วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1876

สรุปบท บทที่ 1876 จุดหมายต่อไป...จงโจว!: วิสารทแพทย์เทวัญ

ตอน บทที่ 1876 จุดหมายต่อไป...จงโจว! จาก วิสารทแพทย์เทวัญ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1876 จุดหมายต่อไป...จงโจว! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายความสามารถแปลก วิสารทแพทย์เทวัญ ที่เขียนโดย หูหยานล่วนหยู เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เพลิงอัคคีพลันพวยพุ่งออกจากร่างของเยี่ยชิวราวกับภูเขาไฟระเบิด ทันใดนั้นเองทาสโลหิตจึงได้เข้าใจว่าเหตุใดเยี่ยชิวจึงโผเข้ากอดมัน

“นายคิดจะใช้เพลิงประหลาดนี่เผาฉันให้ตายงั้นรึ?”

“หึหึ...เยี่ยฉังเซิง นายคงต้องผิดหวังแล้ว”

ทาสโลหิตแสยะยิ้ม “ถึงฉันจะไร้ซึ่งร่างกาย แต่ฉันยังคงเป็นถึงนักบุญ”

“แม้กระทั่งเพลิงวิญญาณระดับนักบุญก็ไม่อาจเผาฉันให้ตายได้หรอก”

สิ้นคำ ทาสโลหิตก็พุ่งมือเข้าตะครุบคอหอยเยี่ยชิว

มันคิดจะจับเยี่ยชิวเป็นตัวประกันก่อน จากนั้นจึงสังหารผู้อาวุโสวัว ส่วนอมตะชางเหม่ยนั้น มันไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย นักพรตขั้นหยวนอิงระดับกลางเช่นเขา มันสามารถสังหารได้เพียงแค่ปรายตามอง

ทันใดนั้น เสียงกึกก้องก็ดังสนั่นหวั่นไหวมาจากช่องว่างระหว่างมิติ

“ตูม!”

ทาสโลหิตเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว เห็นเพียงค่ายกลสงครามจักรพรรดิอันเกรียงไกรอันตรธานหายไปในช่องว่างระหว่างมิติ

ในขณะที่มันกำลังเสียสมาธิอมตะชางเหม่ยก็คว้าตัวผู้อาวุโสวัวและถอยหลังไปหลายร้อยลี้ในพริบตา

ทาสโลหิตได้สติกลับคืนมา จึงเอ่ยเยาะเย้ย “เจ้านักพรตโง่ เจ้าไม่อาจพาวัวนั่นไปได้ พลังของมันเหือดแห้ง ตอนนี้มันก็แค่คนไร้ค่า”

สิ้นคำของทาสโลหิต อมตะชางเหม่ยก็หยิบสมุนไพรวิเศษออกมาหลายต้น แล้วมอบให้แก่ผู้อาวุโสวัว

ผู้อาวุโสวัวรับสมุนไพรวิเศษมา แล้วกัดกินราวกำลังกินกับแครอท

แววตาของทาสโลหิตเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร

“ฉันไม่อาจปล่อยให้ปีศาจวัวตัวนั่นฟื้นพลังได้ ไม่เช่นนั้นเมื่อมันระเบิดพลังระดับนักบุญออกมาอีกครั้ง ฉันคงตกอยู่ในอันตรายแน่ แท้จริงแล้ว จิตวิญญาณของฉันก็ยังบาดเจ็บอยู่”

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ทาสโลหิตก็เปลี่ยนเป้าหมายจากคอหอยของเยี่ยชิวไปยังผู้อาวุโสวัวอย่างรวดเร็ว

“ตูม!”

ในชั่วพริบตานั้น เสียงคำรามดังกึกก้องราวกับคลื่นสึนามิ แสงเจิดจ้าสาดส่องไปทั่วทุกทิศ พร้อมกับอุณหภูมิที่ร้อนแรงแผดเผา ทำให้จิตวิญญาณของทาสโลหิตสั่นสะท้าน

“เกิดอะไรขึ้น?”

ทาสโลหิตรู้สึกถึงอันตรายอย่างรุนแรง จึงรีบหันไปมองเยี่ยชิว และเห็นเพียงเปลวเพลิงบนร่างเยี่ยชิวที่เจิดจ้าราวกับเปิดประตูสู่สรวงสวรรค์ แสงสว่างพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

จากนั้นเพลิงวิญญาณสีมรกตอันแสนประหลาดก็พุ่งออกมาจากหว่างคิ้วของเยี่ยชิว แม้จะมีขนาดเพียงเมล็ดข้าว แต่กลับปลดปล่อยพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมา

พริบตานั้นทาสโลหิตก็สัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรง

“ไม่ดีแล้ว! นี่ไม่ใช่เพลิงวิญญาณระดับนักบุญ แต่มันร้ายกาจยิ่งกว่านั้น!”

ดวงตาของทาสโลหิตเบิกกว้างด้วยความตระหนก พยายามผลักไหล่ของเยี่ยชิวออก ทว่าเยี่ยชิวกลับกอดรัดมันไว้แน่น

“ฉันรู้ดีว่าเพลิงวิญญาณระดับนักบุญไม่อาจเผานายให้มอดไหม้ได้ ดังนั้นฉันจึงเตรียมเพลิงวิญญาณระดับจักรพรรดิไว้ให้นายโดยเฉพาะ”

เยี่ยชิวแสยะยิ้มเย็นชา พลันเปลวเพลิงสีเขียวอมฟ้าก็พวยพุ่งขึ้นจากหว่างคิ้วของเขา ราวกับดอกบัวสีครามที่แผ่กิ่งก้านปกคลุมทั่วทั้งฟ้าดิน พริบตาเดียวก็ห่อหุ้มร่างของเขาและจิตวิญญาณของทาสโลหิตไว้

“อ๊ากกก!!”

ทาสโลหิตกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน ร่างกายของมันถูกเผาไหม้จนกลายเป็นคนไฟ จิตวิญญาณดิ้นรนทุรนทุราย

ทว่าไร้ผล

ไม่ว่าทาสโลหิตจะดิ้นรนขัดขืนเพียงใด เพลิงวิญญาณระดับจักรพรรดิก็ไม่เคยดับมอด

เยี่ยชิวยืนหยัดท่ามกลางเปลวเพลิง ร่างกายของเขาไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย เสื้อคลุมสีขาวสะบัดพลิ้วไหวราวกับเทพเซียน

“ที่แท้แล้ว นี่คือท่าไม้ตายที่แท้จริงของฉัน”

“ตั้งแต่แรก ฉันไม่เคยคาดหวังว่าต้าลี่จะสามารถสังหารนายได้”

“ต้าลี่เป็นเพียงนักบุญ ระดับพลังยุทธ์ของเขายังห่างไกลจากนายมากนัก จุดประสงค์ของฉันคือต้องการให้เขาค้นพบศักยภาพที่ซ่อนเร้นในยามคับขัน และสร้างบาดแผลให้กับนาย”

“ต้าลี่ไม่ทำให้ฉันผิดหวัง เขาทำได้สำเร็จ”

“แม้นายจะมีพลังยุทธ์สูงส่ง แต่จิตวิญญาณของนายได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่อาจต้านทานการเผาผลาญของเพลิงวิญญาณระดับจักรพรรดิได้อีกต่อไป”

กล่าวจบ เยี่ยชิวก็ถอนหายใจเบาๆ

“ดูท่าฉันต้องรีบเร่งยกระดับพลังฝีมือแล้ว” เยี่ยชิวคิดในใจ

อมตะชางเหม่ยยิ้มแล้วกล่าวว่า “ไม่ว่าอย่างไร วิกฤตการณ์เบื้องหน้าก็ถือว่าคลี่คลายแล้ว”

“เจ้าเด็กน้อย ฉันไม่คิดเลยว่าเจ้าตัวโชคร้ายหลงผู้ซ่านั่นจะยังไม่ตาย แถมยังได้เป็นศิษย์ของอู่จี๋เทียนจุนอีกด้วย”

“หมอนี่ในอนาคตอาจจะกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของเรา เราต้องระวังให้ดี”

“อืม” เยี่ยชิวขานรับเบาๆ

อมตะชางเหม่ยกล่าวอีกว่า “เจ้าเด็กน้อย ฉันยังคงยืนยันคำแนะนำเดิม ก่อนที่อู่จี๋เทียนจุน จะล่วงรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น เราควรไปสังหารเจ้าเมืองอีกสักสองสามคนเถอะ”

ผู้อาวุโสวัวกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ ฉันเห็นด้วยกับคำแนะนำของเต้าจ่าง ฉันเข้าใจหมัดที่สามของหมัดเทพทรงพลังแล้ว บวกกับเก้าก้าวแห่งสวรรค์ที่ท่านอาจารย์มอบให้ ฉันจึงสามารถระเบิดพลังฝีมือระดับนักบุญออกมาได้”

“เว้นเสียแต่ว่าอู่จี๋เทียนจุนจะมาด้วยตนเอง ไม่เช่นนั้น...”

“ฉันเข้าใจความคิดของพวกนายทั้งสอง” เยี่ยชิวกล่าว “แต่ฉันไม่เห็นด้วย”

“ทำไม?” อมตะชางเหม่ยถามอย่างสงสัย

ผู้อาวุโสวัวก็มองเยี่ยชิวด้วยความฉงนเช่นกัน

เยี่ยชิวถามว่า “เจ้าแก่ ตอนนี้ยังมีโอสถวิเศษเหลืออยู่เท่าไหร่?”

อมตะชางเหม่ยส่ายหน้า “ไม่มีแล้ว”

เยี่ยชิวกล่าว “หากต้าลี่ต้องเผชิญศัตรูที่แข็งแกร่งอีกครั้ง แล้วพลังลมปราณไม่พอ ทั้งยังไม่มีโอสถวิเศษ เขาจะฟื้นฟูพลังได้อย่างไร?”

อมตะชางเหม่ยกล่าวว่า “แม้ว่าพี่ต้าลี่จะฟื้นฟูพลังลมปราณไม่ได้ในทันที แต่นายยังมีเพลิงวิญญาณอยู่ไม่ใช่เหรอ?”

“ฉันเผาคนทาสโลหิตตายได้ ก็เพราะมันไม่คิดฆ่าฉันตั้งแต่แรก เพียงคิดพาฉันกลับไปยังสำนักหยินหยาง ฉันจึงฉวยโอกาสได้” เยี่ยชิวกล่าว “ พวกเราฆ่าคนไปมากมาย หากอู่จี๋เทียนจุนเปลี่ยนใจ หรือลงมือเอง ถึงฉันจะมีเพลิงวิญญาณ เราก็อาจตายได้”

“เรื่องนี้ อย่าพูดถึงอีก เพื่อความปลอดภัย เราต้องรีบออกจากเขตแดนของสำนักหยินหยางทันที”

“จุดหมายต่อไป มุ่งสู่จงโจว!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ