เยี่ยชิวและอมตะชางเหม่ยหยุดฝีเท้า เงยหน้ามองยอดเขาพิเศษเบื้องหน้า
พิเศษอย่างไรน่ะหรือ? ก็เพราะมันเป็นขุนเขาทองคำยังไงล่ะ!
ยอดเขาสูงตระหง่านเสียดฟ้าราวกับจะทะลวงเมฆ ทั้งยังแผ่ประกายเจิดจ้าราวกับจะช้อนดวงตะวัน ตั้งตระหง่านอยู่ห่างออกไปหลายพันเมตร
เขาทั้งลูกราวกับหล่อขึ้นจากทองคำ ส่องแสงทองอร่ามจนแทบทำให้ตาพร่า
ยิ่งไปกว่านั้น ขุนเขาทองคำนี้ยังกว้างใหญ่มหาศาล ทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตา
แสงสีทองที่พวกเขาเห็นแต่ไกลเมื่อครู่ แท้จริงแล้วคือแสงที่ส่องมาจากขุนเขานี้เอง
“เจ้าเด็กน้อย นั่นมันภูเขาที่ทำจากทองคำจริงๆ หรือเนี่ย?”
อมตะชางเหม่ยร้องอย่างตกใจ “ถ้าเป็นทองคำจริงๆ พวกเรารวยเละแน่!”
“ไม่ได้ ฉันต้องวิ่งไปกัดดูสักคำ ว่ามันใช่ทองคำหรือเปล่า”
พูดจบ อมตะชางเหม่ยพูดจบก็ทำท่าจะพุ่งออกไป
“หยุดนะ!” เยี่ยชิวคว้าตัวอมตะชางเหม่ยไว้ แล้วด่าเสียงต่ำ “เก็บนิสัยเสียๆ ของนายไว้ซะ ไม่งั้นระวังจะตายโดยไม่รู้ตัว”
เยี่ยชิวชี้มือออกไป
อมตะชางเหม่ยมองตาม พลันเห็นผู้คนมากมายยืนอยู่ห่างออกไปพันเมตร
เขาเห็นฉีเทียน เฉินเทียนมิ่ง รวมทั้งหวังชงและศิษย์จากพื้นที่เทพฮวงกู่ในทันที
ขณะเดียวกัน เขายังเห็นเซียวยี่เฉินด้วย
เซียวยี่เฉินนำศิษย์ของสำนักปู่เทียนยืนอยู่แถวหน้าสุด โดยเอามือไพล่หลังด้วยท่าทางสง่างามราวกับเทพเซียน
ยังมีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่คนละทิศทาง เป็นคนจากพื้นที่เทพไท่ชู ซึ่งนำโดยชายหนุ่มผู้มีพลังกล้าแกร่ง
หกสำนักใหญ่แห่งตงฮวง บัดนี้มาถึงห้าสำนักแล้ว ขาดเพียงพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นเท่านั้นที่ยังมาไม่ถึง
คนของห้าสำนัก ยืนอยู่ในห้าทิศทางต่างกัน ล้วนมาชุมนุมกันที่เชิงเขา
“มันอันตรายมาก เกือบไปแล้ว เมื่อกี้ถ้าฉันพุ่งออกไป คงโดนพวกนั้นฆ่าตายแน่”
อมตะชางเหม่ยอดรู้สึกใจหายไม่ได้ แต่แล้วก็หัวเราะเยาะอย่างสะใจ “ห้าสำนักมาชุมนุมกัน งานนี้คงมีเรื่องสนุกให้ดูแน่”
“นายไม่รู้สึกว่ามันแปลกๆ บ้างเหรอ?” เยี่ยชิวกล่าว “ในเมื่อห้าสำนักมาชุมนุมกัน ทำไมพวกเขาถึงไม่สู้กัน?”
“ใช่แล้ว พวกเขาทำไมถึงได้สงบนิ่งแบบนี้?” อมตะชางเหม่ยเพ่งมองอย่างถี่ถ้วน พบว่าทุกสายตาจับจ้องไปยังยอดเขาด้วยแววตาเปี่ยมล้นด้วยความคาดหวัง
“ดูท่า พวกเขาราวกับกำลังรออะไรบางอย่างอยู่” อมตะชางเหม่ยพลันเกิดความคิด “หรือว่ามรดกจักรพรรดิมังกรจะอยู่ในภูเขาทองลูกนั้น?”
เยี่ยชิวกล่าว “ไม่อาจตัดความเป็นไปได้นี้ทิ้ง”
“เจ้าเด็กน้อย แล้วตอนนี้เราควรทำยังไง?” อมตะชางเหม่ยถาม “ฉันจะฟังนายทุกอย่าง”
เยี่ยชิวครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “เพื่อความรอบคอบ เราอย่าเพิ่งเข้าไปที่นั่น เราจะคอยดูว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น แล้วจึงค่อยหาโอกาสลงมือ”
“อืม แบบนี้ปลอดภัยกว่า” อมตะชางเหม่ยพยักหน้าเห็นด้วย
ทว่าในเวลานั้น กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น พุ่งตรงมายังทิศทางที่อมตะชางเหม่ยยืนอยู่
“บุตรเทพรองแห่งพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นมาถึงแล้ว ยังไม่หลีกทางไปอีก!”
ศิษย์ผู้นำแห่งพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นตวาดเสียงดัง ในความคิดของเขา เพียงแค่เอ่ยถึงชื่อพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นผู้คนก็ต้องหลีกทางให้โดยดี
แต่อมตะชางเหม่ยกลับไม่ขยับ
“นายเป็นตัวอะไร ถึงบังอาจมาสั่งให้ฉันหลีกทาง” อมตะชางเหม่ยต่อว่า
“หาที่ตายเรอะ” ศิษย์คนนั้นของพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นได้ยินดังนั้นก็ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม พุ่งเข้าใส่อมตะชางเหม่ยทันที
อมตะชางเหม่ยก็ไม่เกรงใจเช่นกัน เขาฟาดฝ่ามือเดียวส่งศิษย์คนนั้นของพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นกระเด็นไปด้วยฝ่ามือเดียว
“อ๊าก!!”
ศิษย์คนนั้นของพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ร่างกระเด็นไปไกลกว่าสิบเมตร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...