงนั้นเป็นที่โล่งมีแรงอาฆาตล้นหลามเป็นอย่างมาก
กลุ่มแรงอาฆาตสีดำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆเหมือนวิญญาณแต่ละตัวกำลังดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตาย
"ฟู่ว~"
ลมเย็นพัดมา
"ฮัดชิ้ว——"
อมตะชางเหม่ยจามและพูดว่า"เจ้าเด็กเหลือขอ สถานที่ตรงนี้ดูมีความผิดปกติ
เยี่ยชิวรีบถาม"ไอ่แก่เห็นอะไรหรอ?"
อมตะชางเหม่ยพูด"วรยุทย์ระดับฉันในปัจจุบันอย่าว่าแต่ลมเย็นเลยต่อให้รอในห้งเย็นสองชั่วโมงฉันก็ไม่จามหรอก แต่สถานที่แห่งนี้ดูผิดปกติ"
"เมื่อกี้ที่ลมพัดผ่านมาขนฉันลุกเลย"
"สถานที่แห่งนี้แปลกๆ"
อมตะชางเหม่ยถามเซียวจ้าน"เจ้าหนู อีกนานแค่ไหนจะถึงจุดหมายปลายทาง?"
เซียวจ้านชี้ไปทางมุมด้านหน้าของหุบเขาพูดว่า"บริเวณมุมด้านหน้านั้นจะมีแม่น้ำจยาหลิงแยกเป็นสาย มีชื่อว่าหุบเขาเฉินหลง เดินไปตามหุบเขาเฉินหลงไปห้ากิโลเมตรพวกเราก็จะถึงแล้ว"
อมตะชางเหม่ยเตือนเยี่ยชิว"เจ้าเด็กเหลือขอมีสติหน่อย ฉันรู้สึกมีลางสังหรณ์รอบนี้พวกเราคงจะพบเจออันตราย"
เยี่ยชิวกรอกตาขาวประโยคนี้ตอนข้ามเขาอูซานเขาก็เคยพูดกับอมตะชางเหม่ยมาแล้วแต่ในเวลานั้นไอ่แก่นี้กลับไม่ใส่ใจอะไรเลยคิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะเปลี่ยนมาเตือนฉันแทน
แต่ว่าเยี่ยชิวก็รู้สึกถึงว่าการเดินทางรอบนี้ไม่สงบสุขแน่นอน
ผ่านไปไม่กี่นาที
เรือสปีดโบ๊ทมาถึงมุมหุบเขา
อมตะชางเหม่ยจ้องไปบริเวณยอดเขาทั้งสองฝั่งไม่ละสายตาในการสำรวจจู่พูดว่า"เอ๋?"
เยี่ยชิวถาม"เกิดอะไรขึ้น?"
"ที่นี้ถึงแม้จะมีทิวทัศน์ที่สวยงามแต่ตามหลักฮวงจุ้ยที่นี้เป็นสถานที่อับจน การที่ถูกฝังอยู่ที่นี้จะตัดขาดจากลูกหลานไม่มีทางที่จะมีสุสานที่ใหญ่ขนาดนี้"อมตะชางเหม่ยถามเยี่ยชิว"นายกำลังโกหกฉันใช่ไหม?"
เยี่ยชิวพูด"จะเป็นไปได้ยังไง ฉันโกหกใครก็ได้แต่ไม่มีทางโกหกท่านแน่นอน"
"จริงหรอ?"อมตะชางเหม่ยไม่เชื่อเล็กน้อย
"จริงสิ"เวลาที่เยี่ยชิวพูดยังมองตาอมตะชางเหม่ยไม่รู้สึกหน้าแดงหรือใจเต้นเลย
หรือว่าข้าคิดผิด?
อมตะชางเหม่ยคิดไตร่ตรองสักพักพูดว่า"เรื่องแปลกประหลาดเกี่ยวกับฮวงจุ้ยมีบบนโลกมากมาย แต่ก่อนข้าเคยเห็นบางกรณีในหนังสือฮวงจุ้ย บางสุสานใหญ่ก็สร้างบริเวณอับจน"
"แบบนี้ก็สามารถหลอกพวกโจรปล้นสุสานได้"
อมตะชางเหม่ยพูดถึงตรงนี้ก็พูดกับเยี่ยชิวอย่างโหดเหี้ยมว่า"เจ้าเด็กเหลือขอ ถ้าแกกล้าโกหกฉันลก็ ฉันจะถลกหนังแกทิ้งเลย"
พูดจบอมตะชางเหม่ยก็ล้วงเอาเข็มทิศออกมาจากแขนเสื้อ
ปากพลางท่องคาถาไปด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...