เมื่ออมตะชางเหม่ยเห็นว่าเยี่ยชิวกำลังจ้องมอเขาอยู่ เขาก็รู้สึกไม่สบายใจและถามว่า:“เจ้าเด็กเหลือขอ ตัวข้าก็ไม่ใช่สาวงาม เจ้าจะมาจ้องข้าทำไม?”
เยี่ยชิวพูดกลับว่า:“ข้าเอาหินวิญญาณไป เจ้าไม่มีข้อโต้แย้งอะไรเลยหรอ?”
ได้ยินดังนั้นอมตะชางเหม่ยจึงตอบกลับว่า:“ไม่นิ”
เยี่ยชิวกล่าวว่า: "ฉันเอาหินวิญญาณออกไป คุณมีข้อโต้แย้งหรือไม่?"
อาจารย์หลงเหม่ยโพล่งออกมา: "ไม่มีการคัดค้าน"
เอิ่ม?
อยู่ๆความสงสัยของเยี่ยชิวก็เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ เพราะเขารู้จักอมตะชางเหม่ยเป็นอย่างดี ชายชราคนนี้เป็นคนโลภที่จะเก็บเงินมาก เขาจะไม่มีการคัดค้านได้อย่างไร?
“เจ้าไม่มีโต้แย้งจริงๆ หรือเจ้ากำลังโกหก?” เยี่ยชิวถามอีกครั้ง
“ข้าไม่โต้แย้งจริงๆ” อมตะชางเหม่ยยังกล่าวต่อว่า:“เมื่อตอนที่เจ้าจัดการกับเจียงเฟงนั้น ข้าก็ไม่ได้ไปช่วย ดังนั้นข้าจะไม่แย่งหินวิญญาณจากเจ้า”
ไม่สิ มันมีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง
เพราะเยี่ยชิวนั้นรู้จักงชายชราคนนี้เป็นอย่างดี ถ้าไม่มีเหตุอะไรบางอย่าง ชายชราคนนี้จะไม่ยอมรับผิดแน่ๆ
เป็นไปได้ไหมที่ชายชรานี้ได้เจอสมบัติดีๆ ในบ้านหลังแห่งนี้?
“เอาออกมา!”
จู่ๆเยี่ยชิวก็ตะโกนขึ้น ทำให้อมตะชางเหม่ยสะดุ้งด้วยความตกใจ เขารีบหยิบกล่องไม้สี่เหลี่ยมออกมาจากแขนเสื้อของลัทธิเต๋าของเขา
เป็นไปตามที่คิดไว้
เยี่ยชิวคว้ากล่องไม้แล้วเปิดฝา ทันใดนั้น กลิ่นหอมอันแรงกล้าก็พุ่งเข้าจมูกของเขา
ภายในกล่องมียาเม็ดสีเข้ม
และในนั้นยังมีกระดาษสีน้ำตาลแผ่นหนึ่งอยู่ใต้ยาอายุวัฒนะ โดยมีข้อความเล็กๆ เขียนไว้ด้วย
“เม็ดยาดูดจิตวิญญาณ เกรดสีเหลืองเกรดต่ำ!”
เมื่อเยี่ยชิวเห็นดังนั้น เขาก็โกรธมาก:“เจ้าเป็นคนดีมาก เป็นคนดีแต่จริงๆ ดีซะจนแอบเก็บยาอายุวัฒนะไว้”
อมตะชางเหม่ยพูดอย่างหน้าตายว่า:“ข้าเป็นคนหาบ้านสมบัตินี้เจอ ไม่ต้องพูดถึงยาเม็ดนี้หรอก แม้ว่าข้าจะเอาสมบัติทั้งหมดในบ้านนี้ไปก็ยังได้”
“ข้าอยากได้ยาอายุวัฒนะนี้”เมื่อเยี่ยชิวพูดจบ เขาก็เอายาใส่ลงไปในถุงเฉียนคุน
อมตะชางเหม่ยกล่าวต่อว่า:“เจ้าเด็กเหลือขอ เจียงเฟิงและลูกชายของเขาตายไปแล้ว พวกเราไปกันเถอะ!”
“ไปกันเถอะ?”เยี่ยชิวเหลือบมองไปที่อมตะชางเหม่ยและถามว่า:“ข้าเอายาอายุวัฒนะเจ้ามาแล้ว เจาไม่มีข้แโต้แย้งจริงๆหรอ?”
อมตะชางเหม่ยยิ้มและพูดว่า:“เราเป็นพวกเดียวกัน ข้าจะอะไรกับเรื่องแค่นี้ล่ะ”
“ตาเฒ่า เจ้าหักมีน้ำใจตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”เยี่ยชิวยิ้มและพูดขึ้นว่า:“เอาออกมา!”
“เอาอะไรออกมา?”อมตะชางเหม่ยทำเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร
เยี่ยชิวพูดขึ้นอีกครั้งว่า:“หยุดเสแร้ง เอาของออกมา”
อมตะชางเหม่ยตอบกลับว่า:“ข้าก็เอาหินวิญญาณกับยาอายุวัฒนะให้เจ้าไปแล้วไง ข้าจะมีอะไรอีกล่ะ...”
“หยุดพูดไร้สาระแล้วเอาของออกมาเร็วๆ ไม่อย่างนั้นอย่าโทษข้าที่เฆี่ยนตีเจ้านะ” เมื่อเยี่ยชิวพูด เขาก็หยิบแส้วิเศษออกมาด้วยสีหน้าดุร้ายบนใบหน้าของเขา
ใบหน้าของอมตะชางเหม่ยเปลี่ยนไปด้วยความหวาดกลัว และเขาพูดอย่างกล้าๆกลัวๆว่า:“สุภาพบุรุษจะเจรจาและไม่ใช้กำลัง เจ้าเด็กเหลือขอ มีอะไรเรามาพูดกันดีๆเถอะ”
เยี่ยชิวพูดขึ้นอีกครั้งอย่างไม่สนใจ:“รีบเอาออกมา”
จากนั้น อมตะชางเหม่ยก็หยิบกล่องไม้อีกใบออกมาจากแขนเสื้อของลัทธิเต๋าอย่างไม่เต็มใจ และส่งให้กับเยี่ยชิว
เมื่อเยี่ยชิวเปิดมันออก เขาก็เห็นยาเม็ดกลมอีกเม็ดหนึ่ง สีเขียวราวกับไข่มุกและเต็มไปด้วยออร่า
“นี่คือ... ยาพลังชีวิต?”
เยี่ยชิวจำมันได้ทันที เพราะเม็ดยานี้เหมือนกับที่นางฟ้าไป๋ฮวาที่เคยมอบให้เขา ยกเว้นว่ามันเม็ดจะเล็กกว่า
มีข้อความเขียนอยู่บนกระดาษสีน้ำตาล
“ยาพลังชีวิต เกรดเหลืองเกรดต่ำ!”
เยี่ยชิวรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
เขาแค่คิดว่าถ้ายาพลังชีวิตเม็ดนี้น่าจะมีคุณภาพอยู่ในระดับสีเหลือง ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วเขาก็สามารถมอบมันให้นางฟ้าไป๋ฮวา เพื่อตอบแทนนางสำหรับยาก่อนหน้านี้
เขาไม่เคยคิดว่ามันเป็นอายุวัฒนะระดับสีเหลืองคุณภาพต่ำจริง ๆ เมื่อเปรียบเทียบกับอายุวัฒนะที่นางฟ้าไป่ฮวามอบให้เขา นั้นยังห่างกันมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...