วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1480

ตั้งแต่ที่เยี่ยชิวเข้าสู่การตรัสรู้ ดวงตาที่สวยงามคู่นั้นของนางฟ้าไป๋ฮวาก็ไม่เคยละสายตาจากเยี่ยชิวเลย เมื่อเห็นรอยยิ้มของเยี่ยชิว นางฟ้าไป๋ฮวาก็อดที่จะยิ้มตามเยี่ยชิวไม่ได้

เธอรู้ว่าเยี่ยชิวคงได้รับอะไรบางอย่างแน่ๆ

ไม่นาน เยี่ยชิวก็ลืมตาขึ้น

“ตาเฒ่า ทำไมท่านถึงไปนอนที่พื้นอย่างนั้นล่ะ?” เยี่ยชิวถาม

“เจ้าไม่ได้ทำให้ข้าโกรธหรอก” อมตะชางเหม่ยลุกขึ้นจากพื้นพร้อมกับด่ากราด “ที่จริงมรดกเป็นของข้า แต่กลับตกไปเป็นของเจ้า มันน่าโมโหจริงๆ ไอ้เด็กเปรต เอายาอายุวัฒนะหมื่นปีนั่นมาให้ข้าร้อยเม็ดเดี๋ยวนี้เลย ก่อนที่ข้าจะโมโหไปมากกว่านี้”

เยี่ยชิวกล่าวว่า “ไม่มียาอายุวัฒนะหรอก”

“เจ้าอย่าคิดที่จะโกหกข้า” อมตะชางเหม่ยพูด “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าในถุงเฉียนคุนของเจ้ามียาอายุวัฒนะอยู่มากมาย เลิกไร้สาระน่า รีบชดใช้ให้ข้ามาซะดีๆ”

“ผมต้องเก็บยาอายุวัฒนะไว้เพื่อกลั่นยา ผมจึงให้ท่านไม่ได้”

อมตะชางเหม่ยไม่พอใจเป็นอย่างมาก กำลังจะพูดต่อแต่เยี่ยชิวก็พูดขึ้นมาว่า “แต่ ผมสามารถส่งต่อมรดกที่ผมได้รับเมื่อกี้นี้ให้แก่พวกท่านได้”

อมตะชางเหม่ยถามด้วยท่าทีที่ตกตะลึง “เจ้าพูดจริงๆเหรอ?”

“แน่นอนสิ” เยี่ยชิวอยากที่จะถ่ายทอดหนึ่งก้าวสู่สวรรค์ให้แก่อมตะชางเหม่ยและคนอื่นๆ หลังจากนี้หากพวกเขาต้องเจอกับศรัตรูที่แข็งแกร่ง พวกเขาก็สามารถใช้วิชาหนึ่งก้าวสู่สวรรค์เพื่อหนีเอาตัวรอดได้

ในขณะนี้ เยี่ยชิวได้ทำการถ่ายทอดหนึ่งก้าวสู่สวรรค์ให้กับอมตะชางเหม่ยและนางฟ้าไป๋ฮวา

หลังจากนั้น อมตะชางเหม่ย นางฟ้าไป๋ฮวาและลู่หลัวก็นั่งลงกับพื้นเพื่อเริ่มเข้าสู่การฝึกฝน

ขณะที่เยี่ยชิวง่วงและเบื่ออยู่นั้น เขาก็เหลือบไปมองกำแพงหินและเห็นตัวอักษรสามตัวที่เขียนว่า “มรดกที่หนึ่ง” ยังคงส่องแสงวิบวับอยู่บนกำแพงหิน ไม่ได้หายไปพร้อมกับที่เขาได้รับมรดกไปแล้ว

“ถ้ารอคนข้างนอกพวกนั้นเข้ามา พวกเขาคงมาที่นี่แน่ๆ ผมควรจะให้อะไรไว้กับพวกเขาหน่อยมั้ย?”

เยี่ยชิวกลอกตาสองสามครั้งก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นนึงออกมาจากถุงเฉียนคุน เขาเขียนตัวหนังสือสองบรรทัดลงบนกระดาษ และใส่มันไว้ในกล่องไม้

จากนั้น เขาก็เอามันไปไว้ที่เดิม

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

นางฟ้าไป๋ฮวาและคนอื่นๆเสร็จสิ้นการฝึกฝนแล้ว

นางฟ้าไป๋ฮวาและลู่หลัวต่างเชี่ยวชาญหนึ่งก้าวสิบลี้เป็นอย่างดี มีแค่อมตะชางเหม่ยเท่านั้น ที่ระดับบรรลุของเขาอ่อนแอที่สุด และเขายังไม่ผ่านความยากลำบาก ดังนั้นตอนนี้เขายังไม่ผ่านการฝึกฝนหนึ่งก้าวสิบลี้

แต่ครั้งนี้อมตะชางเหม่ยได้รับยาอายุวัฒนะไม่น้อยจากสุสานเทพนักปราชญ์ หลังจากที่เขาออกไป เขาก็สามารถเอาตัวรอดจากภัยอัยตรายได้ หากเสริมด้วยยาอายุวัฒนะแล้วเขายังสามารถก้าวข้ามไปได้ถึงขั้นสูงสุดของยาอายุวัฒนะสีทองได้อีกด้วย ดังนั้น การเชี่ยวชาญหนึ่งก้าวสิบลี้ของอมตะชางเหม่ยเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลา

“ไอ้เด็กเปรต หนึ่งก้าวสู่สวรรค์นี่ดีจริงๆ เมื่อไหร่ที่ข้าฝึกจนชำนาญแล้ว ข้าก็ใช้อำนาจในโลกฝึกเซียนได้แล้วสิ” อมตะชางเหม่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เยี่ยชิวกล่าวว่า “ท่านอย่าเพิ่งรีบดีใจไปก่อน ท่านต้องฝึกฝนให้ได้ทั้งหมด พลังยุทธ์ของท่านต้องบรรลุถึงขั้นทงเสินเสียก่อน”

อมตะชางเหม่ยหัวเราะเหอะๆก่อนจะพูดว่า “อัจฉริยะอย่างข้า อย่างมากก็ใช้เวลาแค่สองสามปีก็บรรลุขั้นทงเสินได้แล้ว”

ลู่หลัวกรอกตามองบนแล้วพูดว่า “เต้าจ่าง ท่านหยุดคุยโม้เถอะ ในโลกฝึกเซียนของพวกเรา ผู้ที่สามารถบรรลุขั้นทงเสินภายในหนึ่งพันปีนั้นต่างก็เป็นอัจฉริยะทั้งนั้น”

อมตะชางเหม่ยกว่าวว่า “คุณลู่หลัว ฟังจากน้ำเสียงของเจ้าดูเหมือนจะไม่เชื่อข้าเลยนะ งั้นเรามาพนันกันมั้ยล่ะ?”

“ถ้าภายในสามปีข้ายังไม่บรรลุถึงขั้นทงเสิน ข้าจะให้ยาอายุวัฒนะหมื่นปีหนึ่งร้อยเม็ดกับเจ้า แต่ถ้าหากว่าข้าบรรลุขั้นทงเสินภายในสามปี ข้าจะให้เจ้าแต่งงานกับไอ้เด็กเปรตนี่”

“ยังไงนะ?”

ทันใดนั้น ลู่หลัวหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย ในใจคิดว่านี่มันใช่การพนันที่ไหน เห็นได้ชัดว่าเต้าจ่างอยากให้ฉันอุ่นเตียงให้กับนายน้อยเยี่ย!

ฉันต้องเห็นด้วยมั้ย?

ถ้าตอบตกลง มันจะดูเหมือนผู้หญิงที่ไม่รักนวลสงวนตัวหรือเปล่า?

ถ้าไม่ตอบตกลง......

ฉันก็ไม่อยากพลาดโอกาสนี้ไป

ทำยังไงดีล่ะ?

ในขณะที่ลู่หลัวกำลังลังเลอยู่ว่าจะตอบตกลงดีหรือไม่?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ