"วรยุทธ์ระดับราชาระยะกลาง!"
ชงซวีเต้าเหรินตกตะลึงอย่างมาก
เดิมทีเขาคิดว่าการพัฒนาบรรลุขั้นวรยุทธ์ของเขานั้นรวดเร็วมากแล้ว ทว่าคิดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยชิวจะรวดเร็วกว่าเขามาก
"เป็นไปได้ยังไง?"
อมตะชางเหม่ยรู้สึกเหลือเชื่อ
หลังจากครั้งสุดท้ายที่เขาเพิ่งได้เจอกับเยี่ยชิวก็เพียงหนึ่งเดือนกว่าๆ เท่านั้น เยี่ยชิวตอนนั้นเป็นเพียงผู้มีวรยุทธ์ระดับรากฐานเท่านั้น ทำไมจู่ๆ ถึงได้กลายเป็นยอดฝีมือระดับราชาระยะกลางได้ในเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น?
"หรือเจ้าหมอนี่จะพบเจออะไรดีๆ เข้า?"
ทันใดนั้นเอง อมตะชางเหม่ยก็นึกถึงดอกบัวหิมะหมื่นปีนั่นขึ้นมา
"จะต้องเป็นเพราะฤทธิ์ของบัวหิมะหมื่นปีนั่นแน่ๆ ไม่งั้นเจ้าหมอนี่คงไม่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดแบบนี้อย่างแน่นอน"
บนพื้น
แววตาของนางฟ้าไป๋ฮวาเปล่งประกายระยิบระยับ
"ระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือนกว่าเท่านั้น เขาก็บรรลุขั้นและพัฒนาวรยุทธ์ไปอย่างก้าวกระโดด การบรรลุที่รวดเร็วเช่นนี้ร้ายกาจยิ่งกว่าใครในโลกนี้เสียอีก"
"ไม่แน่อนาคตเขาอาจช่วยฉันตามหาฆาตกรที่ฆ่าอาจารย์ได้ก็เป็นได้"
เยี่ยชิวยืนอยู่กลางอากาศด้วยแสงสีทองที่เปล่งประกายแวววาว พลังมังกรเจ็ดสิบสองวิถีที่ล่องลอยไปมาทำให้เขาดูเหมือนเทพเจ้าที่ทรงพลังคนหนึ่ง
ทุกคนต่างพากันตกตะลึง
"สุดยอดมาก!"
"เพียงแค่กระบวนท่าเดียวก็จัดการเจ้าสำนักอู่ตานและสำนักหลงหู่ซานได้ โคตรเจ๋งเลย!"
"เรียกว่าเป็นเทพเซียนก็ว่าได้!"
"......."
เยี่ยชิวมองลงไปที่อมตะชางเหม่ยและชงซวีเต้าเหรินและกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ทั้งสอง พวกท่านแพ้แล้ว ยังจะแข่งขันต่อไปอีกไหม?"
ชงซวีเต้าเหรินยกมือโบกไปมา "ไม่จำเป็นต้องแข่งขันอะไรอีกแล้ว วรยุทธ์ของคุณเยี่ยโดดเด่นเหนือความคาดหมาย ข้าไม่มีทางเอาชนะได้แน่"
"ไม่แข่งแล้ว ข้ายอมแพ้" อมตะชางเหม่ยเองก็กล่าวขึ้นมา
ยังจะแข่ง? ถูกจัดการจนไม่เหลือชิ้นดีแน่
"ในเมื่อทั้งสองต่างยอมแพ้แต่โดยดี งั้นผมจะพูดเงื่อนไขของผมเลยแล้วกัน" เยี่ยชิวกล่าว "ผมอยากให้ทั้งสองคนไปเฝ้าอยู่ที่เทือกเขาคุนหลุนเป็นเวลาหนึ่งปี!"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ แววตาของเทพสงครามก็เปล่งประกาย
จนถึงตอนนี้เขาก็เพิ่งเข้าใจว่าที่แท้เยี่ยชิวก็วางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้วและรอให้พวกเขาสองคนปฏิเสธไม่ได้
"ไม่ได้!" อมตะชางเหม่ยกล่าว "ข้าบอกแล้วไงว่าข้าจะไม่ไปเหยียบสถานที่ห่างไกลความเจริญแบบนี้อีก"
ชงซวีเต้าเหรินเองก็พูดขึ้นมา "คุณเยี่ย สำนักอู่ตานยังมีเรื่องราวมากมายให้ข้าต้องจัดการ ข้าเกรงว่าจะเดินทางไปที่เทือกเขาคุนหลุนไม่ได้"
"ดูเหมือนว่าแม้ทั้งสองจะยอมแพ้แล้ว แต่กลับไม่ได้รู้สึกยอมจากในจริงสินะ!" เยี่ยชิวพูดจบก็หยิบแส้วิเศษขึ้นมา
ทันใดนั้นเอง ตาของชงซวีเต้าเหรินและอมตะชางเหม่ยก็กระตุก
"เยี่ยชิว เจ้าคิดจะทำอะไร?"
"คุณเยี่ย เรามีอะไรมาพูดคุยกันดีๆ จะดีกว่า"
เยี่ยชิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม "คนอย่างผมเป็นคนยึดมั่นในคำพูดมาเสมอ ในเมื่อทั้งสองยังไม่ยอมงั้นผมก็จะทำให้พวกคุณยอมให้ได้"
เพี๊ยะ!
เพี๊ยะ!
เยี่ยชิวฟาดแส้ลงมือกลางอากาศและทันใดนั้นเอง อมตะชางเหม่ยและชงซวีเต้าเหรินก็กระเด็นลอยออกไป
เยี่ยชิวขยับตัวไปข้างหน้าและฟาดแส้ลงไปอีกสองครั้ง
เพี๊ยะ!
เพี๊ยะ!
ทั้งสองที่เป็นถึงเจ้าสำนักและมีวรยุทธ์ระดับราชาต่างก็ต้านทานแส้วิเศษนี้ไม่ได้
อมตะชางเหม่ยตะคอกด้วยความโกรธ "เจ้าไม่มีจรรยาบรรณการต่อสู้เอาเสียเลย ถ้าแน่จริงก็อย่าใช้แส้วิเศษสิ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...