วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1913

สรุปบท บทที่ 1913 ร่วมมือกันโจมตีภูเขา: วิสารทแพทย์เทวัญ

ตอน บทที่ 1913 ร่วมมือกันโจมตีภูเขา จาก วิสารทแพทย์เทวัญ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1913 ร่วมมือกันโจมตีภูเขา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายความสามารถแปลก วิสารทแพทย์เทวัญ ที่เขียนโดย หูหยานล่วนหยู เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

"ตึง!"

ลูกศิษย์คนนั้นของพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นคุกเข่าลงกับพื้น แล้วขอให้อูชิ่งหาวยกโทษให้: "บุตรเทพ คุณได้โปรดอย่าทำลายพลังยุทธ์ของฉันเลยนะ ฉันฝึกฝนมาหลายร้อยปี ยากลำบากกว่าจะมีพลังยุทธ์ดังเช่นวันนี้......"

อูชิ่งหาวตัดบทคำพูดของเขา: "วางใจเถอะ ฉันจะไม่ทำลายพลังยุทธ์ของคุณหรอก"

เมื่อลูกศิษย์คนนั้นได้ฟังคำพูดนี้ ก็รีบคำนับต่ออูชิ่งหาวทันที: "ขอบคุณบุตรเทพ"

ตึง!

ทันใดอูชิ่งหาวก็ลงมือ เขาใช้ฝ่ามือตบไปบนหน้าผากของลูกศิษย์คนนั้นทันที

ทันใด หน้าผากของลูกศิษย์คนนั้นก็แยกออก และมันสมองก็ทะลักออกมา

และเสียชีวิตคาที่!

เยี่ยชิวเลิกคิ้วเล็กน้อย เขาเพียงแค่ต้องการทำลายพลังยุทธ์ของลูกศิษย์คนนั้นเท่านั้น แต่คาดไม่ถึงว่า อูชิ่งหาวจะสังหารคนโดยตรง

"ถึงอย่างไรก็เป็นศิษย์ร่วมสำนัก แต่เขานึกจะฆ่าก็ฆ่า โดยที่ตาไม่กะพริบแม้แต่น้อย เจ้าหมอนี่มันช่างโหดเหี้ยมอำมหิตจริงๆ!"

อูชิ่งหาวหยิบผ้าผืนเล็กออกมา เช็ดมือไปพลาง กล่าวไปพลางว่า: "ทำให้เขาต้องการเป็นคนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง เช่นนั้นก็สู้ให้เขากลายเป็นคนตายไปเสียเลยดีกว่า"

"ที่ฉันต้องทำเช่นนี้ ก็เพื่อเขา เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต่อไปเมื่อเขากลายเป็นคนไร้ประโยชน์แล้ว ต้องถูกคนดูถูกเหยียดหยาม"

พอพูดถึงตรงนี้ อูชิ่งหาวก็มองไปยังเยี่ยชิว แล้วกล่าวถามว่า: "ตอนนี้คุณพอใจแล้วหรือยัง?"

เยี่ยชิวกล่าวว่า: "เขาเป็นศิษย์ร่วมสำนักของคุณ แต่นึกจะฆ่าก็ฆ่า คุณไม่ละอายใจบ้างเลยเหรอ?"

อูชิ่งหาวกล่าวด้วยเสียงอันเยือกเย็นว่า: "ฉันเป็นบุตรเทพของพื้นที่เทพฮุ่นตุ้น ฉันจะจัดการอย่างไร คงจะไม่ต้องให้คุณมาวิพากษ์วิจารณ์หรอก"

ฉีเทียนกล่าวกับเยี่ยชิวว่า: "ศิษย์น้อง พวกเราไปกันเถอะ"

ตอนนี้ ฉีเทียนได้พาเยี่ยชิวและอมตะชางเหม่ยออกไป

พอพวกเขาจากไปแล้ว บรรดาลูกศิษย์ของพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นต่างก็แย่งกันพูดวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมา

"สำนักหยินหยางทำเกินไปแล้วจริงๆ"

"ทำร้ายคนของพวกเรา แถมยังจะให้พวกเรากล่าวขอโทษอีก ช่างน่ารังเกียจจริงๆ"

"บุตรเทพก็กล่าวขอโทษแล้ว ใครจะรู้ว่าพวกเขากลับยังไม่ยอมลดละ โดยเฉพาะศิษย์น้องคนนั้นของฉีเทียน พลังยุทธ์ต่ำต้อยขนาดนั้น แต่กลับวางท่าทีแข็งกร้าว ถ้าหากไม่ใช่ว่าฉีเทียนอยู่ตรงนี้นะ เขาก็คงจะต้องตายนับร้อยครั้งไปแล้ว"

"เพื่อเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ กลับทำให้เสี่ยวหวู่ต้องตาย เสี่ยวหวู่ช่างน่าเวทนาจริงๆ"

"ใครๆ ก็บอกว่าสำนักหยินหยางเป็นสำนักใหญ่อันดับสองของตงฮวง ถ้าหากรากฐานของพื้นที่เทพฮุ่นตุ้นของพวกเราแข็งแกร่งกว่าสำนักหยินหยาง เช่นนั้นพวกเขาจะกล้ามาโอ้อวดกำลังต่อหน้าพวกเราได้อย่างไรกัน"

“……”

"พอได้แล้ว!"

อูชิ่งหาวคำรามด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม และตัดบทคำวิพากษ์วิจารณ์ของลูกศิษย์ จากนั้นตะคอกออกมาว่า: "เป็นเพราะพวกคุณมันไม่เอาไหน ถ้าหากพวกคุณแต่ละคนมีพรสวรรค์ ไหนเลยฉีเทียนจะไม่ห้ามปรามศิษย์น้องของเขา?"

ลูกศิษย์กลุ่มนั้นต่างก็ก้มหน้า

กระทั่งมีบางคนคิดภายในใจว่า หรือว่าไม่ใช่เพราะบุตรเทพสู้ฉีเทียนไม่ได้ล่ะ?

ไม่เช่นนั้นละก็ ฉีเทียนจะเผด็จการเช่นนี้ได้อย่างไร?

อูชิ่งหาวกล่าวด้วยเสียงเบาๆ ว่า: "ฉันรู้ว่าพวกคุณมีความโกรธเคืองอยู่ภายในใจ ฉันก็โมโหเดือดดาลเหมือนกัน"

"ไม่ใช่แค่การทำร้ายคนรับใช้เพียงคนเดียวหรอกเหรอ ฉันกล่าวขอโทษแล้วยังไม่พอ กลับต้องการให้ฉันทำลายพลังยุทธ์ของเสี่ยวหวู่อีก มันช่างไม่สมเหตุสมผลเลยจริงๆ"

"เรื่องนี้ อย่าให้เผยแพร่ออกไปเป็นอันขาด"

"รอหลังจากที่กลับไปแล้ว ฉันจะรายงานกับปราชญ์ แล้วขอให้ปราชญ์ทำการตัดสินใจ"

อูชิ่งหาวพูดถึงตรงนี้ สายตาก็มองไปยังร่างของลูกศิษย์คนนั้นที่ถูกเขาสังหารจนตาย

ผู้โชคร้ายคนนี้ ชื่อว่าเสี่ยวหวู่

"สถานการณ์เมื่อครู่นี้ พวกคุณก็ได้เห็นแล้วว่า ฉันไม่อาจปกป้องเสี่ยวหวู่ได้"

"แทนที่จะทำลายพลังยุทธ์ของเสี่ยวหวู่ สู้สังหารเขาเสียดีกว่า"

"เสี่ยวหวู่ก็บอกแล้วว่า เขาฝึกฝนมาหลายร้อยปีกว่าจะมีพลังยุทธ์ดังเช่นตอนนี้ได้ ถ้าหกทำลายพลังยุทธ์ของเขา เช่นนั้นเขาก็คงจะต้องทุกข์ทรมานเสียยิ่งกว่าการสังหาร"

"ที่ฉันต้องทำเช่นนี้ ก็เพราะจนปัญญา"

อูชิ่งหาวกล่าวถึงตรงนี้ ก็กล่าวถามว่า: "เสี่ยวหวู่มีครอบครัวไหม?"

อูชิ่งหาวทอดถอนใจออกมาทันที แล้วกล่าวว่า: "ฉันเป็นคนที่มีจุดอ่อนอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือเป็นคนที่จิตใจดีงามจนเกินไป ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรก็มักจะชอบครุ่นคิดถึงคนอื่นอยู่เสมอ"

"ไปกันเถอะ!"

อูชิ่งหาวเอามือไพล่หลัง เงยหน้าขึ้นแล้วเดินไปยังทิศทางของภูเขาทองคำ

……

เยี่ยชิวและอมตะชางเหม่ย ตามฉีเทียน มาถึงด้านหน้าภูเขาทองคำ

เมื่อยืนอยู่ตรงหน้าภูเขาทองคำ เยี่ยชิวก็รับรู้ได้ถึงความยิ่งใหญ่ไม่ธรรมดาของยอดเขาลูกนี้ ราวกับสัตว์ร้ายไร้เทียมทานตัวหนึ่งที่กำลังหลับใหลอยู่

"ศิษย์พี่ ทำไมทุกคนถึงมารวมกันอยู่ที่นี่ล่ะ?" เยี่ยชิวกล่าวถาม

ฉีเทียนกล่าวว่า: "เพราะว่า มรดกจักรพรรดิมังกรอยู่ด้านในภูเขาลูกนี้ยังไงล่ะ"

"แล้วทำไมพวกคุณถึงไม่เข้าไปล่ะ?" เยี่ยชิวรู้สึกประหลาดใจ

ฉีเทียนทอดถอนใจแล้วกล่าวว่า: "ใครก็อยากจะเข้าไปทั้งนั้นแหละ แต่ว่า ไม่มีใครเข้าไปได้"

"เพราะอะไรเหรอ?" เยี่ยชิวไม่เข้าใจ

ฉีเทียนกล่าวว่า: "เพราะว่ายอดเขาลูกนี้ถูกผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานวางค่ายกลเอาไว้"

เยี่ยชิวตกใจ: "ค่ายกลอะไรกันที่ร้ายกาจขนาดนี้ ที่ทำให้พวกคุณใช้อัจฉริยะจำนวนมากขนาดนี้แล้วก็ยังไม่อาจเข้าไปได้?"

ฉีเทียนกล่าวว่า: "ฉันก็มองไม่ออกเหมือนกัน"

เยี่ชิวยิ่งตกใจ ฉีเทียน เซียวยี่เฉิน และเฉินเทียนมิ่ง แต่ละคนล้วนเป็นอัจฉริยะไร้เทียมทานรุ่นเยาว์ของตงฮวง คาดไม่ถึงว่า แม้แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้จักค่ายกลนี้

เยี่ยชิวกำลังเตรียมที่จะเปิดดวงตาสวรรค์ เพื่อมองดูอย่างละเอียดสักเล็กน้อย ว่าตกลงมันคือค่ายกลอะไรกันแน่ ที่ขัดขวางอัจฉริยะจำนวนมากขนาดนี้เอาไว้ได้

จู่ๆ ก็ได้ยินเฉินเทียนมิ่งเอ่ยปากขึ้นว่า

"ทุกท่าน หากพวกจะเฝ้ารออยู่ที่นี่ก็ไม่ใช้ปัญหาอะไร แต่เกรงว่าเรารอจนทะเลเหือดแห้ง หินผุกร่อน ภูเขาลูกนี้ก็ยังจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ฉะนั้น ฉันคิดว่าพวกเราจะต้องคิดหาวิธี เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบัน" เฉินเทียนมิ่งกล่าว

เซียวยี่เฉินก็คำรามขึ้นว่า: "เฉินเทียนมิ่ง มีอะไรก็รีบพูดออกมาเถอะ อย่าเก็บงำเอาไว้เลย"

เฉินเทียนมิ่งกล่าวว่า: "ความหมายของฉันคือ พวกเราต้องร่วมมือกันโจมตีภูเขา ทุกท่านมีความคิดเห็นว่าอย่างไร?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ