วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 2211

ทุกคนในนิกายดาบชิงอวิ๋นต่างต่างพากันเฉลิมฉลอง เหล่าผู้คนยกจอกสุราเฉลิมฉลองด้วยความชื่นมื่น บรรยากาศยิ่งทวีความครึกครื้นมากขึ้นเรื่อยๆ

ทว่า หลังจากงานเลี้ยงเพิ่งจะเริ่มขึ้นได้ไม่นานก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น

"ครืน!"

จู่ๆบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความกดดันก็แผ่ไปทั่วทุกพื้นที่

“นี่คือ...พลังของสวรรค์ลงโทษ!”

ตูม——

บนท้องฟ้าเกิดเสียงดังสนั่น และสายฟ้าหมื่นจั้งก็ผ่าลงมายังนิกายดาบชิงอวิ๋น

“ให้ตายเถอะ ใครมันโรคจิตมาฝ่าด่านสวรรค์ลงโทษในตอนนี้กันหะ บ้าไปแล้วเหรอไง” หลังจากที่อมตะชางเหม่ยพูดจบก็มีเจ้าเมืองคนนึงพุ่งตัวออกไปยังที่ไกลๆ สายฟ้าก็เปลี่ยนทิศทันที และผ่าไล่หลังเจ้าเมืองคนนั้นไป

เพียงไม่นาน สวรรค์ลงโทษก็กลืนกินร่างของเจ้าเมืองคนนั้นจนมองไม่เห็นร่างของเขาอีกต่อไป

ในตอนนั้น เจ้าเมืองอีกคนหนึ่งก็ลุกขึ้น

ผู้อาวุโสสูงสุด ท่านประมุข ข้าควบคุมพลังของตัวเองมิได้ และจำเป็นต้องฝ่าด่านสวรรค์ทันที ขอให้ท่านโปรดให้อภัย" ทันทีที่กล่าวจบ เจ้าเมืองคนนั้นก็รีบพุ่งตัวไปยังพื้นที่ห่างไกลออกไปเพื่อฝ่าด่านสวรรค์ลงโทษเช่นกัน

และยังมีเจ้าเมืองอีกหลายคนที่เป็นเหมือนเจ้าเมืองคนนี้

ชั่วขณะหนึ่ง ท้องฟ้าเหนือนิกายดาบชิงอวิ๋น ก็เต็มไปด้วยเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าไม่หยุด

จื่อหยางเทียนจุนยิ้มพร้อมกล่าวว่า "สิงโตเก้าเศียรของเฟิงว่านหลี่นั้นเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์หายาก เลือดเนื้อของมันแฝงไว้ด้วยพลังชีวิตอันแข็งแกร่ง หากกินเข้าไปจะช่วยเพิ่มระดับพลังการบำเพ็ญเพียรได้”

"ไหนจะปลาหยินหยางอีก นั่นก็ช่วยเลื่อนระดับพลังยุทธ์ได้เหมือนกัน"

“เจ้าเมืองพวกนี้กำลังอยู่ในช่วงชายขอบของระดับพลังยุทธ์ พอหลังจากที่พวกเขากินสิงโตเก้าเศียรกับปลาหยินหยางเข้าไปเลยทำให้พลังยุทธ์ก้าวกระโดดดังนั้นเรื่องฝ่าด่านสวรรค์ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้อยู่แล้วล่ะ”

“เพราะงั้นวันนี้ก็ถือว่าเป็นวันดีของนิกายดาบชิงอวิ๋น การที่เจ้าเมืองหลายคนเข้าสู่การฝ่าด่านสวรรค์ถือเป็นเรื่องมงคลอย่างยิ่ง พวกท่านลองฟังเสียงสายฟ้าเหล่านั้นดูสิ เสียงพวกนั้นราวกับเสียงประทัดเลยมิใช่เหรอ”

"มาเถอะ เรามาชนแก้วกันดีกว่า และอย่าหยุดจนกว่าคืนนี้เราจะเมา"

ทันทีจื่อหยางเทียนจุนพูดจบ บรรยากาศในบริเวณนั้นก็ยิ่งครึกครื้นมากขึ้น

เดิมที บรรดาเจ้าเมืองเหล่านั้นยังคงรักษาท่าทีสงบเสงี่ยมอยู่ ด้วยเกรงใจผู้อาวุโสสูงสุดและท่านประมุขจึงไม่กล้าดื่มกินกันอย่างเต็มที่ ทว่าทันทีที่จื่อหยางเทียนจุนเอ่ยปากออกมา บรรยากาศจึงค่อยผ่อนคลาย ทุกคนจึงลุกขึ้นยกจอกสุราและเริ่มผลัดกันดื่มคารวะให้แก่กันและกัน

ในช่วงเวลาสั้นๆ โต๊ะหลักก็ถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นจื่อหยางเทียนจุน หรือแม้แต่หยุนซานเองต่างก็ไม่ปฎิเสธการดื่มคารวะเลยสักคน และทุกครั้งที่เขารับจอกสุรามา พวกเขาก็จะดื่มจนหมดจอกภายในอึกเดียว

ทำให้วันนี้กลายเป็นวันที่มีความสุขจริงๆ

เยี่ยหวู่ซวงที่เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้อาวุโสใหญ่คนใหม่เองก็ใช้โอกาสนี้เพื่อผูกมิตรกับบรรดาเจ้าเมือง ซึ่งนั่นทำให้เยี่ยหวู่ซวงต้องยกจอกดื่มคารวะไม่หยุดเช่นกัน

เยี่ยหวู่ซวงก็เช่นกัน เขาเองก็ไม่ปฏิเสธใครที่มายกจอกคารวะ

เดิมที เซียนกระบี่ทั้งสี่ก็เป็นผู้อาวุโสของนิกายดาบชิงอวิ๋น แต่ตอนนี้พวกเขากลายเป็นศิษย์ของจื่อหยางเทียนจุนที่มีสถานะไม่ธรรมดา จึงทำให้บรรดาเจ้าเมืองเองก็มายกจอกคารวะพวกเขาเช่นกัน

เยี่ยชิวและอมตะชางเหม่ยเป็นแขกคนสำคัญ ดังนั้นพวกเขาจึงถูกยกจอกคารวะเป็นธรรมดา

ในความคิดของบรรดาเจ้าเมืองเหล่านั้น เยี่ยชิวเป็นลูกเขยของประมุขและยังเป็นลูกชายของผู้อาวุโสใหญ่อีก สถานะนั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ และบางทีในอนาคต อำนาจในการปกครองนิกายนิกายดาบชิงอวิ๋นอาจเป็นของเขา ด้วยเหตุนี้ บรรดาเจ้าเมืองจึงเคารพเย่อชิวและยกจอกคารวะให้กับเขาทีละคน

ทางฝั่งอมตะชางเหม่ยเองก็ถูกเหล่าเจ้าเมืองรุมล้อมอยู่เช่นเดียวกัน

เพราะว่าไอ้เเก่นั่นได้รับหินวิญญาณไปไม่น้อย บรรดาเจ้าเมืองจึงต้องการใช้โอกาสนี้มอมอมตะชางเหม่ยให้เมาจนหมดสภาพ พวกเขาจึงได้รุมล้อมเพื่อรินจอกเหล้าให้แก่เขา

หลังจากนั้นไม่นาน อมตะชางเหม่ยเมามายจนหน้าแดงคอแดงไปหมด

เขาเองก็เป็นคนฉลาดจึงรู้ว่าเจ้าเมืองจะต้องมีเจตนาอะไรสักอย่างแน่ๆ และรับรู้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากล เขาจึงพูดออกไปว่า "เจ้าเมืองทุกท่าน ได้โปรดหยุดก่อน ช่วยรับฟังคำพูดของข้าสักคำเถอะนะ"

“พวกท่านอาจจะยังไม่รู้ว่าตอนที่ข้าอยู่ที่โลกมนุษย์ ตัวข้าเป็นที่รู้จักในนามคนที่ดื่มเหล้าเก่งที่สุดในโลก เพราะข้าดื่มอย่างไรไม่เมาไงล่ะ”

"ข้าไม่ได้โม้นะ ถ้าเทียบกันเรื่องการดื่มล่ะก็ ต่อหน้าข้า พวกท่านก็เป็นได้แค่...."

"ขยะ!"

คำพูดนั้นราวกลับกำลังชักศึกเข้าบ้าน นั่นทำให้บรรดาเจ้าเมืองทั้งหลายไม่พอใจ

"เต้าจ่าง หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว มา มาแข่งกันดีกว่าว่าใครจะดื่มได้มากกว่ากัน"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ