พอได้ยินแบบนั้น สีหน้าของเยี่ยชิวก็แย่ลง
บริการลูกค้า!
คำนี้ไม่ใช่แค่การดูถูกผู้หญิงธรรมดาๆ แต่เป็นเหยียดขั้นรุนแรงมาก
พอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นผู้หญิงแต่งหน้าหนาๆ เดินออกมาจากประตู
เธออายุประมาณ 30 ปี หน้าตาธรรมดาๆ บนใบหน้าดูเหมือนทารองพื้น สวมชุดราตรีแวววาว มีจี้เพชรรอบคอ เผยให้เห็นเรือนร่าง มีกลิ่นอายของผู้หญิงอย่างว่าชัดเจน
ไม่เพียงเท่านั้น เนื้อสองก้อนนั่นตรงหน้าหล่อนแทบไม่มีเลย เรียบแป้เหมือนอานม้า
เยี่ยชิวกำลังจะจัดการ แต่หลินจิงจื้อจับไว้ก่อน
หลินจิงจื้อส่ายหัว
“พี่หลิน หล่อนเป็นใคร?” เยี่ยชิวถาม
“ลูกสาวคนโตของอาหลินลี่หมิน อาของฉัน หล่อนชื่อว่าหลินหลิง”
ระหว่างทางมาเจียงเจ้อ หลินจิงจื้อเคยเล่าให้เยี่ยชิวฟังเรื่องเกี่ยวกับตระกูลหลิน ปู่ของเธอมีลูกชายสามคน คนโตคือหลินลี่กั๋ว คนที่สอง คือหลินลี่หมิน และคนที่สามคือหลินลี่เปิ่น
นับตั้งแต่พ่อของหลินจิงจื้อถูกตัดสิทธิ์การเป็นทายาทของตระกูล โดยปกติแล้วธุรกิจของตระกูลหลินจะมีหลินลี่หมินและหลินลี่เปิ่นเป็นคนจัดการ
แต่แน่นอนว่าการควบคุมทุกอย่างยังอยู่ในมือของท่านผู้เฒ่าหลิน
หลินลี่กั๋วมีลูกสาวเพียงคนเดียวคือหลินจิงจื้อ หลินลี่เปิ่นมีลูกชายเพียงคนเดียวคือหลินจวิน ส่วนหลินลี่หมินมีทั้งลูกชายและลูกสาว
ลูกสาวหลินหลิงเป็นนักออกแบบ ส่วนลูกชายหรือหลินเหวินใช้ชีวิตอยู่ในกองทัพทหาร และชีวิตของเขาที่นั่นก็ไม่เลว
หลินหลิงอายุมากกว่าหลินจิงจื้อสองสามปี และเธอก็อิจฉาหลินจิงจื้อมาตลอด เพราะไม่ว่าจะเป็นกิริยามารยาท นิสัย รูปร่างหน้าตา หรือความรู้ เธอก็ถูกหลินจิงจื้อเหยียบจมดินในทุกด้าน
แต่ก่อนตอนที่หลินลี่กั๋วยังคงเป็นคนรับช่วงต่อของตระกูลหลิน หลินหลิง ไม่เคยกล้าใช้น้ำเสียงนี้พูดกับหลินจิงจื้อ
แต่ตอนนี้สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไป หลินลี่หมิน พ่อของเธอมีแนวโน้มที่จะเป็นคนรับช่วงต่อของตระกูลมากที่สุด เพราะฉะนั้นแน่นอนเลยว่าไม่มีอะไรให้ต้องกลัว
แม้ว่าหลินจิงจื้อจะไม่พูด แต่หลินลี่กั๋วก็พูดแล้ว
“เสี่ยวหลิง สิ่งที่เธอพูดนั้นไม่ถูกต้อง เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของจิงจื้อ มาบอกว่าจิงจื้อไปบริการลูกค้า แล้วเธอล่ะเป็นอะไร?”
“ฉัน……”
“อีกอย่าง ลุงกับป้าก็อยู่ตรงหน้าเธอ แม้กระทั่งคำกล่าวทักทายสักคำก็ไม่มี เป็นเพราะพ่อแม่เธอไม่สั่งสอน หรือว่าเธอไม่มีปาก?”
หน้าของหลินหลิงเปลี่ยนเป็นสีแดงหลังจากถูกดุ เธอกัดฟันและพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “คุณลุง คุณป้า สวัสดีค่ะ”
ต่อหน้าหลินลี่กั๋ว เธอไม่กล้ารีบร้อน
ในเวลานั้นเอง หลินลี่เปิ่นก็เดินหัวเราะเหอๆ เข้ามา “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ พวกพี่มาแล้วเหรอ?”
“อืม” หลินลี่กั๋วพูดเบาๆ
“สวัสดีครับ คุณลุง คุณป้า” หลินจวินทักทายอย่างสุภาพ
แม้ว่าในใจเขาจะไม่อยากทำ แต่เขาก็ไม่อยากถูกเรียกว่าเป็นคนไม่มีมารยาท
เมื่อกี้เขาได้ยินทุกอย่างที่หลินลี่กั๋วตำหนิหลินหลิง
“คุณพ่อล่ะ?” หลินลี่กั๋วถาม
“คุณพ่ออยู่ข้างในครับ” หลินลี่เปิ่นชี้ไปที่ประตูแล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ ให้ผมพาพี่เข้าไปไหม?”
“ไม่เป็นไร ฉันเข้าไปเอง”
กลุ่มคนเดินมุ่งไปที่ประตู
ตอนที่หลินจิงจื้อเดินผ่านหลินหลิง หลินหลิงก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “หลินจิงจื้อ ฉันได้ยินมาว่าเธอได้ผู้ชายป่าเถื่อนมาจากเจียงโจวจริงไหม?”
หลินจิงจื้อหยุดเดิน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่ ฉันพบผู้ชายคนหนึ่งในเจียงโจว ไม่เหมือนเธอ ที่มีแฟนเป็นแค่เครื่องอัตโนมัติ”
พรวด--
หลินจวินอดไม่ไหว ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“โหดร้าย!” เยี่ยชิวอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้หลินจิงจื้อในใจ
สีหน้าของหลินหลิงเปลี่ยนเป็นสีแดงภายในชั่วขณะ จากนั้นก็พูดด้วยความโมโหว่า “หลินจิงจื้อ ระวังสิ่งที่เธอพูด ... “
“อย่าคุยกับฉันเลย ฉันเป็นโรคกลัวเชื้อโรคขั้นรุนแรง” ยังไม่ทันที่หลินหลิงจะพูดจบ หลินจิงจื้อก็โต้กลับก่อน
หลินหลิงแทบจะกระอักเลือด พยายามระงับความโกรธ และพูดอย่างเย็นชา “ฉันได้ยินคนพูดว่า ตอนนี้ที่เจียงโจวเธอคือสาวสังคมผู้โด่งดัง ขายขี้หน้าตระกูลหลินของเราจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...