วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 168

พอได้ยินแบบนั้น สีหน้าของเยี่ยชิวก็แย่ลง

บริการลูกค้า!

คำนี้ไม่ใช่แค่การดูถูกผู้หญิงธรรมดาๆ แต่เป็นเหยียดขั้นรุนแรงมาก

พอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นผู้หญิงแต่งหน้าหนาๆ เดินออกมาจากประตู

เธออายุประมาณ 30 ปี หน้าตาธรรมดาๆ บนใบหน้าดูเหมือนทารองพื้น สวมชุดราตรีแวววาว มีจี้เพชรรอบคอ เผยให้เห็นเรือนร่าง มีกลิ่นอายของผู้หญิงอย่างว่าชัดเจน

ไม่เพียงเท่านั้น เนื้อสองก้อนนั่นตรงหน้าหล่อนแทบไม่มีเลย เรียบแป้เหมือนอานม้า

เยี่ยชิวกำลังจะจัดการ แต่หลินจิงจื้อจับไว้ก่อน

หลินจิงจื้อส่ายหัว

“พี่หลิน หล่อนเป็นใคร?” เยี่ยชิวถาม

“ลูกสาวคนโตของอาหลินลี่หมิน อาของฉัน หล่อนชื่อว่าหลินหลิง”

ระหว่างทางมาเจียงเจ้อ หลินจิงจื้อเคยเล่าให้เยี่ยชิวฟังเรื่องเกี่ยวกับตระกูลหลิน ปู่ของเธอมีลูกชายสามคน คนโตคือหลินลี่กั๋ว คนที่สอง คือหลินลี่หมิน และคนที่สามคือหลินลี่เปิ่น

นับตั้งแต่พ่อของหลินจิงจื้อถูกตัดสิทธิ์การเป็นทายาทของตระกูล โดยปกติแล้วธุรกิจของตระกูลหลินจะมีหลินลี่หมินและหลินลี่เปิ่นเป็นคนจัดการ

แต่แน่นอนว่าการควบคุมทุกอย่างยังอยู่ในมือของท่านผู้เฒ่าหลิน

หลินลี่กั๋วมีลูกสาวเพียงคนเดียวคือหลินจิงจื้อ หลินลี่เปิ่นมีลูกชายเพียงคนเดียวคือหลินจวิน ส่วนหลินลี่หมินมีทั้งลูกชายและลูกสาว

ลูกสาวหลินหลิงเป็นนักออกแบบ ส่วนลูกชายหรือหลินเหวินใช้ชีวิตอยู่ในกองทัพทหาร และชีวิตของเขาที่นั่นก็ไม่เลว

หลินหลิงอายุมากกว่าหลินจิงจื้อสองสามปี และเธอก็อิจฉาหลินจิงจื้อมาตลอด เพราะไม่ว่าจะเป็นกิริยามารยาท นิสัย รูปร่างหน้าตา หรือความรู้ เธอก็ถูกหลินจิงจื้อเหยียบจมดินในทุกด้าน

แต่ก่อนตอนที่หลินลี่กั๋วยังคงเป็นคนรับช่วงต่อของตระกูลหลิน หลินหลิง ไม่เคยกล้าใช้น้ำเสียงนี้พูดกับหลินจิงจื้อ

แต่ตอนนี้สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไป หลินลี่หมิน พ่อของเธอมีแนวโน้มที่จะเป็นคนรับช่วงต่อของตระกูลมากที่สุด เพราะฉะนั้นแน่นอนเลยว่าไม่มีอะไรให้ต้องกลัว

แม้ว่าหลินจิงจื้อจะไม่พูด แต่หลินลี่กั๋วก็พูดแล้ว

“เสี่ยวหลิง สิ่งที่เธอพูดนั้นไม่ถูกต้อง เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของจิงจื้อ มาบอกว่าจิงจื้อไปบริการลูกค้า แล้วเธอล่ะเป็นอะไร?”

“ฉัน……”

“อีกอย่าง ลุงกับป้าก็อยู่ตรงหน้าเธอ แม้กระทั่งคำกล่าวทักทายสักคำก็ไม่มี เป็นเพราะพ่อแม่เธอไม่สั่งสอน หรือว่าเธอไม่มีปาก?”

หน้าของหลินหลิงเปลี่ยนเป็นสีแดงหลังจากถูกดุ เธอกัดฟันและพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “คุณลุง คุณป้า สวัสดีค่ะ”

ต่อหน้าหลินลี่กั๋ว เธอไม่กล้ารีบร้อน

ในเวลานั้นเอง หลินลี่เปิ่นก็เดินหัวเราะเหอๆ เข้ามา “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ พวกพี่มาแล้วเหรอ?”

“อืม” หลินลี่กั๋วพูดเบาๆ

“สวัสดีครับ คุณลุง คุณป้า” หลินจวินทักทายอย่างสุภาพ

แม้ว่าในใจเขาจะไม่อยากทำ แต่เขาก็ไม่อยากถูกเรียกว่าเป็นคนไม่มีมารยาท

เมื่อกี้เขาได้ยินทุกอย่างที่หลินลี่กั๋วตำหนิหลินหลิง

“คุณพ่อล่ะ?” หลินลี่กั๋วถาม

“คุณพ่ออยู่ข้างในครับ” หลินลี่เปิ่นชี้ไปที่ประตูแล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ ให้ผมพาพี่เข้าไปไหม?”

“ไม่เป็นไร ฉันเข้าไปเอง”

กลุ่มคนเดินมุ่งไปที่ประตู

ตอนที่หลินจิงจื้อเดินผ่านหลินหลิง หลินหลิงก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “หลินจิงจื้อ ฉันได้ยินมาว่าเธอได้ผู้ชายป่าเถื่อนมาจากเจียงโจวจริงไหม?”

หลินจิงจื้อหยุดเดิน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่ ฉันพบผู้ชายคนหนึ่งในเจียงโจว ไม่เหมือนเธอ ที่มีแฟนเป็นแค่เครื่องอัตโนมัติ”

พรวด--

หลินจวินอดไม่ไหว ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“โหดร้าย!” เยี่ยชิวอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้หลินจิงจื้อในใจ

สีหน้าของหลินหลิงเปลี่ยนเป็นสีแดงภายในชั่วขณะ จากนั้นก็พูดด้วยความโมโหว่า “หลินจิงจื้อ ระวังสิ่งที่เธอพูด ... “

“อย่าคุยกับฉันเลย ฉันเป็นโรคกลัวเชื้อโรคขั้นรุนแรง” ยังไม่ทันที่หลินหลิงจะพูดจบ หลินจิงจื้อก็โต้กลับก่อน

หลินหลิงแทบจะกระอักเลือด พยายามระงับความโกรธ และพูดอย่างเย็นชา “ฉันได้ยินคนพูดว่า ตอนนี้ที่เจียงโจวเธอคือสาวสังคมผู้โด่งดัง ขายขี้หน้าตระกูลหลินของเราจริงๆ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินจิงจื้อไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เธอพูดตอกกลับเสียงเรียบว่า “หลินหลิง เธอหยุดพูดได้ไหม? เพราะว่ายิ่งพูดยิ่งแสดงให้เห็น IQ ของเธอ”

“จริงๆ ฟังเธอพูดแล้วฉันรู้สึกถึงความเหนือกว่าทางปัญญาเลย”

“ฉันไม่รู้ว่าเธอเอาความมั่นใจมาจากไหนนักหนา ถึงได้มาทำตัวหยิ่งยโสต่อหน้าฉัน หรือว่าเธอมีสนามบินเป็นของตัวเองงั้นเหรอ?”

“เธอ เธอ--”

หลินหลิงโกรธมากจนพูดไม่ออก

“เธอๆ อะไร? เธอต้องไม่ใช่ลูกที่คลอดออกมาจากแม่เธอแน่นอน ไม่อย่างนั้นทำไมแม่ของเธอถึงเลี้ยงเธอมาได้เป็นของต่ำขนาดนี้!”

“ได้ยินมาว่าแม่พาไปช้อปปิ้ง แล้วมีคนถามว่าคุณป้า ซื้อหมูตัวนี้ราคาเท่าไหร่คะ?”

“เธอมาทำตัวอวดดีต่อหน้าฉันเพื่ออะไร ไม่ใช่เพราะมีสมาคมพิทักษ์สัตว์คอยสนับสนุนเธอเหรอ?”

หลินหลิงโมโหจนแทบจะเป็นลม

ไม่เพียงแค่เธอเท่านั้น คนที่อยู่รอบๆ ต่างก็พากันตกตะลึงอ้าปากค้างเหมือนกัน

คำพูดของหลินจิงเหลียนเฉียบคมมาก ทุกๆ ประโยคนั้นทำเอาเลือดอาบ ทุกๆ คำทำเอาเกือบตาย

หลินลี่เปิ่นแอบดีใจเงียบๆ โชคดีที่เมื่อวานตอนที่อยู่บ้านหลินลี่กั๋ว เขาไม่ได้ทะเลาะกับหลินจิงจื้อ ถ้าไม่อย่างนั้น วันนี้เขาอาจจะโมโหจนสิ้นใจได้

โชคดีมากจริงๆ!

เยี่ยชิวได้เห็นปากอันร้ายกาจของหลินจิงจื้อแล้ว เขาก็คิดว่า ถ้าแยกระดับความปากร้ายได้ หลินจิงจื้อน่าจะอยู่ในระดับ MVP

หลินหลิงไม่รู้ว่าจะปฏิเสธโต้กลับยังไงเลย นอกจากโมโหและก็โมโห

“โง่เขลาเบาปัญญา หาเรื่องใครไม่หา ไปหาเรื่องแต่กับพี่หลิน นี่ไม่ใช่ว่าเรื่องให้ด่าเหรอ?”

เยี่ยชิวเยาะเย้ย

หลินจิงจื้อมองไปที่หลินหลิงและพูดต่อ “ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเธอเอาความกล้าและความมั่นใจจากที่ไหน ถึงได้มาท้าทายฉัน?”

“IQ ของเธอยังอยู่ในระดับทารกในครรภ์ใช่ไหม?”

“เธอดูเหมือนเป็นคิวอาร์โค้ด ไม่ลองสแกนดูก็ไม่รู้ว่าคืออะไร”

“ถึงแม้ร่างเธอจะพรมน้ำหอม Chanel No. 5 แต่จากระยะไกลๆ ฉันก็ยังได้กลิ่นดอกไม้และต้นหลิวที่เน่าเปื่อยอยู่”

“อีกอย่าง หน้าหนาๆ ของเธอ เป็นจุดที่น่าพิศวงที่สุดในร่างกายของเธอแล้ว จะเล็กก็ได้จะใหญ่ก็ได้ จะหนาก็ได้จะบางก็ได้ บางทีอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้”

“อ่าใช่ ต่อไปไม่ต้องมาคุยกับฉันอีก เพราะฉันไม่ได้แค่เป็นโรครักความสะอาดนะ แต่ฉันยังไม่ชอบคบค้าสมาคมกับสิ่งที่ไม่คนด้วย”

เวลาด่าคน หลินจิงจื้อไม่จำเป็นต้องร่างด้วยซ้ำ เธอแค่หยิบมันขึ้นมาและพูดอย่างไม่รู้จบ

ฝีปากดีขนาดนี้ น่าเสียดายหากไม่ได้ไปเป็นนักการทูต

“แง--”

หลินหลิงถึงกับหลั่งน้ำตา

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอถูกด่าจนร้องไห้

ใบหน้าของหลินจิงจื้อเต็มไปด้วยความดูถูก “ไร้ประโยชน์จริงๆ อายุขนาดนี้แล้วทำได้แค่ร้องไห้ เห้อ อับอายขายขี้หน้าตระกูลหลินเสียจริงๆ”

“ฉัน ฉันจะสู้กับเธอ” ทันใดนั้นหลินหลิงก็พุ่งเข้าหาหลินจิงจื้อ

เยี่ยชิวรีบเข้ามาบังหน้าหลินจิงจื้ออย่างรวดเร็ว เขาเตรียมที่จะออกแรง แต่ในขณะนั้นเอง แสงจ้าอย่างแรงก็ส่องขึ้นบนใบหน้าของหลินหลิง

หลินหลิงรีบเอามือปิดตา จากนั้นรถ Hummer ติดป้ายทหารก็เคลื่อนตัวเข้ามาอย่างดุดัน

เอี๊ยด!

เสียงรถเบรกกะทันหัน

รถ Hummer จอดที่ประตู

หลังจากนั้นประตูรถก็เปิดออกและมีชายหนุ่มคนหนึ่งกระโดดออกมา

เขาอายุยี่สิบกว่าปี มีคิ้วหนา ตาโต ผิวคล้ำเล็กน้อย และทรงผมที่ดูยุ่งเหยิงนั่น ทำให้ผู้คนรู้สึกความก้าวร้าวอย่างรุนแรง

ด้านบนเขาสวมเสื้อยืดลายพราง ด้านล่างสวมกางเกงลำลองสีดำและรองเท้าวิ่งสีขาว ทำให้คนที่เห็นครั้งแรกรู้สึกเหมือนเขาเป็นนักกีฬาท่านหนึ่ง

ชายหนุ่มไม่สนใจสายตาผู้ใด เดินมุ่งหน้าไปหาหลินหลิงแล้วถามว่า “พี่เกิดอะไรขึ้น?”

“แกมาทันเวลาพอดี หลินจิงจื้อรังแกฉัน แกรีบจัดการหล่อนให้ฉันสะ” หลินหลิงรีบพูด

ชายหนุ่มมองไปที่หลินจิงจื้อ จากนั้นก็ทำสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ