วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1877

สรุปบท บทที่ 1877 โจมตีต่อเนื่อง!: วิสารทแพทย์เทวัญ

สรุปเนื้อหา บทที่ 1877 โจมตีต่อเนื่อง! – วิสารทแพทย์เทวัญ โดย หูหยานล่วนหยู

บท บทที่ 1877 โจมตีต่อเนื่อง! ของ วิสารทแพทย์เทวัญ ในหมวดนิยายความสามารถแปลก เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย หูหยานล่วนหยู อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เมื่ออมตะชางเหม่ยได้ยินเยี่ยชิวเอ่ยถึงการเดินทางไปยังจงโจว สีหน้าก็พลันเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด

“เจ้าเด็กน้อย เราเลี่ยงการไปจงโจวไม่ได้เหรอ?” อมตะชางเหม่ยกล่าว “ฉันเป็นห่วงนาย”

“เป็นห่วงอะไรเหรอ?” เยี่ยชิวถาม

“ฉันห่วงว่าจะมีเรื่องยุ่งยากตามมา” อมตะชางเหม่ยกล่าว “พวกเรารู้แค่ว่าจงโจวมีราชวงศ์ใหญ่ไม่กี่แห่ง นอกนั้นไม่รู้อะไรเลย”

“ยิ่งไปกว่านั้น นายยังฆ่าเฉาเม่าและเว่ยอู๋จี้ หากสองราชวงศ์นั้นรู้ว่านายไปจงโจว ทั้งสองราชวงศ์คงไม่ปล่อยนายไปแน่”

“แถมยังมีอู่เชียนฟานองค์ชายรองแห่งต้าโจว ตอนนี้เขาเป็นทาสของนายแล้ว หากราชวงศ์ต้าโจวล่วงรู้เรื่องนี้ พวกมันก็อาจจะลงมือกับนายเช่นกัน”

“ฉันคิดว่าจงโจวไม่ใช่สถานที่สงบสุข หากเดินทางไปโดยพลการ อาจจะต้องพบกับอันตราย”

“เรื่องนี้เราควรจะคิดให้รอบคอบเสียก่อน”

เยี่ยชิวถอนหายใจ “ตาเฒ่า ฉันเข้าใจทุกอย่างที่นายพูด แต่ฉันจำเป็นต้องเดินทางไปยังจงโจว”

ทันใดนั้นดวงตาของเบิกตากว้างก็เบิกกว้าง “เจ้าเด็กน้อย หรือว่านายมีสาวงามรออยู่ที่จงโจว?”

“พูดอะไรเหลวไหล!” เยี่ยชิวมองอมตะชางเหม่ยแล้วพูดว่า “การเดินทางไปจงโจวครั้งนี้ ฉันมีเรื่องสำคัญต้องจัดการ”

“เรื่องสำคัญอะไรเหรอ?” อมตะชางเหม่ยถามอย่างสงสัย

“รอฉันจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้วจะบอกนาย” พูดจบ เยี่ยชิวก็หันไปถามผู้อาวุโสวัว “ต้าลี่ ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่านายจะฟื้นคืนความแข็งแกร่งเสร็จ?”

“ท่านอาจารย์ ฉันฟื้นพลังได้เกือบเต็มที่แล้ว” หลังจากที่ผู้อาวุโสวัวพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นยืน

เยี่ยชิวกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ออกเดินทางกันเถอะ!”

ผู้อาวุโสวัวเกาหัวแล้วพูดว่า “ท่านอาจารย์ ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องโลกแห่งการฝึกตน จงโจวอยู่ไกลจากที่นี่แค่ไหน? และอยู่ทิศทางใดหรือ?”

เยี่ยชิวกล่าวว่า “นายถามตาเฒ่าเถอะ พิกัดส่วนใหญ่ในโลกแห่งการฝึกตนอยู่ในหัวของเขาหมดแล้ว”

อมตะชางเหม่ยกล่าวว่า “สหายต้าลี่ นายพาพวกเราทะลุผ่านห้วงมิติไป ฉันจะบอกทิศทางให้เอง”

“ได้” ผู้อาวุโสวัวกล่าวจบก็หมอบลงกับพื้น ร่างกายเปล่งประกายแสงออกมา ในพริบตาก็กลายร่างเป็นวัวเทพห้าสี

“เชิญท่านอาจารย์ขึ้นมาได้เลย!” ผู้อาวุโสวัวกล่าว

เยี่ยชิวกระโดดขึ้นไปนั่งบนหลังของผู้อาวุโสวัวอย่างมั่นคง

“สหายต้าลี่ การเดินทางไปจงโจวครั้งนี้ค่อนข้างไกล ลำบากนายแล้ว” หลังจากที่อมตะชางเหม่ยพูดจบ เขาก็ลูบหัวของผู้อาวุโสวัว ขณะที่ปากขยับรัวเร็วเพื่อส่งข้อความลับด้วยกระแสจิต

เมื่อผู้อาวุโสวัวได้ยินเสียงกระซิบจากอมตะชางเหม่ย ดวงตากลมโตพลันเบิกโพลงแล้วจ้องมองอมตะชางเหม่ยด้วยความฉงน

อมตะชางเหม่ยกระซิบว่า “หากไม่อยากให้ท่านอาจารย์ของนายมีอันตราย ก็จงทำตามที่ฉันบอก”

ผู้อาวุโสวัวพยักหน้า

เยี่ยชิวตะโกนอย่างหงุดหงิด “ตาเฒ่า ยังมัวชักช้าอะไร รีบขึ้นมา พวกเราต้องออกเดินทางแล้ว”

“มาแล้ว”

อมตะชางเหม่ยยิ้มอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเหาะขึ้นไปนั่งข้างๆ เยี่ยชิว

“ท่านอาจารย์ เต้าจ่าง โปรดนั่งให้มั่น”

หลังจากผู้อาวุโสวัวกล่าวจบก็ย่างเท้าขึ้นสู่ท้องฟ้า จากนั้นกีบเท้าอันใหญ่โตก็ฉีกอากาศออกอย่างรุนแรง จนเกิดเป็นรอยแยกในห้วงมิติ

“ตูม!”

ผู้อาวุโสวัวพุ่งเข้าไปในรอยแยก

......

เกือบจะในเวลาเดียวกัน

ณ สำนักใหญ่แห่งสำนักหยินหยาง

อู่จี๋เทียนจุนที่นั่งขัดสมาธิในตำหนักใหญ่ และกำลังหลับตาฝึกพลังรักษาอาการบาดเจ็บ ทันใดนั้นเปลือกตาของเขาก็เต้นไม่หยุด พร้อมเกิดความรู้สึกใจคอไม่สงบอย่างประหลาด

“เกิดอะไรขึ้น?”

“ทำไมฉันจึงรู้สึกกระวนกระวาย?”

“แปลกนัก!”

ในขณะนั้นเอง...

“ปัง ปัง ปัง...”

เสียงทุบประตูดังขึ้นจากด้านนอก อีกทั้งเสียงยังดังขึ้นเรื่อยๆ ดุจเสียงฟ้าร้อง ทำให้อู่จี๋เทียนจุนรู้สึกหงุดหงิดยิ่งนัก

“ใครกล้ามาเคาะประตู!”

สุ้มเสียงอันทรงอำนาจของอู่จี๋เทียนจุนดังขึ้น

“ท่านผู้นำ ฉันเอง” เสียงของผู้อาวุโสรองดังมาจากนอกประตู “ท่านโปรดเปิดประตูด้วย”

พร้อมกับที่ร่างของผู้อาวุโสรองทรุดลงต่ำกว่าเดิม ใบหน้าเกือบจะติดพื้น ตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว

เขารู้ว่าท่านผู้นำโกรธแล้ว

“คุณว่ายังไงนะ?” อู่จี๋เทียนจุนไม่อยากจะเชื่อ “พูดอีกครั้ง!”

ผู้อาวุโสรองกัดฟันรายงานว่า “บุตรเทพรองซูอู๋หมิง ผู้อาวุโสสี่ ผู้อาวุโสห้าและเจ้าเมืองลู่ฟู่กุ้ยแห่งเมืองกวงหมิง ตะเกียงวิญญาณของพวกเขาดับลงทั้งหมดแล้วครับ”

“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!” อู่จี๋เทียนจุนคำราม “ผู้อาวุโสสี่และผู้อาวุโสห้าล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งในระดับนักบุญ การรับมือกับปีศาจวัวของเผ่าปีศาจนั้นไม่ใช่เรื่องยาก”

“ซูอู๋หมิงอยู่ในสุดยอดขั้นทงเสิน ผู้อาวุโสใหญ่ยังส่งองครักษ์ที่อยู่ในสุดยอดขั้นทงเสินสองคนไปคุ้มกันลู่ฟู่กุ้ย แถมยังมีทหารยามในเมืองกวงหมิงอีกมากมาย พวกเขาไม่มีทางตายได้”

“นายคงเข้าใจผิดแล้ว”

ผู้อาวุโสรองกล่าวว่า “ท่านผู้นำ ผมรับใช้ในวังพิทักษ์วิญญาณมานานปี ไม่เคยบกพร่องแม้แต่น้อย”

“ยิ่งไปกว่านั้น ผมยังอยู่ในเหตุการณ์ตอนที่ตะเกียงวิญญาณของซูอู๋หมิงและผู้อาวุโสอีกสองท่านดับลง ผมจึงได้เห็นกับตาตัวเอง”

กล่าวจบผู้อาวุโสรองก็เงยหน้าขึ้นแอบมองอู่จี๋เทียนจุนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้มหน้าลงอีกครั้ง

อู่จี๋เทียนจุนหรี่ตาลง ดวงตาคมกริบราวกับคมมีด คิ้วขมวดเข้าหากันแผ่รังสีสังหารอันเย็นยะเยียบ ทันใดนั้นห้องโถงใหญ่ก็ราวกับกลายเป็นห้องเก็บน้ำแข็ง

ผู้อาวุโสรองหมอบราบกับพื้นด้วยความหวาดกลัว

“ไม่นึกเลยว่าฉันจะต้องเสียบุตรเทพและผู้อาวุโสไปอีกสองคน เยี่ยฉังเซิงนายทำให้ฉันประเมินนายต่ำไปสินะ”

“รวมถึงเจ้าปีศาจวัวจากเผ่าปีศาจ พลังของมันก็ทำให้ฉันประหลาดใจไม่น้อย”

“แต่พวกนายอย่าคิดว่าฆ่าซูอู๋หมิงและผู้อาวุโสสองคนแล้วจะหนีออกจากเมืองกวงหมิงได้เลย”

“ฉันยังเตรียมแผนสำรองไว้แล้ว”

“ต่อให้นายมีฝีมือเทียบฟ้า ก็ไม่มีทางหยุดทาสโลหิตได้หรอก จะมาสู้กับฉัน พวกนายยังอ่อนหัดนัก...”

คำพูดของท่านผู้นำยังไม่ทันจบ

“ท่านผู้นำ ทาสโลหิตก็ตายแล้วครับ!”

..........

เชิงอรรถ

[1] เก้าอี้ไท่ซื่อ (太师椅) คือเก้าอี้เท้าแขนขนาดใหญ่ชนิดหนึ่งของจีน โดยเก้าอี้เท้าแขนชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและสถานะทางสังคมในสมัยโบราณของจีน โดยปกติจะทำจากไม้เนื้อแข็งและมีการแกะสลักลวดลายที่วิจิตรบรรจง เก้าอี้เท้าแขนชนิดนี้มักจะอยู่ในบ้านของขุนนางระดับสูงหรือในห้องทำงานของจักรพรรดิ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ