เยี่ยชิวและคนอื่น ๆ ยังไม่รู้ว่ามีรอยแตกในค่ายกลนักปราญ์ด้านนอกแล้ว และในเวลานี้เอง สาวกจากหลายนิกายได้เข้ามาในสุสานแล้ว
พวกเขายังคงรอให้นางฟ้าไป๋ฮวา สร้างร่างกายหงส์อยู่
ในสระเลือด เลือดสาดกระเซ็นอย่างต่อเนื่อง และกลิ่นหอมอันเข้มข้นก็อบอวลไปทั่วทั้งภายในของภูเขาจื่อ
"ชิ้ง——"
เสียงเรียกของหงส์ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา เสียงเหลียมคมอย่างมาก
เนื้อและผิวหนังของนางฟ้าไป๋ฮวา ได้รับการเกิดใหม่มาแล้วสามครั้ง แม้ว่าเธอจะเจ็บปวดอย่างมาก แต่เธอก็ยังเปียกโชกอยู่ในสระเลือดและยังคงนิ่งเฉยอยู่
"พัฟ!"
ทันใดนั้น พลังเลือดอันสง่างามพุ่งออกมาจากหน้าผากของนางฟ้าไป๋ฮวา ราวกับแสงตะวัน ทำให้เธอดูเหมือนนางฟ้าองค์หนึ่ง
เยี่ยชิว ลืมตาสวรรค์ขึ้นและพบว่ารูขุมขนทั่วร่างกายของนางฟ้าไป๋ฮวา ได้ขยายออก โดยดูดซับเลือดที่แท้จริงของหงส์อย่างต่อเนื่อง และอักษรรูนบนกระดูกสีแดงก็ไหลออกเข้ามาอย่างลึกลับ
ในไม่ช้า ผิวหนังและเนื้อขอนางฟ้าไป๋ฮวา ก็ละลายอีกครั้ง เหลือเพียงกระดูกสีขาวตั้งแต่คอลงไป
เวลาผ่านไปอย่างเงียบ ๆ
"ไม่รู้ว่านิพพานของนางฟ้าจะจบลงเมื่อไรกัน?" อมตะชางเหม่ยกล่าว
เยี่ยชิว กล่าวว่า: "ดูเหมือนว่าจะต้องใช้อีกเวลาสักพัก"
อมตะชางเหม่ยกล่าวว่า: "หวังว่านางฟ้าจะสามารถสร้างร่างหงส์เสร็จเร็วๆ หากค่ายกลของนักปราญ์พังทลายลงแล้วเธอยังไม่เสร็จอีก งั้นก็คงอย่ล่ะ"
เห็นได้ชัดว่าเขายังกังวลเกี่ยวกับปรมาจารย์ของนิกายหลายสำนักภายนอกด้วย
“ในเมื่อเรารู้แล้วว่ามันจะเกิดขึ้นก็ควรเตรียมรับมือกับมัน รออย่างเงียบๆเถอะ!”
แม้ว่า เยี่ยชิวจะดูสงบ แต่จริงๆ แล้วภายในใจของเขากลับกังวลอย่างมาก
หากพวกเขารอจนกว่าค่ายกลของนักปราญ์พังทลายลง และนิพพานของนางไป๋ฮวายังไม่เส็จอีก หากปรมาจารย์เหล่านั้นบุกเข้ามา พวกเขาก็จะเผชิญกับวิกฤติครั้งใหญ่
เพราะยังไงแล้ว พวกปรมาจารย์ขั้นทงเสินนั้นล้วนมุ่งมาที่มรดกกันทั้งนั้น
......
หลังจากที่สาวกของหลายสำนักได้เข้ามาแล้ว พวกเขาก็เริ่มสำรวจสิ่งรอบๆ
คนเหล่านี้ล้วนต้องการได้รับมรดกของนักปราญ์
"ปราชญ์หญิง เราค้นพบอะไรบางสิ่งตรงข้างหน้า"
ศิษย์สำนักดาบชิงอวิ๋นเดินไปหาหญิงสวมหน้ากากที่สวมชุดสีฟ้าเย็นแล้วกระซิบเบาๆ
"พาฉันไปที่นั่น" เสียงของผู้หญิงสวมหน้ากากนั้นหวานน่าฟังมากๆ
ในขณะนั้นเอง กลุ่มคนจากสำนักดาบชิงอวิ๋นก็เดินมาถึงที่หุบเขาแห่งหนึ่ง
ผู้หญิงสวมหน้ากากเงยหน้าขึ้นมองและเห็นธารน้ำแข็งไม่มีที่สิ้นสุดทั้งสองด้านของหุบเขา ราวกับดาบที่พุ่งตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า
ส่วนด้านในของหุบเขานั้นเต็มไปด้วยชั้นหมอกสีดำราวกับว่าเป็นหมึกหนาที่ไม่สามารถละลายได้ ทำให้มีบรรยากาศที่น่าขนลุกและแปลกประหลาด
"ตรงนี้แหละ" ศิษย์สำนักดาบชิงอวิ๋นที่พูดก่อนหน้านี้กล่าว
หญิงสวมหน้ากากจ้องไปที่หมอกดำในหุบเขาครู่หนึ่งและยังคงเงียบไม่พูดอะไร
"ปราญ์หญิง เราเข้าไปข้างในกันเถอะ บางทีมรดกของนักปราญ์อาจจะอยูในหุบเขาข้างในก็ได้" คนที่อยู่ข้างๆพูด
อีกคนก็พูดต่อว่า: "ปราญ์หญิง รีบตัดสินใจเถอะ ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวรอผู้คนจากสำนักอื่นมาถึงที่นี่ พวกเขาจะต้องมาแย่งมรดกของนักปราญ์แน่ๆ"
หญิงสวมหน้ากากกล่าวว่า: "สุสานนักปราญ์ไม่ใช่สถานที่ที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยแต่อย่างใด เราควรดำเนินการด้วยความระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกอยู่ในอันตราย"
"ปราญ์หญิง…" คนที่อยู่ข้างๆ เธอต้องการเกลี้ยกล่อมเธอ แต่ในขณะนั้นเอง ผู้คนจากสำนักปู่เทียนและสำนักพื้นที่เทพทั้งสามก็มาถึง
คนเหล่านี้จ้องมองผู้คนของสำนักดาบชิงอวิ๋นอย่างไม่แยแส จากนั้นทุกคนก็จ้องมองไปที่หุบเขา
"ดูเหมือนว่าหุบเขาแห่งนี้จะไม่ธรรมดา!"
"มรดกของนักปราญ์อยู่ข้างในงั้นเหรอ?"
"แล้วถ้ามีอันตรายล่ะ?"
"พวกเรามีคนมากมายขนาดนี้ ยังกลัวอันตรายอีกเหรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...