วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1911

สรุปบท บทที่ 1911 บุตรเทพแห่งฮุ่นตุ้น: วิสารทแพทย์เทวัญ

อ่านสรุป บทที่ 1911 บุตรเทพแห่งฮุ่นตุ้น จาก วิสารทแพทย์เทวัญ โดย หูหยานล่วนหยู

บทที่ บทที่ 1911 บุตรเทพแห่งฮุ่นตุ้น คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายความสามารถแปลก วิสารทแพทย์เทวัญ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย หูหยานล่วนหยู อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เยี่ยชิวและอมตะชางเหม่ยหยุดฝีเท้า เงยหน้ามองยอดเขาพิเศษเบื้องหน้า

พิเศษอย่างไรน่ะหรือ? ก็เพราะมันเป็นขุนเขาทองคำยังไงล่ะ!

ยอดเขาสูงตระหง่านเสียดฟ้าราวกับจะทะลวงเมฆ ทั้งยังแผ่ประกายเจิดจ้าราวกับจะช้อนดวงตะวัน ตั้งตระหง่านอยู่ห่างออกไปหลายพันเมตร

เขาทั้งลูกราวกับหล่อขึ้นจากทองคำ ส่องแสงทองอร่ามจนแทบทำให้ตาพร่า

ยิ่งไปกว่านั้น ขุนเขาทองคำนี้ยังกว้างใหญ่มหาศาล ทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตา

แสงสีทองที่พวกเขาเห็นแต่ไกลเมื่อครู่ แท้จริงแล้วคือแสงที่ส่องมาจากขุนเขานี้เอง

“เจ้าเด็กน้อย นั่นมันภูเขาที่ทำจากทองคำจริงๆ หรือเนี่ย?”

อมตะชางเหม่ยร้องอย่างตกใจ “ถ้าเป็นทองคำจริงๆ พวกเรารวยเละแน่!”

“ไม่ได้ ฉันต้องวิ่งไปกัดดูสักคำ ว่ามันใช่ทองคำหรือเปล่า”

พูดจบ อมตะชางเหม่ยพูดจบก็ทำท่าจะพุ่งออกไป

“หยุดนะ!” เยี่ยชิวคว้าตัวอมตะชางเหม่ยไว้ แล้วด่าเสียงต่ำ “เก็บนิสัยเสียๆ ของนายไว้ซะ ไม่งั้นระวังจะตายโดยไม่รู้ตัว”

เยี่ยชิวชี้มือออกไป

อมตะชางเหม่ยมองตาม พลันเห็นผู้คนมากมายยืนอยู่ห่างออกไปพันเมตร

เขาเห็นฉีเทียน เฉินเทียนมิ่ง รวมทั้งหวังชงและศิษย์จากพื้นที่เทพฮวงกู่ในทันที

ขณะเดียวกัน เขายังเห็นเซียวยี่เฉินด้วย

เซียวยี่เฉินนำศิษย์ของสำนักปู่เทียนยืนอยู่แถวหน้าสุด โดยเอามือไพล่หลังด้วยท่าทางสง่างามราวกับเทพเซียน

ยังมีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่คนละทิศทาง เป็นคนจากพื้นที่เทพไท่ชู ซึ่งนำโดยชายหนุ่มผู้มีพลังกล้าแกร่ง

หกสำนักใหญ่แห่งตงฮวง บัดนี้มาถึงห้าสำนักแล้ว ขาดเพียงพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นเท่านั้นที่ยังมาไม่ถึง

คนของห้าสำนัก ยืนอยู่ในห้าทิศทางต่างกัน ล้วนมาชุมนุมกันที่เชิงเขา

“มันอันตรายมาก เกือบไปแล้ว เมื่อกี้ถ้าฉันพุ่งออกไป คงโดนพวกนั้นฆ่าตายแน่”

อมตะชางเหม่ยอดรู้สึกใจหายไม่ได้ แต่แล้วก็หัวเราะเยาะอย่างสะใจ “ห้าสำนักมาชุมนุมกัน งานนี้คงมีเรื่องสนุกให้ดูแน่”

“นายไม่รู้สึกว่ามันแปลกๆ บ้างเหรอ?” เยี่ยชิวกล่าว “ในเมื่อห้าสำนักมาชุมนุมกัน ทำไมพวกเขาถึงไม่สู้กัน?”

“ใช่แล้ว พวกเขาทำไมถึงได้สงบนิ่งแบบนี้?” อมตะชางเหม่ยเพ่งมองอย่างถี่ถ้วน พบว่าทุกสายตาจับจ้องไปยังยอดเขาด้วยแววตาเปี่ยมล้นด้วยความคาดหวัง

“ดูท่า พวกเขาราวกับกำลังรออะไรบางอย่างอยู่” อมตะชางเหม่ยพลันเกิดความคิด “หรือว่ามรดกจักรพรรดิมังกรจะอยู่ในภูเขาทองลูกนั้น?”

เยี่ยชิวกล่าว “ไม่อาจตัดความเป็นไปได้นี้ทิ้ง”

“เจ้าเด็กน้อย แล้วตอนนี้เราควรทำยังไง?” อมตะชางเหม่ยถาม “ฉันจะฟังนายทุกอย่าง”

เยี่ยชิวครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “เพื่อความรอบคอบ เราอย่าเพิ่งเข้าไปที่นั่น เราจะคอยดูว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น แล้วจึงค่อยหาโอกาสลงมือ”

“อืม แบบนี้ปลอดภัยกว่า” อมตะชางเหม่ยพยักหน้าเห็นด้วย

ทว่าในเวลานั้น กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น พุ่งตรงมายังทิศทางที่อมตะชางเหม่ยยืนอยู่

“บุตรเทพรองแห่งพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นมาถึงแล้ว ยังไม่หลีกทางไปอีก!”

ศิษย์ผู้นำแห่งพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นตวาดเสียงดัง ในความคิดของเขา เพียงแค่เอ่ยถึงชื่อพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นผู้คนก็ต้องหลีกทางให้โดยดี

แต่อมตะชางเหม่ยกลับไม่ขยับ

“นายเป็นตัวอะไร ถึงบังอาจมาสั่งให้ฉันหลีกทาง” อมตะชางเหม่ยต่อว่า

“หาที่ตายเรอะ” ศิษย์คนนั้นของพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นได้ยินดังนั้นก็ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม พุ่งเข้าใส่อมตะชางเหม่ยทันที

อมตะชางเหม่ยก็ไม่เกรงใจเช่นกัน เขาฟาดฝ่ามือเดียวส่งศิษย์คนนั้นของพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นกระเด็นไปด้วยฝ่ามือเดียว

“อ๊าก!!”

ศิษย์คนนั้นของพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ร่างกระเด็นไปไกลกว่าสิบเมตร

เมื่อพูดถึงตรงนี้ อูชิ่งหาวก็หันไปมองศิษย์ที่ถูกอมตะชางเหม่ยตบเมื่อครู่ แล้วด่าว่า “ไอ้คนไร้ประโยชน์ ที่กว้างขนาดนี้ ทำไมต้องเดินผ่านตรงนี้ด้วย?”

“บ่าวคนนี้หน้าตาน่าเกลียด น่าขยะแขยงจริงๆ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของอมตะชางเหม่ยก็แดงก่ำ กัดฟันจ้องมองอูชิ่งหาว

“จ้องอะไร? นายเป็นกบหรือไง!”

อูชิ่งหาวเอ่ยอย่างหยิ่งผยอง “ฉันเป็นบุตรเทพรองของพื้นที่เทพฮุ่นตุ้น นายเป็นเพียงบ่าวต่ำต้อย ได้พบฉันเช่นนี้ถือเป็นบุญวาสนาแปดชาติของนาย...”

“หึ!” เยี่ยชิวแค่นเสียง แล้วก้าวออกมาข้างกายอมตะชางเหม่ย จ้องเขม็งไปยังอูชิ่งหาวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม อย่างเย็นชา และพูดว่า “กล้าตบหน้าบ่าวของฉันต่อหน้า ช่างโอหังนัก”

“ขอแนะนำให้นายรีบขอโทษบ่าวของฉันเดี๋ยวนี้”

“ไม่เช่นนั้น อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

อมตะชางเหม่ยถูกหยามเหยียด เยี่ยชิวในฐานะสหายย่อมต้องปกป้อง

ยิ่งไปกว่านั้น อูชิ่งหาวผู้นี้ก็อวดดีเกินไป

อูชิ่งหาวไม่เคยเห็นเยี่ยชิวอยู่ในสายตา เมื่อได้ยินคำพูดของเยี่ยชิวก็หัวเราะเยาะ “ให้บุตรเทพรองผู้นี้ขอโทษบ่าว? นายไม่กลัวเขาจะอายุสั้นเหรอ?”

แววตาของเยี่ยชิวเยือกเย็นลง “ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ขอโทษบ่าวของฉันเดี๋ยวนี้”

“นายคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้าพูดกับฉันแบบนี้ เชื่อไหมว่าฉันจะฆ่านายเดี๋ยวนี้?” อูชิ่งหาวพูดจบ ก็ปลดปล่อยจิตสังหารอันแข็งแกร่งออกมา

ทันใดนั้นก็มีเสียงเย็นชาหนึ่งดังขึ้น

“อูชิ่งหาว นายแข็งแกร่งมาก งั้นนายฆ่าฉันด้วยเลยเป็นไง?”

..........

เชิงอรรถ

[1] หงส์เหินท่ามกลางฝูงไก่ (鹤立鸡群) หมายถึง บุคคลผู้หนึ่งที่มีความสามารถโดดเด่นเหนือผู้อื่น เปรียบเสมือนหงส์อันสง่างามที่อยู่ท่ามกลางไก่ที่ดูธรรมดา ใช้เพื่อยกย่องผู้ที่มีความสามารถพิเศษ ความเฉลียวฉลาด หรือความงามที่โดดเด่นกว่าคนอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ